เหวยหว่อมิ่งรู้ ว่าตัวเองจบเห่แล้ว
ไม่มีเหตุผลอื่นใด พลังมหาศาลแบบนี้ทำให้คนตื่นตะลึงมาก
ตอนชี่เลือดโถมมา ภายในใจของเขาเหลือแค่ความหวาดกลัว!
บนพลังนี้ เขาถือว่าพ่ายแพ้แล้ว
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีมองหลินหยางด้วยความตื่นตะลึง แต่ละคนขนลุกซู่
“นี่มันวิธีแบบไหน?”
ผู้นำหุบเขาจ้งหลงกู่สีหน้าเปลี่ยน รู้สึกว่าผิดปกติ
พวกผู้นำสำนักชิงเซวียน อ้ายหร่าน ผู้นำหมู่บ้านยวินเสี้ยวพากันมองไป
“นี่คือ? ?”
หยวนเฉวียนชินเบิกตาโพลงกว้าง ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
ไม่มีใครรู้เลยว่าหลินหยางใช้ยาอะไร ร่างกายถึงได้เปลี่ยนเป็นแบบนี้
ทุกคนรู้สึกว่าหลินหยางในเวลานี้ แข็งแกร่งจนไม่มีใครสู้ได้!
“เหอะ….”
หลินหยางหายใจหอบเล็กน้อย
พลังวิญญาณสำรอกออกมาจากปากเขา
ดวงตาโลหิตคู่นั้น เต็มไปด้วยรังสีอำมหิต
เขาสาวเท้าเดินไปหาเหวยหว่อมิ่ง
คิดไม่ถึงว่าร่างกายของเหวยหว่อมิ่งจะสั่นเทาขึ้นมา
ภายใต้พลานุภาพอันแข็งแกร่งของหลินหยาง เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะยืนนิ่งไม่ไหว สิ่งต่อต้านที่มีภายในใจ….นั่นก็คือการไม่ยินยอม….
“ผมเคยบอกแล้ว ไม่ใช่แค่คุณที่มียาเพิ่มพูลพลัง!”
หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
น้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างมาก
“คุณ….คุณกินยาอะไรกันแน่?”
เหวยหว่อมิ่งถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
แต่เขาเพิ่งจะพูดจบ
ตึง!
ร่างกายของเหวยหว่อมิ่งก็ระเบิดเป็นดอกไม้สีเลือด
พอมองดูแขนของตัวเองอีกข้างหนึ่งก็ระเบิดแล้ว มันกลายเป็นเศษชิ้นเนื้อล่วงลงมา
เหวยหว่อมิ่งเบิกตาโพลงกว้าง
ต้องเข้าใจก่อนว่า เขาได้กินยาเฟิงเสวี่ยโฉว่ฮวาตันเข้าไปแล้ว ร่างกายของเขาสามารถเทียบกับร่างเทพยุทธได้เลย!
แต่เมื่อมาเผชิญหน้ากับหลินหยาง เขากลับการเป็นคนอ่อนแอไร้ประสิทธิภาพไปแล้ว
ตัวเขาเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นี้! ไม่ใช่แน่นอน! !
เป็นอย่างนี้ต่อไป เขามีแต่หนทางแห่งความตาย!
เหวยหว่อมิ่งลุกขึ้น กระโจนลงไปด้านล่างเวทีอย่างบ้าคลั่ง
แต่ฉากกำบังยังไม่เปิด เขาจึงไม่สามารถไปจากที่นี่ได้
“รีบเปิด! รีบเปิดฉากกำบัง! ฉันจะออกไป! ฉันจะออกไป! !”
เหวยหว่อมิ่งแผดคำรามออกมา
วินาทีนี้ ความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดทำให้ฤทธิ์ของยาคลั่งลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นสติของเขาจึงชัดเจนมาก
เขาแค่อยากมีชีวิตรอด
ชื่อเสียงอะไร หน้าตาศักดิ์ศรีอะไร เขาไม่สนใจแล้วตอนนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ความโกลาหลที่เกิดจากหุบเขาจ้งหลงกู่ทำให้เจ้าหน้าที่ของการแข่งขันไม่สามารถปิดฉากกำบังได้ทันที
หลินหยางสาวเท้าเดินมา
ภายใต้ความสิ้นหวัง เหวยหว่อมิ่งทำได้เพียงใช้ศีรษะโขกที่ฉากกำบัง เขาอยากทำให้มันแตกออกและหนีออกไป
ปึก!
ปึก!
ปึก!
….
ศีรษะของเขากระแทกเข้ากับฉากกำบัง ทุกครั้งล้วนแต่ออกแรงสุดความสามารถ
ฉากกำบังเต็มไปด้วยรอยแตกสั่นไหวอย่างรุนแรง และรอยแตกก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
แต่กำบังยังคงไม่แตกออกดังใจหวัง
เหวยหว่อมิ่งหน้าซีดเผือด
“ยังไง? กลัวเหรอ?”
หลินหยางเดินมาถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“คุณ….คุณอย่าฆ่าผมเลย….ผม….ผมยอมแพ้แล้ว! ผมยอมแพ้! ผมขอร้องล่ะอย่าฆ่าผมเลยนะ!”
เหวยหว่อมิ่งตัวสั่นระริกพูดขึ้น จากนั้นตะโกนออกไปข้างนอกว่า“ผมยอมแพ้แล้ว! ยอมแพ้แล้ว! รีบช่วยผมออกไปเถอะ! เร็วเข้า!”
แต่ไม่มีประโยชน์แล้ว
เหวยหว่อมิ่งทำผิดกฎ การแข่งขันจบไปตั้งนานแล้ว เขาจะยอมแพ้หรือไม่นั้น ไม่ได้มีความหมายมากมายแล้ว อีกอย่างฉากกำบังไม่สามารถเปิดออกได้ทันที ยอมแพ้แล้วมีประโยชน์อะไร?
เหวยหว่อมิ่งมองไปด้านนอกด้วยความสิ้นหวัง วินาทีนี้ เขาอยากจะออกไปจากที่นี่เหลือเกิน
และเวลานี้หลินหยางได้เอื้อมมือมาหาเขาแล้ว
“ออกไป!”
เหวยหว่อมิ่งโต้กลับอย่างสิ้นหวัง และด้วยเสียงคำราม เขารวบรวมกำลังและพุ่งไปหาหลินหยาง
แต่ตอนนี้กำลังของเขาอ่อนแรง ไม่สามารถทำอะไรหลินหยางได้เลย
แกร็ก!
เวลานี้ ในที่สุดคันชักก็ถูกกดลงไป
ฉากกำบังถูกเปิดออก
“เพราะผู้เข้าแข่งเหวยหว่อมิ่งทำผิดกฏ ตอนนี้ได้ยกเลิกคุณสมบัติการเป็นผู้เข้าแข่งขันแล้ว ผู้ชนะในการแข่งขันคือผู้เข้าแข่งขันหลินหยาง!”
ผู้ตัดสินพูดเสียงดัง
แต่ทุกคนมีการตอบสนองแค่ไม่กี่คน
การแข่งขันครั้งนี้ทำให้ทุกคนตกใจมาก
ทุกคนจ้องมองความน่ากลัวของหลินหยางจนไม่ได้สติกลับมา
หลินหยางสูดหายใจเข้า รีบกลืนยาอายุวัฒนะไปอีก และต่อด้วยเอาเข็มมาฝังตัวเอง จากนั้นลงจากเวทีมานั่งสมาธิ
“หมอเทวดาหลิน! คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
พวกอ้ายหร่านรีบกระโจนเข้ามาถาม
“คุณหลิน คุณโอเคไหม?”
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ทุกคนมารวมตัว แต่ละคนถามด้วยความเป็นห่วง
“สบายใจได้ ผมไม่เป็นไรมากหรอก แค่ต้องสงบโรคที่ตกค้างอยู่ก็พอ เหวยหว่อมิ่งทำให้ผมได้รับบาดเจ็บแค่ภายนอก ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับผมมาก”หลินหยางพูดขึ้น และไม่ได้สนใจอะไรคนที่รายล้อมมาก เขานั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง
“คุ้มกันคุณหลิน!”ผู้นำหมู่บ้านยวินเสี้ยวพูดขึ้น
ยอดฝีมือของวิหารหยุนเซียวซานล้อมรอบหลินหยางไว้ด้วนความระมัดระวัง
เวลานี้
กรูๆๆๆ….
ผู้คนจำนวนมากที่สวมเสื้อคลุมผ้าที่มีออร่าพิเศษพุ่งตรงมายังสถานที่แห่งนี้
การเคลื่อนไหวพวกเขารวดเร็ว เกือบจะเร็วเหมือนสายฟ้า และพวกเขาข้ามครึ่งหนึ่งของดินแดนสุเมรุมาแล้ว ผู้คนจำนวนมากยังไม่ได้สติกลับมา คนเหล่านี้ก็มาถึงกันแล้ว
คนบริเวณโดยรอบมองจนพากันขนลุกซู่
“กลุ่มลาดตระเวนเทียนของเหลยเจ๋อมาแล้ว!”
“คนเหล่านี้ล้วนเป็นยอดฝีมือ ! อย่าบุ่มบ่ามเด็ดขาด!”
“ถอยไป ถอยให้หมด”
คนที่อยู่บริเวณโดยรอบตกใจพากันทยอยถอยหลัง ไม่กล้าตอบโต้ เพราะกลัวจะทำให้ยอดฝีมือไม่พอใจ
สิ่งที่เห็นตอนนี้คือทีมลาดตระเวนเทียนล้อมรอบสนามแข่งไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นได้มีผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินไปหาผู้ตัดสินเหล่านั้น หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ชายวัยกลางคนก็ขึ้นไปบนสนามเวทีประลองคนเดียว เขากวาดสายตามอง แล้วพูดช้าๆว่า
“ผู้รับผิดชอบสำนักชิงเซวียน หมู่บ้านฉีเฟิง วิหารหยุนเซียวซาน หุบเขาจ้งหลงกู่ ออกมาข้างหน้า!”
ทุกคนหายใจติดขัด
ทีมลาดตระเวนเทียนปรากฎตัว
เหลยเจ๋อ….ต้องการถามหาความรับผิดชอบแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...