หลินหยางเอาชนะเชวียหมิงได้ด้วยมือข้างเดียว ความสามารถและความแข็งแกร่งนี้ห่างไกลกับเขาอย่างมาก
หากจะต่อสู้กันต่อเชวียหมิงก็คงไม่มีโอกาสและคงได้แค่เจ็บตัวเปล่า
เชวียชิวมองเห็นทุกอย่างชัดเจน ทำให้เธอต้องหยุดการต่อสู้
เชวียหมิงหยุดชะงักและเบิกตากว้างจ้องมองแม่ของตัวเอง
หากจะบอกให้ยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ นั่นก็ต้องทำลายความสามารถและความแข็งแกร่งของตัวเองน่ะสิ?
เขาเป็นถึงลูกชายของรองผู้นำเกาะ หากต้องทำลายศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดที่มีไปเขาจะยังอยู่บนเกาะแห่งนี้ได้อีกไหม? เกรงว่าแม้แต่แม่ของเขาก็อาจได้รับผลกระทบเรื่องนี้ไปด้วยแน่นอน
ทว่าเรื่องนี้เชวียหมิงเป็นคนรับปากต่อหน้าทุกคนเอง หากไม่ปฏิบัติตาม ความไว้เนื้อเชื่อใจของเขาคงถูกทำลายลงอย่างยับเยิน
ทำยังไงดี?
สีหน้าของเชวียชิวซีดเผือดและเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลหยดย้อย
คนอื่นเองก็กล้าพูดอะไร
"ท่านแม่! ก็แต่ทำลายศิลปะการต่อสู้ที่มีไม่ใช่เหรอ? แม่อย่าได้รู้สึกเสียใจไปเลย!"
เชวียหมิงทนเห็นแม่ของเขาโศกเศร้าเสียใจไม่ได้ เขากัดฟันและยกมือขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงไปยังเส้นพลังปราณและเส้นชีพจรของตัวเองอย่างแรง
"ลูก! !"
เชวียชิวตะโกนสุดเสียงและรีบเข้าไปห้าม
ทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว!
และในช่วงเวลาที่คับขันวิกฤตินี้เอง จู่ๆ หลินหยางก็ขยับตัวและมาอยู่ตรงหน้าเชวียหมิงพร้อมกับคว้ามือของเขาไว้ได้ทัน
ผู้คนต่างตกตะลึง
เชวียหมิงเงยหน้าขึ้นมองหลินหยางด้วยความตกตะลึงอย่างมาก
"ฮึ คุณมาขวางผมทำไม? ผมกล้าทำกล้ารับ! ในเมื่อผมแพ้แล้ว! ผมจะเป็นคนทำลายวรยุทธ์ศิลปะการต่อสู้ของผมเอง!"
เชวียหมิงตะคอกและยังคิดจะออกแรง
ทว่าภายใต้การควบคุมของหลินหยาง ทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่นิดเดียวเพื่อจะออกแรงเลย
"รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้!"
เชวียหมิงกัดฟันตะคอกหน้าแดงก่ำ
หลินหยางกลับส่ายหน้าและกล่าว "ศิลปะการต่อสู้ของคุณมีเพียงแค่นี้เอง ช่างเถอะ! ผมไม่ติดใจเอาความอะไร!"
"คุณหมายความว่ายังไง?"
เชวียหมิงโมโหจนแทบเสียสติ
ทว่าเชวียชิวกลับลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนใจพร้อมกับมองไปที่หลินหยาง "พูดจริงเหรอ? คุณไม่ต้องการให้ลูกชายของฉันทำลายศิลปะการต่อสู้และความสามารถของเขาแล้วใช่ไหม?"
