"เป็นไงบ้าง จัดการไปถึงไหนแล้ว?"
เสียงแหบพร่าดังขึ้นจากปลายสาย
อาซงเม้มริมฝีปากและกระซิบ "เกรงว่า...คงทำไม่สำเร็จแล้วล่ะครับ...."
"อะไรนะ?" เสียงของหญิงชราเคร่งขรึมขึ้น "เป็นถึงวีรบุรุษของตระกูเย่ แต่กลับจัดการไม่ได้แม้แต่เขยกระจอกแค่คนเดียว?"
"คุณป้าครับ คุณป้าประเมินเขยคนนี้ต่ำเกินไป เขาดูไม่ธรรมดาเลยนะครับ"
อาซงเช็ดเหงื่อที่หน้าผากและเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เมื่อพูดจบ หญิงชราก็เงียบไม่พูดอะไร
"นายแน่ใจเหรอ...คนเหล่านั้นเป็นตัวจริง? ไม่ใช่คนที่หลินหยางเชิญมาตบตาใช่ไหม?"
"คุณป้าครับ พวกเราเองก็เคยเจอกับคนใหญ่คนโตเหล่านี้มาก่อน จะเป็นตัวปลอมได้ยังไง? เราเคยได้กินข้าวที่บ้านตระกูลซิ่ง ทำไมผมจะไม่รู้จักซิ่งหรง?"
"งั้นดูเหมือนว่าเขยทึ่มคนนี้ก็พอมีอำนาจอยู่บ้าง...แต่ทำไมจู่ๆ เขาถึงรู้จักผู้คนที่มีอำนาจมากมายขนาดนี้?"
"เราก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...."
"พวกนายลองตรวจสอบดู แม้ว่าฉันจะไม่ได้เจอเสี่ยวเหยียนมานาน แต่ชิงหยู่และเสี่ยวเหยียนล้วนเป็นเด็กที่ฉันรักและเอ็นดู ฉันไม่อยากให้พวกเธอไม่มีความสุข หลายปีมานี้ฉันไม่ได้ไปหาพวกเธอที่เจียงเฉิน เพราะมัวแต่กังวลเรื่องราวปัญหาของตระกูลเย่จะกระทบไปถึงพวกเธอ เฮ้อ..." หญิงชราถอนหายใจและวางสายไป
อาซงถอนหายใจและกลับไปที่โต๊ะ
ทุกคนกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
เธอคนเดียวก็กินไปถึงสิบสามจาน!
อดพูดไม่ได้ว่าความอยากอาหารของเธอนั้นน่าทึ่งอย่างมาก
"อิ่มแล้ว!"
เย่ซินอวี่ลูบท้องและเรอออกมาด้วยสีหน้ามีความสุข
"กินอิ่มก็ดีแล้ว" หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"อ้อใช่หลินหยาง ทำไมคุณถึงรู้จักคนใหญ่คนโตมากขนาดนี้?" ขณะนี้เอง เย่ซินอวี่ก็ถามในสิ่งที่อาซงและอาฮวยอยากถามมาโดยตลอด
"ผมเป็นหมอรักษาพวกเขาก็เลยรู้จักกันเป็นปกติ"
"คุณมีทักษะการรักษาโรค?" เย่ซินอวี่ร้องอุทานด้วยความตกใจ
"อาซงและอาฮวยของเธอตรวจสอบมาก่อนไม่ใช่เหรอว่าผมทำงานอยู่ในคลินิกเล็กๆ แห่งหนึ่ง? แน่นอนว่าผมก็พอมีทักษะด้านการรักษาโรคอยู่บ้าง" หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ
เป็นแค่หมอผู้ช่วยในคลินิกเล็กๆ จะมีความสามารถมากแค่ไหนกัน?
คนใหญ่คนโตเหล่านั้นไม่ว่าตัวเองจะมีโรคอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ต่างล้วนมีหมอและพยาบาลส่วนตัวที่คอยดูแล ต่อให้หมอส่วนตัวของตัวเองรักษาไม่ได้ พวกเขาก็สามารถเชิญหมอดังๆ ที่มีชื่อเสียง ไม่มีทางมาหาหมอธรรมดาทั่วไปที่อยู่ในคลินิกเล็กๆ แน่นอน
ทุกคนต่างรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน
ดูเหมือนว่าชายคนนี้ต้องมีเรื่องปิดบังอะไรสักอย่างแน่ๆ
"ทักษะการแพทย์ของคุรหลินจะต้องล้ำเลิศไม่ธรรมดาแน่ๆ น่าชื่นชมๆ"
อาซงยิ้มออกมา
"เธอก็ไร้เดียงสาเกินไป เรื่องของตระกูลเย่ไม่ได้ง่ายอะไรขนาดนั้น" อาฮวยเหงื่อตก "อย่าว่าแต่เขาเป็นหลานชายของผู้บัญชาการมู่เลย ต่อให้เป็นผู้บัญชาการมู่เองก็ถือว่าเขาอายุมากแล้ว ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการมู่เกือบเอาชีวิตไม่รอดและเกือบจะจากโลกนี้ไป หากไม่ได้หมอเทวดาช่วยไว้เขาคงตายไปนานแล้ว! หากผู้บัญชาการมู่ขึ้นสวรรค์ไป อำนาจขอตระกูลมู่ก็จะลดลง และพวกเขาเองก็แทบเอาตัวไม่รอด นับประสาอะไรจะมาช่วยเหลือพวกเรา?"
