สรุปเนื้อหา บทที่ 1552 ไร้ยางอาย (หนึ่ง) – สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา โดย เฮยเย่เต๋ถอง
บท บทที่ 1552 ไร้ยางอาย (หนึ่ง) ของ สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา ในหมวดนิยายนิยายปัจจุบัน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เฮยเย่เต๋ถอง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ผู้จัดงานเลี้ยงหันมาทันที
และได้เห็นสวีเยว่และเพื่อนๆ ของเขาเดินออกจากฝูงชน
"สวีเยว่ คุณกำลังทำอะไร? อย่าพูดจาเหลวไหลแบบนี้! ทำไมคุณหลินจะไม่ใช่หมอ? นายอย่าสร้างเรื่องรบกวนเลย!" ฉีเฉี่ยวถงร้อนใจและรีบเข้าห้ามสวีเยว่
แต่ตอนนี้สวีเยว่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
หลินหยางทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าคนจำนวนมาก ทำให้เขาไม่มีที่ยืน เขาโตมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่มีใครกล้าทำกับเขาแบบนี้เลย
สวีเยว่ในตอนนี้มีความโกรธและความแค้นเข้ามาบดบังมากกว่าความชอบที่มีให้ต่อฉีเฉี่ยวถง
เขาต้องการแก้แค้น!
"คุณสี! ผมขอเตือนคุณว่าอย่าให้คนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าแบบนี้มาทำการรักษาให้กับคุณปู่ฟู่เลยครับ หากเป็นอะไรไป ตระกูลฟู่จะเอาเรื่องคุณได้นะครับ" สวีเยว่หัวเราะชอบใจ
"คุณคือ?"
"คุณสีเป็นผู้มีเกียรติ ไม่รู้จักคนต่ำต้อยอย่างผมก็สมควรแล้ว ผมชื่อสวีเยว่ เป็นแค่หัวหน้าหมอแผนกอายุรกรรมโรงพยาบาลในเครือที่สองของมหาวิทยาลัยเยี่ยนเท่านั้น" สวีเยว่ยิ้ม แม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
"โรงพยาบาลในเครือที่สองของมหาวิทยาลัยเยี่ยน?"
ทุกคนต่างเบิกตากว้าง
"นี่เป็นหมอที่มีชื่อเสียงในโรงพยาบาลใหญ่เชียวนะ!"
"ว่ากันว่าคนที่สามารถเข้าไปทำงานในโรงพยาบาลในเครือที่สองของมหาวิทยาลัยเยี่ยนได้นั้น อย่างน้อยจะต้องจบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยการแพทย์เซี่ยงไฮ้! ผู้ชายคนนี้ออกจะอายุน้อย แต่กลับได้เป็นหัวหน้า...เก่งมากเลย"
"ใช่จริงๆ ด้วย"
บรรดาแขกผู้มีเกียรติต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา
ผู้ที่สามารถเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ได้จะต้องเป็นผู้ที่มีฐานะร่ำรวยอย่างมาก และมีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จจากความพยายามของตัวเอง จึงจะสามารถเข้ามาในสถานที่แบบนี้ได้
สำหรับคนประเภทนี้ บรรดาคนไฮโซมหาเศรษฐีเหล่านี้ก็ให้ความยกย่องชื่นชมมาก อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการแพทย์ แบบนี้ใครจะกล้าดูถูกได้?
เพราะทุกคนล้วนต่างต้องเจ็บป่วยไม่ใช่เหรอ?
"ที่แท้ก็คุณสวีนี่เอง สวัสดี!"
ผู้มีเกียรติในงานต่างพยักหน้าและจับจ้องไปยังหลินหยางที่กำลังทำการรักษาและกล่าวอย่างเคร่งขรึม "คุณสวี เมื่อกี้คุณบอกว่าชายคนนี้ไม่ใช่หมอ? เรื่องราวเป็นยังไงกันแน่?"
"ยังไม่เข้าใจอีกเหรอครับ? เจ้าหมอนี่ไม่ใช่หมอ แต่กลับจงใจโกหกหลอกลวงว่าตัวเองเป็นหมอ เพียงแค่ต้องการความเห็นใจจากคนอื่น ผมจะบอกความจริงกับทุกคนนะครับ ตอนนี้อาการของคุณปู่ฟู่วิกฤติมาก หากปล่อยให้เขาทำอะไรมั่วๆ ต่อไปแบบนี้ คุณปู่ฟู่จะต้องถึงแก่ชีวิตแน่!" สวีเยว่กล่าว
"อ๋า?
ทุกคนต่างตกใจกันอย่างมาก
"ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"เร็วเข้า รีบเข้าไปห้ามผู้ชายคนนั้นเร็ว!"
"ปัดโธ่ ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่? ใครกล้าพาเขาเข้ามาก่อเรื่องในนี้?"
ทุกคนต่างโมโหอย่างเดือดดาล
ในฐานะที่สวีเยว่เป็นหัวหน้าแผนกอายุรกรรมของโรงพยาบาลในเครือที่สองมหาวิทยาลัยเยี่ยน ทำให้คำพูดของเขาฟังดูน่าเชื่อถือและมีน้ำหนักมาก และทำให้บรรดาแขกผู้มีเกียรติในงานต่างพากันเชื่อคำพูดของเขา
"จับตัวเขาไว้!" ผู้จัดงานเลี้ยงชี้ไปที่เขาและตะโกนออกมาด้วยสีหน้าดุร้าย
"ครับ"
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนหนึ่งวิ่งเข้าไปจับตัวหลินหยาง
หลินหยางที่กำลังจดจ่อกับการช่วยชีวิตคนก็ได้สะดุ้งและตกตะลึงเล็กน้อย
เขาลุกขึ้นและพยายามดิ้น "พวกคุณกำลังทำอะไร?"