"ผู้นำเชวีย ผมมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ ไม่ได้มาเพื่อสร้างความแค้น! หากผู้คนบนเกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณมีใจ เช่นนั้นก็ลองพิจารณาตอบรับคำขอของผม"
หลินหยางกล่าว
เชวียชิวขมวดคิ้วครุ่นคิด
"ทำไม? ผู้บัญชาการหลิน คุณอยากให้โอกาสผู้นำเชวียเพื่อบังคับให้เราทุกคนออกไปช่วยคุณเข่นฆ่าศัตรู? คุณคงไม่ได้ต้องการให้เราทุกคนยอมเสียสละเพียงเพื่อรักษาวรยุทธ์ศิลปะการต่อสู้ของเชวียหมิงเพียงคนเดียวหรอกนะ?"
ขณะนี้เอง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินเข้ามากล่าวอย่างเยือกเย็น
สีหน้าของเชวียชิวเปลี่ยนไปพร้อมกับกวาดสายตามองเขาคนนั้นและกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ป้าคำสั่งบูรพาก็อยู่ตรงนี้ เรื่องนี้ต้องพิจารณาไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบถึงจะถูก! หากปฏิเสธไปทันที นั่นก็หมายความว่าเราทุกคนเป็นคนอกตัญญูและไม่มีความจงรักภักดีน่ะสิ?"
"ผู้นำเชวีย คุณช่างรู้จักหาคำพูดดีมากเลยนะ เพื่อปกป้องลูกชายของคุณเอง คุณกลับยอมเสียสละชีวิตของพวกเรา?ฮึ! ผมจะบอกอะไรคุณให้! ต่อให้คุณตอบตกลงไป พวกเราทุกคนก็ไม่มีทางไปเด็ดขาด! เราไม่มีทางเอาตัวเองไปเสี่ยงชีวิตเพื่อคุณหรอก! สิ่งที่เราคอยปกป้องดูแลคือเกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์! ไม่ใช่คุณ!"
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเยือกเย็น
"เหลยฟู่! คุณ! !"
เชวียชิวโมโหมาก ทว่ากลับทำอะไรไม่ได้
"เขาคือใคร?"
หลินหยางขมวดคิ้วกล่าว
"หัวหน้าเหลยฟู่ คือหัวหน้าหน่วยยุทธการบนเกาะแห่งนี้ เขารับผิดชอบเรื่องการฝึกซ้อมฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ให้คนบนเกาะ และมักมีเรื่องไม่ถูกคอกับรองผู้นำมาโดยตลอด!"
ชายวัยรุ่นของเกาะที่อยู่ข้างๆ มองไปที่หลินหยางและกระซิบบอก
"ผมก็นึกว่าเกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์หลบมาใช้ชีวิตอย่างสันโดษที่นี่โดยไม่มีความต้องการปรารถนาสิ่งใด ตอนนี้ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิดไป ทุกที่ที่มีคนอาศัยอยู่ล้วนมีเรื่องราวด้วยกันทั้งสิ้น!"
หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"เหลยฟู่! คุณคิดจะทำยังไง?"
เชวียชิวกัดฟันถามอย่างเย็นชา
"ขอให้ผู้นำเชวียยอมรับกับความพ่ายแพ้! ทำลายศิลปะการต่อสู้ของเชวียหมิงซะ! เพื่อเป็นการปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของเกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์ของเรา! เรากล้าทำกล้ารับ ในเมื่อเราแพ้ก็ไม่ควรหาข้ออ้างเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากสิ่งที่รับปากไป! ในฐานะที่คุณเป็นรองผู้นำเกาะ หากคุณทำเช่นนี้นั่นไม่ถือว่าทำให้เราทุกคนต้องอับอายขายขี้หน้าหรอกเหรอ?" เหลยฟู่กล่าว
"พูดถูก! เรากล้าทำกล้ารับ! เรายอมรับความพ่ายแพ้!"
"ทำลายศิลปะการต่อสู้ของเชวียหมิง! อย่าปล่อยให้คนอื่นดูถูกเราได้!"
"ทำลายศิลปะการต่อสู้ของเขา!"
"เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พวกคุณรีบออกไปจากเกาะเดี๋ยวนี้! เกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์ของเราไม่ต้อนรับพวกคุณ!"
เชวียหมิงกัดฟันกล่าว
แม้ว่าเขาจะโกรธแค้นเหลยฟู่ ทว่าหลินหยางเองก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไร ฉะนั้นเขาจึงพูดออกไปอย่างไม่ไว้หน้าใดๆ
หลินหยางกลับยิ้ม "จะรีบร้อนไปทำไมกัน? คุณไม่อยากทำฟื้นฟูศิลปะการต่อสู้ของคุณให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเหรอ?"
เมื่อพูดจบ ผู้คนโดยรอบก็ต่างมองไปที่หลินหยาง
เชวียชิวเงยหน้าขึ้นทันทีพร้อมกับจับจ้องไปที่หลินหยาง "ผู้บัญชาการหลิน เมื่อกี้คุณ...พูดว่าอะไรนะ?"
"ผมบอกว่าลูกชายของคุณไม่อยากทำให้ศิลปะการต่อสู้ของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิมเหรอ?" หลินหยางกล่าว
"ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิม?"
"นี่...เป็นไปได้ยังไง?"
"เชวียหมิงทำลายพลังปราณของเขาจนแตกสลาย! การคิดจะฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิมถือเป็นเรื่องยากอย่างมาก จะเอาอะไรไปฟื้นฟูให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม?"
ผู้คนต่างตกตะลึงและรู้สึกสงสัยอย่างมาก
เจี่ยกังเห็นเข้าก็รีบลุกขึ้นยืนและกล่าวด้วยรอยยิ้ม "พวกคุณใช้ชีวิตอยู่บนเกาะมานานเลยไม่รู้ถึงความเก่งกาจของผู้บัญชาการหลิน! ผมจะบอกอะไรทุกคนให้ว่าผู้บัญชาการหลินของเราได้รับขนานนามว่าเป็นหมอที่เก่งที่สุดในโลกและไม่มีใครเทียบได้! สำหรับเขาแล้ว แม้แต่คนที่ตายไปแล้วก็สามารถช่วยให้ฟื้นกลับขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย! การจะฟื้นฟูศิลปะการต่อสู้ของเขาคนเดียวไม่ถือเป็นเรื่องยากอะไรเลยสักนิดเดียว! !"
"พูดแบบนี้ใครก็พูดได้ ถ้าแบบนี้ผมก็พูดได้ว่าผมคือหมอฮัวโต๋ผู้บุกเบิกวงการแพทย์! เป็นยังไง?"
มีคนไม่เชื่อจึงได้ตะโกนออกมา
"งั้นคุณก็ลองดูว่าคุณสามารถรักษาเขาได้ไหม?"
หลินหยางมองไปที่ชายคนนั้นและกล่าวเสียงเรียบ
"ผม...ผมรักษาไม่ได้! ถ้าคุณมีความสามารถมากพอ งั้นคุณก็รักษาสิ!"
สีหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนไปและกล่าวเสียงแข็ง
หลินหยางยิ้มอย่างเยือกเย็นและจากนั้นก็ขยับปลายนิ้ว
ควับ ควับ ควับ...
เข็มเงินหงเหมิงลอยออกมาและพุ่งเข้าไปในร่างกายของเชวียหมิงเหมือนดาวตกจำนวนมาก
เชวียหมิงสะดุ้งและถอยหลังออกไปอย่างต่อเนื่อง จากนั้นร่างกายของเขาก็ปะทุพลังจิตวิญญาณออกมา
เมื่อทุกคนเห็นเข้าก็ต่างตกตะลึงเหมือนถูกฟ้าผ่า
พลังจิตวิญญาณเหล่านี้...ล้วนเป็นพลังที่อยู่ในร่างกายของเชวียหมิง!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...