"พูดถูก นอกจากผู้บัญชาการมู่จะออกหน้าช่วยเราด้วยตัวเอง ไม่แน่อาจยังพอมีโอกาส! หากสามารถเชิญผู้บัญชาการที่เหลืออีกสองคนได้ งั้นเรื่องนี้ก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก ทว่าผู้บัญชาการของอาณาจักรมังกรล้วนเป็นบุคคลชั้นสูง พวกเขาจะมาช่วยตระกูลเย่ของเราได้ยังไง? เด็กโง่ ความคิดของเธอช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน" อาซงถอนหายใจ
"งั้น...งั้น ถ้าไม่ได้...เราก็ไปเชิญหมอเทวดาหลินแห่งเจียงเฉินสิ? เขามีดอกบัวขาวล้างโลก และจากอำนาจของหยางหัวแล้วก็อาจพอเดิมพันได้ หากสามารถเชิญเขาได้จะต้องทำให้คนเหล่านั้นหวาดกลัวและเกรงขามแน่นอน พวกเขาคงไม่กล้ามีเรื่องกับตระกูลเย่อีก!" เย่ซินอวี่เม้มริมฝีปากและกล่าวออกมา
"เธอยังจะกล้าพูด!" อาฮวยจ้องซินอวี่ตาเขม็ง "เธอแอบบุกรุกเข้าไปให้สถาบันการแพทย์พรรคซวนอีเพื่อขโมยดอกบัวขาวล้างโลก ถ้าถูกหมอเทวดาหลินจับได้ เธอจะเอาหน้าที่ไหนไปเชิญหมอเทวดาหลิน? อีกอย่างตระกูลเย่ของเราก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับหมอเทวดาหลิน เขาจะออกหน้าช่วยเหลือเราได้ยังไง?"
"เอ่อ..." เย่ซินอวี่ก้มหน้าและไม่รู้ว่าควรตอบอะไร
"แต่จะพูดไปแล้ว หากมีหมอเทวดาหลินคอยช่วย ปัญหาและวิกฤติของตระกูลเย่ต้องถูกจัดการลงอย่างแน่นอน แม้ว่าหมอเทวดาหลินจะไม่มีดอกบัวขาวล้างโลก แต่ด้วยความสามารถอันน่าทึ่งและทักษะการแพทย์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขาก็สามารถจัดการปัญหาของตระกูลเย่ได้....ซินอวี่ ผมเคยได้ยินมาว่าพี่สาวของเธอรู้จักกับหมอเทวดาหลิน ไม่แน่เราอาจขอให้พี่สาวของเธอช่วยติดต่อหมอเทวดาหลินเพื่อช่วยเหลือตระกูลเย่ของเรา ตระกูลเย่ของเราสามารถตบรางวัลให้อย่างาม เธอว่าเป็นยังไง?" ขณะนี้เอง อาซงก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้และรีบกล่าวขึ้นมา
แววตาของเย่ซินอวี่เปล่งประกาย
จากนั้นอาฮวยก็ส่ายหน้า "นายไม่ได้ดูข่าวก่อนหน้านี้เหรอ? หมอเทวดาหลินตัดความสัมพันธ์กับซูเหยียนไปนานแล้ว และไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอแล้ว เพราะคุณหนูซูเหยียนปฏิเสธหมอเทวดาหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันว่าคุณหนูซูเหยียนเองก็คงไม่มีทางยอมไปติดต่อหมอเทวดาหลินหรอก ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้"
ทั้งสองต่างรู้สึกหดหู่
"ดูเหมือนว่าปัญหาวิกฤติของตระกูลเย่จะไม่ธรรมดา แต่ไม่เป็นไร ซินอวี่ ผมจะเอาเบอร์โทรศัพท์ให้หนึ่งเบอร์ เธอกลับไปกับพวกเขาก่อน สถานการณ์ในเจียงเฉินตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อน เธออยู่ที่นี่นานไปคงไม่ปลอดภัย ส่วนเรื่องของตระกูลเย่ พวกคุณลองคิดดูว่าพอมีอะไรให้ผมช่วยได้บ้างก็โทรหาผมได้ทุกเมื่อ ผมจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ เพราะถึงยังไงซินอวี่ก็เป็นน้องสาวของเสี่ยวเหยียน และถือเป็นน้องสาวของผมด้วย"
หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้มและวางกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์ลงที่โต๊ะ
"คุณหลิน ขอบคุณมากครับ"
"คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหลินจะเป็นคนดีและใจกว้างขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ที่เราทำไม่ดีกับคุณ เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ"
อาซงและอาฮวยลุกขึ้นโค้งคำนับ
"ทั้งสองพูดเกินไปแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...