ทุกคนต่างมองหน้ากันไปมาและไม่พูดอะไร
เย่ซินอวี่เองก็ตกใจและคิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะทำแบบนี้
แบบนี้ทำให้อำนาจในการต่อรองตกเป็นของพวกเขาสองคน
"ไอ้ลูกหมา อย่าอวดดีไปหน่อยเลย ฉันดูแล้วคุณก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรเท่าไร อีกอย่างแค่ก้อนหินกระจอกก้อนเดียวจะทำลายดอกบัวขาวล้างโลกได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?" เริ่นหรานกล่าว
"คุณไม่เชื่อ? งั้นจะลองดูไหม? ดูว่าก้อนหินนี้สามารถทำลายดอกบัวขาวล้างโลกนี้ได้ไหม?" หลินหยางกล่าวพร้อมกับเตรียมลงมือ
"หยุด!" เยี่ยนฉีรีบตะโกน "ฉันตกลงทำตามความต้องการของคุณ!"
"เยี่ยนฉี!" เริ่นหรานร้องอุทาน
"หุบปาก!" เริ่นหรานกล่าวเคร่งขรึม "พวกเขาอยากไปก็ปล่อยพวกเขาไป เพียงแค่ได้ดอกบัวขาวล้างโลกมาครองสำเร็จ แล้วเราจะยังกลัวอะไรอีก? ถึงตอนนั้นเธออยากฆ่าพวกเขาสองคนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร"
"เอ่อ...ก็ได้" เริ่นหรานลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพยักหน้า
เยี่ยนฉีรีบหันไปส่งสัญญาณให้ลูกน้อง
บรรดาลูกน้องต่างถอยหลังออกไป
แม่มดอูไห่กวาดสายตามองหลินหยางอย่างเกรี้ยวกราดและประหลาดใจพร้อมกับหันไปกล่าว "คุณเยี่ยนฉี ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย คุณต้องระวังตัวด้วยนะ"
"คุณคิดมากไปแล้ว เรามีกันเยอะขนาดนี้ยังจะไปกลัวอะไรเจ้าหมอนั่น? อีกอย่างเรามีคุณอยู่ทั้งคน" เยี่ยนฉีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แม่มดอูไห่ไม่พูดอะไร ทว่าความสงสัยในแววตาของเธอกลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
"เตรียมรถ"
เยี่ยนฉีตะโกนอีกครั้ง
จากนั้นลูกน้องคนหนึ่งก็โยนกุญแจรถให้กับหลินหยาง
หลินหยางรับและหันไปกล่าว "ซินอวี่ เธอกลับไปก่อน"
ซินอวี่สะดุ้งและมองหลินหยางอย่างตกใจ
อันที่จริงเธอค่อนข้างดูถูกหลินหยางอย่างมากและรู้สึกว่าเขาคนนี้ไร้ความสามารถ รูปร่างหน้าตาก็ธรรมดาไม่เหมาะสมกับพี่สาวของเธอเลยสักนิด เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมซูเหยียนต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ด้วย
ทว่าวันนี้เธอกลับรู้ว่าตัวเองคิดผิด
คนจะดีหรือเลวไม่ได้ขึ้นอยู่กับหน้าตา
เธอไม่รู้จักหลินหยางเลยสักนิดเดียว
เธอไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าหลินหยางจะออกหน้าช่วยเธอในยามวิกฤติและอันตรายขนาดนี้
"หลินหยาง ถ้าฉันไปแล้วคุณจะทำยังไง?" เย่ซินอวี่กลั้นน้ำตาเอาไว้และกัดฟันกรอด
"ไม่ต้องห่วง ยังมีรถอีกคันไม่ใช่เหรอ? เธอออกไปก่อนแล้วผมค่อยมอบดอกบัวขาวให้พวกเขา หลังจากนั้นผมค่อยขับรถไปหา ไม่ต้องกังวล ผมไม่มีทางเป็นอะไรหรอก" หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"แต่...." เย่ซินอวี่ยังอยากพูดอะไร ทว่ากลับถูกหลินหยางพูดแทรก
"ซินอวี่ เธอรีบหนีไปเร็วเข้า ผมได้ยินพวกเขาบอกว่าตระกูลของเธอมีอำนาจมาก ถ้าเธอหนีไป พวกเขาไม่มีทางทำอะไรผมแน่นอน แต่ถ้าเธอไม่หนีไป พวกเขาต้องจัดการเธอแน่! ฉะนั้นเธอรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ ออกไปจากที่นี่แล้วค่อยหาทางช่วยผม ไม่งั้นเราทั้งสองแย่แน่!"
