“แค่นี้นับประสาอะไร? หลินหยางและจั่วคุนเสวี่ยล้วนแต่เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก พวกเราไม่สามารถเก็บพวกเขาสองคนไว้ในสำนักสวรรค์นิรันดร เป็นเพราะฉันไร้ความสามารถ ฉันทำผิดต่อบรรพบุรุษของสำนักสวรรค์นิรันดร”
“เจ้าสำนักอย่าโทษตัวเอง จั่วคุนเสวี่ยได้รับการปลูกถ่ายเลือด และยังสามารถฝึกพระสูตรแพทย์ยุทธสำเร็จ ไม่รู้ว่ามีดีกว่าหลินหยางเท่าไหร่! สำนักสวรรค์นิรันดรมีจั่วคุนเสวี่ย จำเป็นต้องมีหลินหยางด้วยเหรอ? คุณเลือกจั่วคุนเสวี่ย ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดมากที่สุดแล้ว!” อาวุโสสามยิ้มแล้วพูด
เจ้าสำนักโม่ซินถอนหายใจ หันไปพูดกับเชียนเย่ “ที่ผ่านมาฉันเคารพการตัดสินใจของลูกศิษย์มาโดยตลอด ถ้าหากหลินหยางยินดีไปจากสำนักสวรรค์นิรันดร ฉันก็จะไม่ห้าม!”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้เกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นทันที
แต่ไม่นานทุกคนก็เข้าใจ
“เจ้าสำนักเตรียมตัวปล่อยหลินหยางไป?”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ? เจ้าสำนักเลือกจั่วคุนเสวี่ยแล้ว แสดงว่าหลินหยางหมดโอกาสที่จะกลายเป็นลูกศิษย์ของเจ้าสำนัก เสือสองตัวไม่สามารถอยู่ถ้ำเดียวกัน เมื่อเป็นแบบนี้ หลินหยางต้องไม่พอใจแน่นอน ตอนนี้รองเจ้าสำนักสวรรค์อินทนิลออกมาเชิญเขา มีหรือที่เขาจะไม่ไป?”
“อยู่สำนักสวรรค์นิรันดรต่อก็มีแต่ทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลก! ศิษย์พี่จั่วใช่คนที่หลินหยางสามารถเทียบเหรอ?”
“อันที่จริงเจ้าสำนักกำลังคิดเผื่อหลินหยาง”
“หลินหยางไปก็ดีแล้ว จะได้ไม่ทำให้พวกเราขายหน้า!”
ผู้คนพากันซุบซิบนินทาหลินหยาง
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ คนของสำนักสวรรค์อินทนิลดีใจขึ้นมาทันที
เชียนเย่รีบหันไปพูดกับหลินหยาง “หลินหยาง คุณยินดีตามพวกเรากลับสำนักสวรรค์อินทนิลหรือเปล่า?”
“สำนักสวรรค์อินทนิล?” หลินหยางขมวดคิ้ว เขาเข้าใจสถานการณ์ของตนเองแล้ว
“ถ้าคุณพยักหน้า สำนักสวรรค์อินทนิลจะทุ่มทรัพยากรทุกอย่างที่มีเพื่อปลูกฝังคุณ!” เชียนเย่รีบพูด
หลินหยางเงียบ
“เหอะ ก็แค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง! คนของสำนักสวรรค์อินทนิลกลับเห็นเขาเป็นสมบัติล้ำค่าไปแล้ว? น่าขำสิ้นดี” ทางด้านของจั่วคุนเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะพูด
ตอนนี้เขาคือผู้ชนะ สายตาที่มองคนแพ้อย่างหลินหยางย่อมเต็มไปด้วยความดูถูก
“ไร้ประโยชน์? ไอ้หนู คนอย่างคุณคู่ควรที่จะเทียบกับหลินหยางด้วยเหรอ? คิดจะเอาหิ่งห้อยมาเทียบกับดวงจันทร์?” ทางด้านของเจิ้งฮั่นซานพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“คุณพูดอะไรนะ?” จั่วคุนเสวี่ยโกรธมากแล้ว
เจิ้งฮั่นซานอยากพูดต่อ แต่โดนเชียนเย่ที่อยู่ด้านข้างห้าม “เจิ้งซาน อย่าพูดมาก”
“รับทราบ” เจิ้งฮั่นซานเงียบทันที
ในตอนนั้นเอง หลินหยางเอ่ยปากพูดแล้ว
“เดิมทีผมอยากอยู่สำนักสวรรค์นิรันดร แต่ดูจากท่าทีของเจ้าสำนัก ถ้าผมอยู่ต่อก็ดูเหมือนจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ในเมื่อเป็นแบบนั้น ผมหลินหยางไปจอดที่นี่ดีกว่า”
“ดีมาก! หลินหยาง พวกเราไปกันเดี๋ยวนี้เลย” เชียนเย่รีบพูด
แต่หลินหยางกลับส่ายหัว “รองเจ้าสำนักเชียน ถึงผมไปจากที่นี่ แต่ก็ใช่ว่าผมจะเข้าร่วมสำนักสวรรค์อินทนิลของคุณ! อันที่จริงผมไม่ได้สนใจสำนักพรรคไหนเลย ที่ผมกลับสำนักสวรรค์นิรันดรก็เพื่อรักษาตัว และไขข้อสงสัยเกี่ยวกับวิชาแพทย์ที่ไม่เข้าใจ ในเมื่อผมกับสำนักสวรรค์นิรันดรมีวาสนาต่อกันแค่นี้ ผมก็ควรไปจากที่นี่ได้แล้ว ส่วนสำนักสวรรค์อินทนิล ผมขอไม่ไปดีกว่า!”
