เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหยางและเจี่ยกังก็ถูกนำตัวไปที่ไหล่เขาของภูเขาน้ำเต้า
มีศาลหลังหนึ่งอยู่ที่นี่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแนวเขา ลักษณะการก่อสร้างดูมีเอกลักษณ์อย่างมาก เมื่อมองจากภายนอกเสมือนกับศาลานี้แขวนอยู่กับภูเขาน้ำเต้ายังไงยังงั้น
หลินหยางถูกเชิญเข้าไปรอในศาลา
เหลยฟู่และคนอื่นๆ ก็มาถึงแล้ว ทว่ากลับไม่เห็นเชวียชิว
เหลยฟู่จ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้าเรียบเฉยและด้วยท่าทางที่เยือกเย็น
บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด
"ผู้นำเกาะมาถึงแล้ว!"
ขณะนี้เอง เสียงร้องตะโกนก็ดังขึ้น
จากนั้นก็เห็นกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามา
ผู้ที่เดินนำเข้ามาเป็นชายผมขาวอายุประมาณสี่สิบกว่าปี ชายคนนี้ดูน่าเกรงขามและสูงส่ง แค่เห็นก็รู้ได้ว่าเป็นผู้นำ
เชวียชิวเดินตามชายคนนั้นเข้ามาอย่างนอบน้อม
"คารวะท่านผู้นำ!"
เหลยฟู่เห็นเข้าก็รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นแสดงความเคารพ
"อืม"
ผู้ที่เดินเข้ามาหันไปพยักหน้าให้เหลยฟู่พร้อมกับกวาดสายตามองไปที่หลินหยางและเจี่ยกัง
"คุณคือผู้บัญชาการคนที่สี่แห่งอาณาจักรมังกรใช่ไหม?"
ผู้นำเกาะถาม
"ใช่ครับ คารวะท่านผู้นำ"
หลินหยางพยักหน้า
ผู้ที่เดินเข้ามาขมวดคิ้วแต่ไม่พูดอะไรพร้อมกับเดินตรงไปสุดทางและนั่งในตำแหน่งสูงสุด
"ผมเห็นป้ายคำสั่งที่พวกคุณนำมาแล้ว และมันคือสมบัติของบรรพบุรุษของเราจริง" ผู้นำเกาะกล่าว
เจี่ยกังได้ยินก็รู้สึกดีใจ "ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมไปเลย! แล้วผู้นำจะส่งกองกำลังออกไปเมื่อไร? เราค่อนข้างรีบและจะปล่อยให้เสียเวลาต่อไปไม่ได้แล้ว!"
ผู้นำเกาะกลับเงียบอยู่นานและจากนั้นก็เอ่ยขึ้นมา
"ผู้บัญชาการหลิน คุณเจี่ย แม้ว่าป้ายคำสั่งบูรพาจะใช่ของจริง แต่นี่ก็เป็นความต้องการของบรรพบุรุษของเราเท่านั้น ตอนนี้บรรพบุรุษของเราก็เริ่มตายจากกันไปหมดแล้ว และคนรุ่นหลังก็ล้วนเกิดและเติบโตที่เกาะแห่งนี้ ผมขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังเท่าไร พวกเขานอกจากเกาะแห่งนี้แล้ว ต่างก็ไม่เคยไปที่ไหนเลย สำหรับอาณาจักรมังกรแล้วนั้นก็คงไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันอะไรเลยด้วยซ้ำ!"
คำพูดนี้ฟังดูอ้อมค้อม แต่ความหมายกลับชัดเจนในตัวมันเอง
เจี่ยกังสูดหายใจเข้าและเบิกตากว้างจ้องมองอีกฝ่าย "ผู้นำหมายความว่า...จะไม่ยอมส่งกองกำลังไปช่วยเหรอ?"
"แม้จะไม่รู้ว่าความสามารถและความแข็งแกร่งของลัทธิปีศาจสวรรค์เป็นอย่างไร อาจจะแข็งแกร่งหรืออาจจะอ่อนด้อย แต่หากเกิดการต่อสู้ฆ่าฟันกันขึ้นมาจะต้องมีการบาดเจ็บล้มตาย แม้ว่าผมจะยอม แต่เกรงว่าทุกคนบนเกาะอาจไม่ยอม ผมไม่สามารถไปบีบบังคับพวกเขาให้ออกไปช่วยพวกคุณ! แม้ว่าผมจะเป็นผู้นำของเกาะ แต่ผมก็ไม่ใช่เทวดาของพวกเขา"
ผู้นำเกาะส่ายหน้า
สีหน้าของเจี่ยกังเปลี่ยนไป
สีหน้าของเชวียชิวเองก็ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เธอคาดเดาเอาไว้
หลินหยางสูดหายใจเข้าและพยักหน้า "ผมเข้าใจ ถ้างั้นเราจะไม่บังคับพวกคุณแล้วกัน"
"ขอบคุณมากที่ผู้บัญชาการหลินเข้าใจ!"
ผู้นำเกาะกล่าว
"งั้นเราจะไม่รบกวนพวกคุณแล้ว! ประเดี๋ยวเราจะเดินทางออกจากเกาะ" หลินหยางกล่าว
"นานๆ ทีผู้บัญชาการหลินจะเดินทางมาที่นี่ ทำไมไม่อยู่ต่ออีกสักสองสามวันล่ะ" ผู้นำเกาะกล่าวอย่างเกรงอกเกรงใจ
"ไม่แล้ว! ที่เจียงเฉินยังมีเรื่องให้จัดการอีกมาก แต่ก่อนจะจากไป ผมมีบางอย่างอยากจะพูด แต่มันอาจจะไม่น่าฟังเท่าไรนัก หากผู้นำเกาะรู้สึกไม่สบายใจก็คิดเสียว่าผมไม่ได้พูดออกมาแล้วกัน" หลินหยางกล่าว
"นายหลิน หยุดพูดจาอ้อมค้อมเล่นลิ้นเสียที ไม่ช่วยก็คือไม่ช่วย จะพูดอะไรมากกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร!"