เมื่อพูดจบ เย่ซินอวี่ก็นึกขึ้นได้ทันที
จริงด้วย
ถ้าเธอออกไปตอนนี้ก็ยังพอต่อรองอะไรได้ แต่หากยังอยู่ที่นี่ต่อไป เกรงว่าต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่
"ตกลง หลินหยาง! ฉันจะกลับไปรอคุณที่เจียงเฉิน!"
ไม่พูดเปล่า เย่ซินอวี่จ้องไปที่เริ่นหราน เยี่ยนฉีและคนอื่นๆ ตาเขม็งพร้อมกับตะคอกเสียงดัง "ฟังนะ ถ้าพวกเธอทำอะไรพี่เขยของฉันแม้แต่นิดเดียว! ฉันไม่มีทางปล่อยพวกเธอแน่! หากเขากลับมาด้วยบาดแผลแม้แต่จุดเดียว ตระกูลเย่ของฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาผิดกับพวกเธอแน่นอน!"
"วางใจได้คุณหนูเย่ พวกเราไม่คิดทำอะไรกับคนธรรดามาอย่างพี่เขยของเธอหรอก" เริ่นหรานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"คุณต้องรีบกลับไป ถ้าคุณไม่กลับไป ฉันจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง!"
เย่ซินอวี่กล่าวอย่างเคร่งขรึมพร้อมกับเดินไปขึ้นรถและเหยียบคันเร่งมุ่งหน้าออกจากที่นี่
หลินหยางเห็นเข้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
"ในที่สุดก็ไปจากที่นี่สักที"
"ใช่ ในที่สุดก็ไปสักที ตอนนี้คุณจะมอบดอกบัวขาวล้างโลกให้กับพวกเราได้หรือยัง?" เริ่นหรานหรี่ตากล่าว
เธอไม่เคยต้องเจอกับการดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้มาก่อน
"คุณคิดจะฆ่าผม ผมรับได้ เพียงแค่พวกคุณต้องพยายามอย่างสุดความสามารถและอย่าเสียใจภายหลัง เพราะผมไม่เคยออมมือกับศัตรูมาก่อน" หลินหยางกล่าวเสียงแหบแห้งและแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
"ดี! ดีมาก! ดูเหมือนว่าวันนี้ถ้าไม่ทำให้นายต้องเห็นเลือดซะบ้าง นายก็คงไม่ยอมมอบดอกบัวขาวล้างโลกให้สินะ" เยี่ยนฉีโมโห
แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับมีเพียงคนเดียว ฉะนั้นเขาจะกลัวอะไร?
และขณะนี้เอง แม่มดอูไห่ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นและโขกศีรษะให้กับหลินหยาง
"ไว้ชีวิตฉันด้วย! ไว้ชีวิตฉันด้วย!"
ฉากนี้ทำให้ทุกคนต่างงุนงง
"แม่มดอูไห่ คุณ....คุณกำลังทำอะไร?" เยี่ยนฉีถามอย่างงุนงง
ทว่าแม่มดอูไห่กลับไม่สนใจเขาและโขกศีรษะอยู่อย่างนั้นด้วยอาการตัวสั่น
"ยายแก่คนนี้ไม่ได้เสียสติไปแล้วเหรอ?" เริ่นหรานขมวดคิ้ว
เยี่ยนฉีไม่พูดอะไร
"เยี่ยนฉี ไม่ต้องสนใจยายแก่นี่แล้ว เราเอาดอกบัวขาวล้างโลกมาครองให้ได้แล้วค่อยว่ากัน หากได้สิ่งนี้มาครอง กลับไปเราต้องได้รับคำชมสรรเสริญเยินยอแน่!" เริ่นหรานกล่าว
"ถูกต้อง ลงมือ!"
เยี่ยนฉีกล่าวอย่างเคร่งขรึมและเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล
และขณะนี้เอง หลินหยางก็ยกมือขึ้น
ควับ!
พละกำลังอันท่วมท้นตกลงมาจากท้องฟ้าโดยตรง และกระแทกเข้ากับทุกคนที่รายล้อมอยู่รอบๆ
เพียงชั่วพริบตา ลูกน้องทั้งหมดก็ถูกระงับโดยกระแสพลังนี้ แต่ละคนคุกเข่าลงกับพื้น กระดูกสะบ้าหัวเข่าเกือบแตกละเอียดและยากที่จะลุกขึ้น
เยี่ยนฉีและเริ่นหรานที่เร่งรีบวิ่งเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต พวกเขาทั้งหมดต่างคุกเข่าลงกับพื้น....
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...