“หา? หลินหยาง นี่…” เชียนเย่ตกตะลึง
หลินหยางหันไปยกมือคำนับอาวุโสสอง “อาวุโสสอง ลาก่อน”
“เห้อ…” อาวุโสสองถอนหายใจ ในแววตาเต็มไปด้วยความเสียดายและช่วยไม่ได้ “หลินหยาง ในเมื่อนี่เป็นการตัดสินใจของคุณ ผมพูดมากก็คงไม่เหมาะสม คุณ…รักษาตัวด้วยก็แล้วกัน…”
“อาวุโสสองก็เช่นกัน”
หลินหยางยกมือขึ้นคำนับอีกครั้ง หันหลังเตรียมตัวไปจากที่นี่
แต่ในตอนนั้นเอง มีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาขวางทางของเขา!
จั่วคุนเสวี่ย!
เขาจ้องหลินหยางด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ พูดเสียงแหบ “ใครอนุญาตให้คุณไป?”
“ศิษย์พี่จั่ว? มีธุระอะไรเหรอ?” หลินหยางมองเขาด้วยสายตาที่เฉยเมย
“หลินหยาง สำนักสวรรค์นิรันดรเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คุณบอกอยากมาก็มา อยากไปก็ไปอย่างนั้นเหรอ? คิดจะไปมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด!” จั่วคุนเสวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“คุณหมายความว่ายังไง?”
“เมื่อกี้คนของสำนักสวรรค์อินทนิลบอกว่าผมสู้คุณไม่ได้! พวกเขาเห็นคุณเป็นหยกล้ำค่า พวกเขาบอกว่าพรสวรรค์ของคุณอยู่เหนือกว่าผม! เหอะเหอะ ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นคุณสู้กับผมสักยก! หลังจากสู้จบคุณค่อยไสหัวไป!” จั่วคุนเสวี่ยพูดอย่างมั่นใจ
คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทุกคนหันไปมองจั่วคุนเสวี่ยพร้อมกัน
ไม่ว่าใครก็เข้าใจเจตนาของจั่วคุนเสวี่ย!
เขาต้องการตบหน้าคนของสำนักสวรรค์อินทนิลเพื่อเอาใจเจ้าสำนักสวรรค์นิรันดร!
ในขณะเดียวกันเขาก็จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าสำนักโม่ซินตัดสินใจถูกต้องแล้ว!
เขา ถึงจะเป็นลูกศิษย์ที่เพียบพร้อมมากที่สุด!
ไม่มีใครสามารถเทียบกับเขา!
เขาต้องการเหยียบหลินหยางให้จมดิน!
หลินหยางขมวดคิ้ว “ทำไมผมต้องสู้กับคุณ? ชนะแล้วผมได้ผลประโยชน์อะไร”
“เหอะเหอะ กลัวเหรอ! ถ้าหากคุณไม่กล้าก็พูดมาเถอะ!” จั่วคุนเสวี่ยพูดเยาะเย้ย
หลินหยางไม่ใส่ใจ
ทว่าในตอนนั้นเอง จั่วคุนเสวี่ยหันไปพูดกับอาวุโสสอง “อาวุโสสอง คุณฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่คนไร้ประโยชน์แบบนี้เหรอ? ดูเหมือนบางครั้งคุณก็พลาดได้เหมือนกัน! อาวุโสสอง คงเป็นเพราะอายุของคุณเริ่มมากแล้ว! ถ้าหากเป็นเพราะแก่จนเลอะเลือน ผมว่าคุณรีบเกษียณตัวเองดีกว่า!”
คำพูดประโยคนี้อวดดีเพียงใด!
“บัดซบ! คุณพูดอะไรนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...