หลังจากโทรศัพท์เสร็จ ผู้หญิงก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวีดีโอเช่นกัน เธอพูดทั้งน้ำตา “ทุกคนรีบดูเร็ว แม่ของฉันเข้ามาห้ามนักเลงพวกนี้ไม่ให้ทำร้ายผู้อำนวยการฉิน แต่พวกเขากลับทำร้ายแม่ของฉันด้วย! พวกเขามันไม่ใช่คน! ทุกคนรีบมาสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี! ทุกคนรีบมาสถาบันการแพทย์พรรคซวนอีเร็ว! มาจับพวกไร้มโนธรรมพวกนี้ให้หมด…”
“ไอ้เวร! ไม่จบใช่ไหม?”
ลูกศิษย์คนนั้นวิ่งเข้าไปตบหน้าของผู้หญิงคนนั้น
กระดูกกรามของเธอถึงกับหัก ล้มลงบนพื้นหมดสติโดยตรง
ในสายตาของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ คนธรรมดาก็ไม่ต่างอะไรจากมด หากพวกเขาต้องการฆ่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
แต่ว่า…นี่ไม่ใช่โลกยุทธภพในอดีต
นี่คือโลกที่มีกฎหมายคุ้มครองประชาชน
หลังจากจัดการผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อย ลูกศิษย์คนนั้นรู้สึกพึงพอใจมาก เขาถมน้ำลาย หันหลังแล้วเดินกลับมา
แต่หัวหน้าอาวุโสเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
“อาวุโส พวกเราต่อกันเถอะ ผมเชื่อว่าคนของสถาบันการแพทย์พรรคซวนอีจะต้องยอมจำนนแน่นอน” มีคนยิ้มแล้วพูด
“อืม งั้นต่อเลย!” หัวหน้าอาวุโสลังเลสักพัก แต่สุดท้ายก็พยักหน้า
ทุกคนเริ่มทรมานฉินไป่ซงต่อ
แต่ในตอนนั้นเอง
เอี๊ยด!
มีรถยนต์หลายคันขับมาจอดหน้าสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี หลังจากนั้นมีผู้ชายเจ็ดแปดคนวิ่งลงมา
“ใครรังแกผู้อำนวยการฉิน?”
“ผู้อำนวยการฉินทำความดีรักษาโรคโดยไม่คิดเงิน คนดีแบบนี้ไม่ต่างอะไรกับพระโพธิสัตว์เดินดิน! ไอ้สารเลวคนไหนที่กล้าทำร้ายเขา!”
ผู้ชายกลุ่มนั้นตะโกนเสียงดัง
“เหอะเหอะ พวกคนไม่รู้จักเจียมตัวยิ่งอยู่ก็ยิ่งมากันเยอะแล้ว”
ลูกศิษย์ของลัทธิโลหิตมารยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นพุ่งเข้าไปหาคนกลุ่มนั้นโดยไม่ลังเล
“โยนคนพวกนี้ออกไปให้หมด ไม่ต้องเกรงใจ หลังจากนั้นล็อคประตูด้วย!” หัวหน้าอาวุโสก็เริ่มไม่สบอารมณ์แล้ว
แต่ในตอนที่ลูกศิษย์ของเขาเตรียมลงมือ…
เอี๊ยด!
เอี๊ยด!
เอี๊ยด…
มีรถยนต์อีกหลายคันขับมาจอดหน้าสถาบันการแพทย์พรรคซวนอี ยิ่งไปกว่านั้นมีคนจำนวนมากวิ่งเข้ามาในสถาบันการแพทย์
การแต่งกายของคนพวกนี้แตกต่างกันออกไป ล้วนแต่เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้
หันไปมองแวบเดียว ถึงขั้นมีคนนับร้อยนับพันมารวมตัวกันที่หน้าประตู ราวกับเป็นตลาดนัด
“ใครรังแกผู้อำนวยการฉิน?”
“สวรรค์ นั้นผู้อำนวยการฉินเหรอ?”
“พวกเขาทำร้ายผู้อำนวยการฉินจริงเหรอ?”
“สัตว์เดรัจฉาน! สัตว์เดรัจฉาน!”
“ทำเรื่องแบบนี้กลางวันแสกๆ บ้านเมืองไม่มีเขื่อนไม่มีแปเหรอ?”
เห็นสภาพที่น่าเวทนาของฉินไป่ซง ทุกคนรู้สึกโกรธมาก
พวกเขารุมล้อมกันเข้ามา
ลูกศิษย์ของลัทธิโลหิตมารตกตะลึง
แม้วิชาศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่ง แต่พลังมวลชนก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เห็นคนจำนวนมากเริ่มรุมล้อมกันเข้ามา สีหน้าของแต่ละคนดูโกรธแค้น…
คนของลัทธิโลหิตมารมองตาค้าง
คนของสถาบันการแพทย์พรรคซวนอีก็ตกตะลึงเช่นกัน
“ปล่อยคนเดี๋ยวนี้!”
ในตอนนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนขึ้นก่อน
จากนั้นผู้คนเริ่มตะโกนเสียงดังพร้อมกัน “ปล่อยคน! ปล่อยคน! ปล่อยคน!”
เสียงดังกึกก้องไปทั่ว
คนของลัทธิโลหิตมารรู้สึกกดดันเพิ่มขึ้นสองเท่า
“อาวุโส!”
ทุกคนหันไปมองทางหัวหน้าอาวุโส แววตาของแต่ละคนดุร้ายมาก
หัวหน้าอาวุโสพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ไอ้พวกคนไม่รู้จักคำว่าตาย กล้ายุ่งเรื่องของลัทธิโลหิตมารเหรอ? ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจ! ลงมือ! ทำให้พวกเขารู้ถึงความร้ายกาจของพวกเรา!”
“รับทราบ!”
ลูกศิษย์ของลัทธิโลหิตมารตะโกนขึ้นพร้อมกัน ทุกคนเริ่มเตรียมตัวลงมือ
ก็แค่คนธรรมดา มีหรือที่พวกเขาจะรับมือไม่ได้?
ตายในตอนนั้นเอง…
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!
เอี๊ยด…
มีรถยนต์และฝูงชนจำนวนมากทยอยพุ่งเข้ามาในสถาบันการแพทย์
ทั่วทั้งสถาบันการแพทย์มีคนมารวมตัวกันหลายพันคนแล้ว
พวกลูกศิษย์ที่เตรียมตัวลงมือหยุดชะงักอีกครั้ง เบิกตากว้างกว่าสายตามองโดยรอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...