สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 2679

จางฉีรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก เขาเดินไปอย่างเงียบสงบเพียงลำพัง

เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนี้ที่ต้องมาเป็นเหยื่อล่อเพื่อคอยล่อผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

"คนเราเมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องก้มหัวด้วยกันทั้งนั้น!"

"คอยดูเถอะ! รอให้ฉันออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน ฉันจัดการแกแน่!"

"เป็นเพียงแค่คนนอกกลับกล้าดูถูกเหยียดหยามฉันขนาดนี้! แค้นนี้ฉันต้องคิดบัญชี!"

จางฉีกัดฟันกรอดด้วยความโมโห

ทว่าเขากลับทำได้เพียงบ่นออกมาเพื่อระบายเท่านั้น

และเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงต่อสู้กันเกิดขึ้นบริเวณข้างหน้า

จางฉีตกใจและรีบวิ่งกลับไป

"เดินต่อไป"

เบื้องหลังได้มีเสียงของหลินหยางดังขึ้น

จางฉีกลืนน้ำลายและหยุดชะงักพร้อมกับเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง

จากนั้นก็เห็นว่ามีเลือดเอ่อนองเต็มพื้นและยังมีศพนอนกองอยู่สามศพ มีสี่คนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดเลือดพล่านอย่างไม่มีใครยอมใคร

เมื่อเห็นถึงตรงนี้ จางฉีก็ใจเต้นแรงและรีบร้องเรียก "มีไข่มุกผ่านด่าน! มีไข่มุกผ่านด่าน! !"

หลินหยางที่แอบอยู่ข้างหลังได้คอยสังเกตมอง

จากนั้น!

มีไข่มุกผ่านด่านอยู่ในอ้อมแขนของหนึ่งในสี่คนที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดจริงด้วย!

อีกสามคนกำลังพยายามโจมตีชายคนนั้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อคิดจะแย่งชิงไข่มุกผ่านด่าน ทว่าความสามารถของชายคนนั้นไม่ธรรมดา เขาสามารถรับมือกับอีกสามคนได้อย่างสบายๆ

"เขาคนนี้เหมือนจะเป็น....ฉู่ชิว! ต้องใช่ว่าที่อัจฉริยะฉู่ชิวแน่ๆ! !"

จางฉีเหมือนจะรู้จักชายที่โอบอุ้มไข่มุกผ่านด่านพร้อมกับร้องอุทานเสียงหลงออกมา

"ว่าที่อัจฉริยะ?" หลินหยางขมวดคิ้ว

"ใช่ เขาอยู่ภายใต้อัจฉริยะหลาวยิง หากอัจฉริยะหลาวยิงไม่อยู่แล้ว อัจฉริยะลำดับที่เจ็ดก็จะตกเป็นของเขา!" จางฉีรีบอธิบาย

เมื่อพูดจบ หลินหยางก็คิดอะไรในใจ

"เราจะลงมือไหม? ผมว่าสามคนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่ชิว หากเราลงมือตอนนี้ฉู่ชิวอาจสู้ไม่ได้ เช่นนั้นเราอาจแย่งชิงไข่มุกผ่านด่านมาได้ หากปล่อยให้ฉู่ชิวฆ่าสามคนนั้นก่อน ไม่แน่เขาวงกตอาจเปลี่ยนแปลงไป แบบนี้เราอาจไม่ได้ลงมือง่ายแน่!" จางฉีกล่าว

หากเขาวงกตเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากฉู่ชิวคิดจะหนี ด้วยกำลังความสามารถของสามคนนั้นจะต้องขัดขวางเขาไม่ได้อย่างแน่นอน

เมื่อสักครู่ขณะที่หลินหยางเดินตามจางฉีมานั้น เขาวงกตก็ได้เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวจนตำแหน่งคลาดเคลื่อน จนทั้งสองเกือบจะพลัดหลงกัน

"ลงมือตอนนี้ไม่ได้"

หลินหยางกล่าวกระซิบ

"ทำไม?"

จางฉีร้อนใจ

นี่ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก

"คุณสังเกตดูไปรอบๆ สิ!" หลินหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม

จางฉีตกใจพร้อมกับรีบมองไปรอบๆ

ที่นี่คือทางที่มีทางแยกจำนวนมากถึงหกเส้นทาง

และจางฉีเองก็มองเห็นเงาคนแวบไปมาอยู่หลายเส้นทาง

"ดูเหมือนว่ามีหลายคนกำลังคอยสังเกตการณ์อยู่เหมือนกัน!" จางฉีแอบกัดฟัน

"ตอนนี้ที่ผมรับรู้สัมผัสได้มีอยู่ห้าคน แต่ผมคิดว่าต้องยังมีคนแอบอยู่อีกแน่ รวมถึงคนที่ก่อนหน้านี้ได้แอบลอบโจมตีเราทั้งสองอีกด้วย!" หลินหยาง

"คุณฉลาดเฉียบแหลมมาก หากผมออกไปอย่างประมาท เกรงว่าต้องแย่แน่!" จางฉีกล่าวด้วยความขอบคุณ

หลินหยางไม่พูดอะไรและยังคงเฝ้าจับตาดูการต่อสู้ทางนั้นอย่างจดจ่อและเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเคร่งขรึม "รอต่อไปอีกสองนาที รอพวกเขาสู้กันจนได้เวลาแล้วเราค่อยลงมือ!"

"อ๋า?"