"ทำอะไร? คุณเป็นใครกันแน่? ใครบอกให้คุณเข้ามา?" คุณสีผู้จัดงานเลี้ยงกล่าวออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
"คุณฟังให้ดีนะ! ถ้าคุณปู่ของฉันเป็นอะไรไป ผมจะให้ครอบครัวคุณทั้งหมดต้องสังเวยชีวิตตามไปด้วย!" ชายหนุ่มคนนั้นตะคอกใส่หลินหยางอย่างโมโห
"ยังมีคนที่น่าขยะแขยงแบบนี้อยู่อีกเหรอ? ต้องการความเห็นใจจากตระกูลฟู่ก็เลยมาทำเรื่องแบบนี้?"
"ไร้ยางอายชะมัดเลย!"
"คนแบบนี้ ตระกูลฟู่อย่าปล่อยไปง่ายๆ เชียวนะ! ต้องจัดการซะให้เข็ด!"
"ที่นี่ที่ไหนกัน ทำให้คนชั้นต่ำแบบนี้ถึงเข้ามาได้?"
ทุกคนต่างกล่าวโทษกันอย่างครึกโครมด้วยความโกรธ
คุณสีผู้จัดงานเก็บกลั้นความโกรธและกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากล่าวโทษคนอื่น คุณสวี ผมได้โทรเรียกรถพยาบาลไว้แล้ว พวกเขาน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ส่วนคุณปู่ฟู่ทางนี้รบกวนคุณช่วยระงับอาการของเขาไว้ก่อน และอย่าให้เกิดอะไรขึ้น ไม่งั้นทุกคนคงแย่แน่ๆ"
สวีเยว่ยังคงพยายามทำให้คุณปู่ฟู่อาเจียนออกมา
ผ่านไปครู่หนึ่ง คุณปู่ฟู่ก็สำลักออกมาจำนวนมาก
ทำให้มีกลิ่นเปรี้ยวลอยในอากาศ
ทุกคนต่างพากันปิดจมูก
สวีเยว่กลับดีใจและยิ้มออกมา "ไม่เป็นไร! คุณปู่ไม่เป็นอะไรแล้ว คุณสีส่งคุณปู่ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลได้เลยครับ ไม่กี่วันคุณปู่ก็จะหายเป็นปกติครับ"
"ครับ!"
คุณสีรีบไปจัดการ
"หมอสวีขอบคุณมากๆ เลยครับ!"
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เหมือนคนในตระกูลฟู่เดินเข้าไปจับมือสวีเยว่และกล่าวอย่างตื่นเต้น "หมอสวี ตระกูลฟู่ของเราจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไม่มีวันลืมเลยครับ! เดี๋ยวผมจะแจ้งไปทางตระกูลและจะไปขอบคุณอีกครั้งอย่างเป็นทางการครับ!"
"เอ่อไม่เป็นไรครับๆ! การช่วยเหลือผู้อื่นถือเป็นหน้าที่ของผู้เป็นหมออยู่แล้วครับ! ผมเป็นหมอคนหนึ่งและนี่ก็เป็นหน้าที่ของผม!" สวีเยว่กล่าวอย่างเกรงใจ แต่ในใจเขากลับดีใจจนมือสั่น
สามารถได้รับความไว้วางใจจากตระกูลฟู่แห่งเยี่ยนจิง ก็ทำให้เขารู้ว่าชีวิตนี้ไม่เสียชาติเกิดแล้ว
ทุกคนต่างร่วมยินดีไปกับสวีเยว่
บรรดาเพื่อนๆ ต่างก็ดีใจและรวมตัวกัน
"เหล่าสวี! นายเจ๋งชะมัดเลย! ตอนนี้ก็มีความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลฟู่เข้าแล้ว เราเทียบไม่ได้กับนายเลย"
"จริงด้วยๆ"
"เฉี่ยวถง! เหล่าสวีก็ดีไม่น้อยเลยนะ ฉันว่าเธอนะไม่ต้องเลือกเยอะอะไรแล้ว อย่าตาบอดเห็นหมาวัดเป็นเทพบุตร เทพบุตรที่แท้จริงยืนอยู่ตรงนี้นี่!"
บรรดาเพื่อนๆ ต่างพูดหยอกล้อกัน หนึ่งในนั้นพูดได้อย่างมีเลศนัย
หากจะบอกว่าสวีเยว่เหมาะสมกับฉีเฉี่ยวถงในตอนนี้ งั้นอนาคตหากพวกเขาต้องการให้สวีเยว่ขอความช่วยเหลือจากตระกูลฟู่ จะต้องเป็นเรื่องง่ายดายอย่างมากแน่
ทำให้ทุกคนต่างพูดยกยอสวีเยว่อย่างดี และพากันผลักฉีเฉี่ยวถงเข้าหาสวีเยว่
สวีเยว่หัวเราะชอบใจจนหุบไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...