“ยินดีต้อนรับนักปราชญ์!”
พื้นที่ราบเทียนเสินถูกเผา คนตำหนักเทียนเสินเห็นคนลอยมาแต่ไกล จึงคุกเข่าลงตะโกนขึ้นเสียงดัง
เย่เหยียนไม่สนใจ เขาลอยเข้าไปในตำหนักเทียนเสิน เมื่อมาถึงบนตำหนักจึงไปนั่งบนบัลลังก์สีทองที่ตระหง่านอยู่บนสุด
เขากระแอมไอ สีหน้าซีดเผือด หลังจากกลืนน้ำลายลงคอแล้ว จึงหยิบเข็มเงินออกมาฝังบนร่างกาย
“ท่านนักปราชญ์ ท่านสบายดีใช่ไหม?”
เงาร่างทั้งสี่มาปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบบนตำหนัก พวกเขาพากันทยอยคุกเข่าลง ถามขึ้นด้วยความเคารพ
ทั้งหมดนี่คือสี่ราชาแห่งตำหนักเทียนเสิน
ตั่วมิ่ง พั่นกวาน หยิ่นเสว่ จุยหุน!
“สะเพร่าแล้ว!”
เย่เหยียนถอนหายใจออกมาช้าๆ พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า“ตอนแรกนึกว่าคนกระจอกนอกดินแดนธรรมดาๆคนหนึ่ง เลยไม่ได้คิดรอบคอบ ไม่เคยคิดเลยว่าจะเก่งขนาดนี้ ภายใต้สถานการณ์อับจนขนาดนี้แต่ยังไม่ตาย กลับกันเขายังมีพลังมหาศาลอีกมีจังหวะโชคลิขิตที่ดี ถ้าฉันไม่ทะลวงเข้าไปในเทพเซียนแห่งแผ่นดินได้ทันท่วงที เกรงว่าตายในมือเฮ่าเทียนนานแล้ว!”
หลินหยางฆ่าเย่เหยียนไม่ตาย
เฮ่าเทียนอยากฆ่าเย่เหยียน ก็ถือเป็นเรื่องง่ายมาก
แต่ถ้าสองคนร่วมมือกัน ก็ทำให้เย่เหยียนปวดหัวได้
แต่เขาไม่เป็นกังวลใจ
รอหลังจากเทพเซียนแห่งแผ่นดินมั่นคงแล้ว จากนั้นค่อยจัดการแหวนเทพสูงสุดในมือ ส่วนหลินหยางเฮ่าเทียนกระจอกๆก็ไม่ต้องพูดถึง
“ปกป้องฉัน”
เย่เหยียนพูดอย่างราบเรียบ จากนั้นรวบรวมสมาธิเพ่งเข้าไปในแหวนเทพสูงสุด
ชั่วพริบตาเดียว
ฮู!
แหวนเทพสูงสุดเปิดออก
แสงสีทองพุ่งออกมาจากอัญมณีสีทองบนแหวน ราวกับการฉายภาพโฮโลแกรม และด้านบนแหวนมีตัวอักษรสีทองโผล่ขึ้นมา
เย่เหยียนร้อนใจ จ้องมองแต่ละคำพูดอย่างละเอียด
“มหัศจรรย์!”
“ยอดเยี่ยม!”
“นี่เป็นสิ่งที่คนธรรมดาคิดออกมาจริงๆนะเหรอ?”
การถ่ายทอดพลังบนแหวนเทพสูงสุด ทำให้เย่เหยียนอดตื่นตะลึงไม่ได้ เขาได้ประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว
เขาอยู่ดินแดนแห่งความเงียบและความตายมาตั้งหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นวิธีการที่แปลกใหม่มหัศจรรย์แบบนี้
ทุกตัวอักษรล้ำค่าจนไม่สามารถประเมินค่าได้!
“ดูอย่างนี้แล้วตอนเจ้าของสุสานเทพสูงสุดมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็เป็นเทพเซียนแห่งแผ่นดินคนหนึ่ง จนกระทั่ง…แข็งแกร่ง!”
เย่เหยียนพูดพึมพำ แล้วจ้องมองอย่างต่อเนื่อง
แต่จู่ๆเวลานี้ เขาก็ขมวดคิ้วเป็นปม
สิ่งที่เห็นคือตัวอักษรที่อยู่ด้านล่างกลายเป็นเลือนลาง มองไปเรื่อยๆมันก็ขมุกขมัว มองไม่ชัดเลย
“อะไรกัน?”
เย่เหยียนสีหน้าตึงเครียด รีบตรวจสอบทันที
หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่ง สีหน้าเขายิ่งตึงเครียด
“แหวนเทพสูงสุด….เสียหายเหรอ?”
“ไม่สิ! กลไกด้านในแหวนเทพสูงสุดปกติดีหมดทุกอย่าง ไม่ได้มีความเสียหายเลย!”
“แต่ทำไมการถ่ายทอด….ถึงเกิดข้อบกพร่อง?”
เย่เหยียนขมวดคิ้วเป็นปม ก้มหน้าคิดพิจารณา
แต่แล้วเวลานี้ มีประโยคหนึ่งแล่นออกมาจากสมองเขา
“ผมได้รับโชคลิขิตอะไร คุณจะรู้เอง!”
นี่คือคำพูดของหลินหยาง!
เย่เหยียนเข้าใจได้ทันที
เขามองไปที่แหวนอีกครั้ง สายตาค่อยๆเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย…เฉยชา
“ที่แท้แหวนเทพสูงสุดไม่ได้เป็นเพียงหนึ่ง! ยังมีอีกสิ่งหนึ่งคู่กับมัน”
“มีแต่ต้องเอาของชิ้นนั้นกับแหวนเทพสูงสุดมาให้ได้ ถึงจะสืบทอดทุกอย่างของเจ้าของสุสานเทพสูงสุดได้!”
“หลินหยางพูดคำนั้นออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาได้สิ่งมหัศจรรย์ที่เข้าคู่กับแหวนเทพสูงสุดไป!”
“หลินหยาง….”
เย่เหยียนกำแหวนไว้แน่น เงยหน้าพูดอย่างอึมครึมว่า”รีบให้เจ็ดอสูรกับเจ้าหน้าที่สามร้อยคนติดตามที่อยู่ของหลินหยางอย่างใกล้ชิด ! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ให้จัดหลินหยางอยู่ในบัญชีดำที่สูงที่สุดของตำหนักเทียนเสิน!”
สี่ราชาแห่งสวรรค์เงยหน้าขึ้น มองเย่เหยียนด้วยความตื่นตะลึง
บัญชีดำสูงสุดเหรอ?
นี่คือสิ่งที่เย่เหยียนตั้งขึ้น ไม่เคยมีใครได้เข้าไปอยู่ในบัญชีรายชื่อนี้เลย….
ท่านนักปราชญ์….โกรธจริงๆใช่ไหม?
คนของสำนักเฉียนคุนเทียนตี้ส่งหลินหยางออกไปห่างถึงหนึ่งร้อยไมล์ เมื่อมั่นใจว่าบริเวณโดยรอบไม่มีคนแล้วถึงได้พากันกลับ
หลินหยางเองก็ไม่กล้าลังเลใจ เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปทางตระกูลอวี่
ทุกคนสีหน้าเปลี่ยน
คนสูงศักดิ์ของตระกูลอวี่เข้ามาด้านในบ้าน
สิ่งที่เห็นคือก้อนเมฆกดทับลงมาทางนี้ จากนั้นเมฆก็สลาย เงาร่างจำนวนมากก็ลงมาบนกระเบื้องหลังคาบ้านตระกูลอวี่
คนเหล่านี้คลุมด้วยชุดคลุมสีเขียว ข้างเอวมีเข็มเงินกลิ่นอายน่ากลัวมาก
คนที่เป็นผู้นำ เป็นหญิงวัยกลางคนถือแส้หางม้าอยู่ในมือ
“เซียนเก้าชีวิต? ?”
ผู้นำสำนักชิงเซวียนพลั้งปากพูดออกมา
“อะไรนะ? คน…คนคนนี้คือเซียนเก้าชีวิตเหรอ?”
“พระเจ้า เขา…เขามาได้ยังไง?”
คนตระกูลอวี่สีหน้าเปลี่ยน
อวี่เจิ้นเทียนสีหน้าซีดเผือด ดวงตาเบิกโพลงกว้าง
ชัดเจน เขาเดาจุดมุ่งหมายการมาของเซียนเก้าชีวิตได้แล้ว
แต่เขาไม่กล้ารีรอ รีบพาคนตระกูลอวี่กลุ่มหนึ่งเดินไปข้างหน้าทันที
“อวี่เจิ้นเทียนน้อมเคารพเซียนเก้าชีวิต!”
“น้อมเคารพเซียนเก้าชีวิต!”
คนตระกูลอวี่ทยอยพูดขึ้น
เซียนเก้าชีวิตกวาดสายตามองคนที่อยู่ด้านล่างด้วยสายตาเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นชา
“เจี่ยนเทาลูกศิษย์ของฉันล่ะ?”
“เจี่ยน….เจี่ยนเทา?”
“กราบเรียนเซียนเก้าชีวิต มือเทพเจี่ยนเทา…เขาตายในการแข่งขันแล้ว!”
อวี่เจิ้นเทียนฝืนพูดขึ้นมา
“อวี่เจิ้นเทียน !น้องชายของผมเป็นตัวแทนตระกูลอวี่เข้าร่วมการแข่งขัน ผลสรุปกลับตายในการแข่งขัน?คุณปฏิบัติกับน้องชายของผมแบบนี้เหรอ?”
ผู้ชายรูปร่างผอมคนหนึ่งเดินมาข้างหน้า กัดฟันกรอดพูดขึ้น
“คุณคือคุณเจี่ยนเซิง? คุณเจี่ยนเซิง คุณเข้าใจผิดแล้ว การตายของมือเทพเจี่ยนเทา ไม่ใช่ความผิดของพวกเรา แต่เป็นเขาที่เสียการควบคุม พยายามเพิ่มพลังทำให้ร่างกายระเบิดตาย ตอนอยู่ในเหตุการณ์ผมพูดแล้ว แต่ก็ไร้ประโยชน์”อวี่เจิ้นเทียนพูดอย่างจนปัญญา
“บัดซบ! พูดแบบนี้ จะบอกว่าน้องชายของผมรนหาที่ตายเองใช่ไหม?”เจี่ยนเซิงพูดด้วยความโมโห
“คุณเจี่ยนเซิง ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…”
“ผมไม่สน! อวี่เจิ้นเทียน! วันนี้ไม่ว่ายังไง คุณจะต้องให้คำอธิบายกับผมและท่านอาจารย์! ไม่อย่างนั้นตระกูลอวี่ของคุณ ไม่สงบแน่!”เจี่ยนเซิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...