จางฉีตกใจ "คุณเพิ่งบอกว่าจะเข้าไปตอนนี้ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? รอบๆ มีคนมากออกขนาดนั้น เราจะเสี่ยงบุกเข้าไปจริงเหรอ? แบบนี้จะได้ไม่คุ้มเสียหรือเปล่า?"

"เรารออยู่ตรงนี้ก็มีแต่เสียเวลาเปล่า เวลาในการแข่งขันมีเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น หาไข่มุกผ่านด่านเจอแล้วยังต้องหาทางออกอีก! เราจะเสียเวลาแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เตรียมลงมือกันเถอะ"

หลินหยางกล่าวเสียงแหบแห้งพร้อมกับหยิบเข็มเงินออกมาปักบนร่างกายของตัวเองเพื่อเป็นการเพิ่มพละกำลัง

จางฉีรู้สึกสับสนงุนงงอย่างมาก

หลินหยางกำลังคิดอะไรกันแน่?

นี่มัน...ไม่ใช่รนหาที่ตายหรอกเหรอ?

ขณะที่รอบๆ มีผู้คนที่คอยฉวยโอกาสอยู่ จางฉีก็เข้าใจได้ทันทีว่าตอนนี้หากใครลงมือก็ไม่ใช่โอกาสที่ดี

ขณะนี้เอง หลินหยางก็เอ่ยปากขึ้นมา

"อ๋า? แต่...คุณ คุณจะทำอะไร?"

จางฉีรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก

อีกฝ่ายโหดเหี้ยมร้ายกาจออกขนาดนี้และเพิ่งจะฆ่าคนไปถึงสามคน หลินหยางกลับเลือกที่จะลงมือตอนนี้?

นี่เหมือนการลูบเคราเสือชัดๆ

เมื่อเห็นหลินหยางเดินไปข้างหน้า จางฉีก็กำหมัดแน่นและทำได้เพียงเดินตามไปอย่างจำยอม

"ยังมีคนไม่กลัวตายอีกเหรอ?"

ฉู่ชิวยังไม่ทันจะได้พักเหนื่อยก็หันไปจ้องมองหลินหยาง

รัศมีแห่งความอำมหิตได้แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ

ทว่าหลินหยางกลับไม่ได้แสดงถึงความต้องการในการต่อสู้ แต่กลับมองไปที่อีกฝ่ายอย่างเฉยเมย

"คุณคือฉู่ชิว?"

"ในเมื่อรู้จักชื่อของฉัน ทำไมถึงยังกล้าขนาดคิดเป็นศัตรูกับฉันอีก?" ฉู่ชิวกล่าวอย่างเย็นชา

"มาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าคุณเป็นใครหรือคุณมีชื่อเสียงมีความสามารถมากแค่ไหน ทุกคนก็ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันนั่นก็คือการผ่านด่าน ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณมีความสามารถมาก แต่ตอนนี้คุณไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ฉู่ชิว หากผมคิดเป็นศัตรูกับคุณ คุณจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย" หลินหยางกล่าว

"งั้นก็ลองดู" ฉู่ชิวกล่าวอย่างเยือกเย็นพร้อมกับความจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในแววตาของเขา

"ผมคิดว่าสิ่งนี้ไม่มีความสำคัญเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อสักครู่คุณได้จัดการคนเหล่านั้นจนหมดเรี่ยวแรงแล้ว คุณอย่าฝืนตัวเองต่อไปอีกเลย การที่คุณจะต่อสู้กับผม คุณไม่มีทางชนะแน่นอน หากเกิดการฆ่าฟันกันขึ้นมาจริง คุณจะต้องตายแน่ๆ แค่เพื่อไข่มุกผ่านด่านนี้ คุณคิดจะเอาชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพันจริงเหรอ?" หลินหยางถาม

นี่เป็นคำพูดเกลี้ยกล่อม แต่เหมือนการข่มขู่มากกว่า

ความโกรธในแววตาของฉู่ชิวมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในฐานะที่เป็นอัจฉริยะของตระกูลฉู่ เขาจะปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือสติปัญญาไม่ได้

แต่ในขณะที่ฉู่ชิวกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น หลินหยางก็เอ่ยปากขึ้นมา

"ตอนนี้อวัยวะภายในของคุณกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ได้ถูกทำลายลงแล้ว ทั้งปอด ตับล้วนต่างได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส เลือดลมและชีพจรของคุณไหลเวียนไม่ดีพร้อมกับมีกระดูกแตกหักบริเวณขาขวา ตอนนี้ตัวคุณเองไม่ไหวแล้ว แต่เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นถึงความน่ายำเกรงคุณจึงได้ฝืนแสดงว่าตัวเองแข็งแกร่ง โดยไม่กล้าแสดงให้เห็นความอ่อนล้าของตัวเอง ฉู่ชิว ผมรู้ว่าที่คุณต้องทำแบบนี้ก็เพราะคุณไม่มีทางเลือกอื่น เพราะคุณรู้ดีว่าต่อให้มอบไข่มุกผ่านด่านไปคุณก็ต้องตายอยู่ดี!"

เมื่อพูดจบ ฉู่ชิวก็สูดหายใจเข้าด้วยอาการหน้าซีดเผือด

"คุณคิดจะเอายังไง?" ถูกหลินหยางพูดมาขนาดนี้ ฉู่ชิวจึงกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม

"เรามาทำข้อตกลงอะไรกันสักหน่อยดีไหม?" หลินหยางกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา