ซูเหยียนกัดริมฝีปากบางๆ ของเธออย่างแน่นและน้ำตาที่เศร้าโศกของเธอก็ไหลลงมาบนใบหน้าที่ขาวใสของเธอ
แต่เธอไม่พูดอะไร เพียงขึ้นรถอย่างเงียบๆ และมุ่งหน้าไปยังคลินิกของลั่วเฉียน
แม้ว่าเธอจะคอยถูแก้มของเธอระหว่างทางเพื่อไม่ให้รอยฝ่ามือบนใบหน้าของเธอชัดเจนนัก เมื่อเธอมาถึงคลินิก ลั่วเฉียนก็เห็นว่าบางอย่างผิดปกติ และก็หลินหยาง
"ใบหน้าของเธอเป็นอะไร?"
หลินหยางที่กำลังกินข้าวเช้าอยู่วางเส้นบะหมี่ในมือลงและขมวดคิ้วถาม
"ไม่เป็นอะไร ฉันแค่ทะเลาะกับพ่อ เขาโกรธมากเลยตบฉัน" ซูเหยียนพูดเสียงเบาๆ
"พ่อของคุณตอนนี้ยังใส่เฝือกอยู่นะ เขาทำแบบนี้หรอ?" หลินหยางไม่พอใจกับคำโกหกของซูเหยียน และเปิดเผยโดยตรง
ซูเหยียนกัดปากก่อนที่จะบอกเหตุผลตรงๆ
"อะไรนะ? โหดร้ายเกินไปแล้ว สมกับเป็นลูกแท้ๆ จริงๆ หัวหม่านเฉินนั่นมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน แม่ของเขาก็ไม่ได้ต่างกัน!" ลั่วเฉียนกัดฟัน
"เฉียนๆ ช่างเถอะ ฉันไม่อยากไปคิดแค้นกับคนแบบนั้น!" ซูเหยียนส่ายหน้า
"เสี่ยวเหยียน เธอคิดว่าถ้าไม่คิดแค้นอะไรกับเธอแล้วคนแบบนี้จะไม่มาหาเธออีกหรอ? ผิดแล้ว นี่เป็นเพียงการเตือน คราวหน้ายังไงเธอคนนั้นก็จะทำอีก" ลั่วเฉียนพูดอย่างจริงจัง
"แต่..ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง..." ซูเหยียนพูดเบาๆ
ลั่วเฉียนเป็นใบ้ทันที เธอมองไปที่หลินหยางข้างๆ และไม่ได้ส่งเสียง
ซูเหยียนเหมือนจะคิดอะไรออก จากนั้นก็หยิบการ์ดหนึ่งในออกมาจากกระเป๋าและส่งให้หลินหยาง
"นี่คืออะไร?" หลินหยางกำลังกินข้าวอยู่ ถามด้วยความงุนงง
"ในนี้มีอยู่สองล้าน ฉันเอาเงินออกทั้งหมดและเงินจากการขายบ้านใส่ไว้ในนี้แล้ว อีกสองล้านที่เหลือฉันจะรีบหามาคืนให้" ลั่วเฉียนตอบ
"อะไรนะ? เสี่ยวเหยียน เธอขายบ้านตัวเองหรอ? แล้วเธอจะไปอยู่ไหน?" ลั่วเฉียนผงะ
"ฉันจะย้านไปอยู่ที่บริษัทสักพักหนึ่ง ตอนนี้เยว่เหยียนกำลังเข้าที่เข้าทางแล้ว น่าจะทำกำไรได้ในไม่ช้า ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะเรียบร้อย" ซูเหยียนยิ้มออกมา
สายตาของลั่วเฉียนเป็นกังวล ไม่พูดอะไร
ซูเหยียนพูดต่อ: "ฉันมีห้องเหลือไว้ให้คุณ คุณไปอยู่ที่บริษัทกับฉันก็ได้"
เมื่อพูดเสร็จ เธอก็หันหน้าไปมองหลินหยางอย่างระมัดระวัง
ลั่วเฉียนแปลกใจเช่นกัน
จากนั้น หลินหยางก็พยักหน้าเบาๆ: "เข้าใจแล้ว"
ลั่วเฉียนถอนหายใจทันที
"ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม?" ซูเหยียนลังเลสักพัก จากนั้นก็เอ่ยปากออกมา
"อยากจะถามว่าทำไมผมถึงได้เชิญหมอเทวดาหลินได้ใช่ไหม ทำไมถึงมีเงินสี่ล้านใช่ไหม?" หลินหยางพูด
"ใช่" ซูเหยียนพยักหน้าอย่างจริงจัง
หลินหยางลังเลสักพัก
เขาเชื่อว่า ถ้าบอกตัวตนกับซูเหยียนไปตอนนี้ ซูเหยียนจะต้องเชื่ออย่างแน่นอน แต่ก็ยากที่เธอจะรับมันได้
นอกจากนี้ถ้าเกิดบอกเรื่องนี้ไปแล้ว ทางเยี้ยนจิงก็จะตรวจสอบถึงเขาได้ในทันทีอย่างแน่นอน ทั้งคนของตระกูลหัวและคนทางฝ่ายใต้นั้นก็อยู่ในเจียงเฉิน หลายคนกำลังจับตามองอยู่ การเปิดเผยเรื่องตัวเองในเวลานี้ไม่ใช่เรื่องที่ดี
หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า หลินหยางก็ตัดสินใจจะปกปิดตัวเองเป็นเวลาชั่วคราว รอไปเยี้ยนจิงแล้วค่อยบอกทั้งหมดกับซูเหยียนละกัน
"เพราะประธานหลินชอบในพรสวรรค์ของผม!" หลินหยางพูดมั่วซั่วออกมา
"พรสวรรค์ของคุณหรอ?" ซูเหยียนผงะ
"ใช่ คุณน่าจะรู้ ผมก็เข้าใจทักษะทางการแพทย์อยญู่ ประธานหลินมองเห็นในความรู้ทางการแพทย์ของผม ดังนั้นเลยเป็นเพื่อนกับผม และให้ผมยืมเงินสี่ล้านอย่างไม่มีเงื่อนไข!"
"ง่ายขนาดนี้เลยหรอ?" ซูเหยียนยากที่จะเชื่อ
"ก็แท่านี้แหละ!" หลินหยางทำท่าทีเด็ดขาด
ซูเหยียนยังคงยอมรับไม่ได้เล็กน้อย
แต่ไม่นานเธอก็พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง: "ในเมื่อประธานหลินยอมเป็นเพื่อนกับคุณ งั้นคุณก็ต้องพยายามเข้า อย่าทำลายความไว้ใจของประธานหลิน! สี่ล้านนั่นคุณต้องคืนกับเขา คุณช่วยฉันบอกเขาด้วยว่าขอเวลาเราหนึ่งเดือน หลังจากหนึ่งเดือนฉันจะจัดการคืนเงินอีกสองล้านที่เหลือให้กับเขา"
"เสี่ยวเหยียน คุณไม่จำเป็นต้องรีบคืนหรอก ไม่เป็นไร" หลินหยางพูด
"นี่คือเงินของประธานหลิน ไม่ใช่เงินของคุณ เงินของคนอื่น ไม่ควรใช้เวลานานในการคืน...ฉันกลับก่อน"
ซูเหยียนพูดอย่างเคร่งครัด ลุกขึ้นและเดินออกไปด้านนอก
เมื่อถึงหน้าประตู จู่ๆ เธอก็หยุดอีกครั้ง
"หลินหยาง!"
"ทำไมหรอ?" หลินหยางถามด้วยความแปลกใจ
กลับได้ยินซูเหยียนสูดหายใจลึกๆ พูดเสียงต่ำ: "คุณสามารถได้รับคำชื่นชมจากประธานหลิน นี่คือโอกาสของคุณ หวังว่าครั้งนี้คุณจะพยายามอย่างมากและพยายามสร้างอาชีพ อย่าทำให้ทุกคนผิดหวัง โอเคไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...