เหลยฟู่ตะคอก
หลินหยางกวาดสายตามองเหลยฟู่และกล่าวเสียงเรียบเฉย "ผมพูดไปแล้วว่าผมจะรีบเดินทางออกจากที่นี่ ผมแค่ต้องการพูดความในใจก่อนจะจากไปไม่ได้เหรอ? หรือว่าคนบนเกาะแห่งนี้ล้วนเป็นคนขี้ขลาด? ไม่มีความกล้า?"
เมื่อพูดจบ ผู้นำเกาะก็ขมวดคิ้วและกวาดสายตามองเหลยฟู่ "หุบปาก หยุดพูดได้แล้ว"
เจี่ยกังกลับแสดงแววตาเยือกเย็นและตบโต๊ะตะคอกออกมา "บังอาจ!"
ทุกคนต่างสะดุ้งด้วยความตกใจ
"พวกคุณคิดจะทำอะไร? คิดจะลงมือกับผู้บัญชาการอาณาจักรมังกรอย่างนั้นเหรอ? พวกคุณคิดจะก่อกบฏ! คิดจะเป็นศัตรูกับอาณาจักรมังกรอย่างนั้นเหรอ?" เจี่ยกังตะคอก
เมื่อมาถึงขั้นนี้ พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจอีกต่อไปแล้ว
เพราะหากพูดถึงตำแหน่งแล้ว ตำแหน่งของเจี่ยกังถือเป็นสิ่งที่คนเหล่านี้ไม่อาจเทียบได้ ฉะนั้นเมื่อเขาโมโหขึ้นมาจึงไม่ธรรมดา
"นั่งลงให้หมดทุกคน!"
ผู้นำเกาะกล่าวอย่างเคร่งขรึม
จากนั้นทุกคนก็เย็นลง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ยอมและไม่พอใจอย่างมาก
"ผู้บัญชาการหลิน! หากคุณโกรธแค้นที่เราไม่ยอมยื่นมือช่วย ผมเองก็พอเข้าใจได้ แต่หวังว่าคุณจะไม่พยายามดูถูกและด้อยค่าเกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เรามีเกียรติและความภาคภูมิใจของเราเอง อีกอย่างคุณยังพูดจาดูถูกเหยียดหยามบรรพบุรุษของเรา สิ่งนี้เราไม่อาจรับได้ หวังว่าคุณจะไม่พูดหรือทำอะไรเกินไปกว่านี้อีก!"
ผู้นำเกาะกล่าวเสียงเคร่งขรึม
"เกินไป? ผมพูดความจริง ผมพูดเกินไปยังไง?"
หลินหยางยิ้มอย่างเยือกเย็น "หากพวกคุณเข้าใจในพื้นฐานสังคมสี่ประการ! พวกคุณคงไม่แสดงออกอย่างป่าเถื่อนเช่นนั้นตอนที่เราเทียบฝั่ง! หากพวกคุณเข้าใจและรู้จักรักษาหวงแหนแผ่นดิน พวกคุณคงไม่ปฏิเสธในตอนที่อาณาจักรต้องการพวกคุณที่สุด! หากพวกคุณเข้าใจในความจงรักภักดีและรักษาคำพูด พวกคุณคงไม่ผิดสัญญาและปฏิเสธอย่างไร้เหตุผล โดยไม่สนใจป้ายคำสั่งบูรพาเลย!"
"ผมถามพวกคุณ! หากไม่มีอาณาจักรมังกร เกาะบูรพาศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณจะอยู่กันอย่างสงบสุขอย่างนี้เหรอ? พวกคุณคิดเหรอว่าจะได้ใช้ชีวิตปลีกตัวอย่างสันโดษได้เช่นนี้เหรอ?"
"โลกนี้มีหลายอาณาจักรประเทศ มีกลุ่มอำนาจมากมาย! ทำไมร้อยกว่าปีมานี้กลับไม่มีใครเข้ามาก่อเรื่องรบกวนพวกคุณ นั่นเป็นเพราะพื้นที่ทางทะเลผืนนี้เป็นอาณาเขตของอาณาจักรมังกร! อาณาจักรอื่นที่ไหนจะกล้าเข้ามาทำลายความสงบของพวกคุณได้?"
"พวกคุณมักอ้างว่าใช้ชีวิตอย่างสันโดษอยู่ที่นี่ โดยไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับโลกภายนอกและไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไรอาณาจักรมังกร แต่ผมขอบอกพวกคุณว่าตั้งแต่วินาทีที่พวกคุณเกิดออกมา พวกคุณทุกคนล้วนต่างได้รับความสงบสุขที่อาณาจักรมังกรมอบให้กับพวกคุณ!"
"พวกคุณไม่มีทางตัดหรือกำจัดมันออกจากชีวิตได้! เพราะพวกคุณคือประชาชนของอาณาจักรมังกร!"
"ลองคิดถึงความเป็นวีรบุรุษและความกล้าหาญของบรรพบุรุษของพวกคุณดู? เพื่ออาณาจักร พวกเขายอมเสียสละชีวิตเลือดเนื้อของพวกเขา! แในทางกลับกัน พวกคุณกลับปฏิเสธที่จะยื่นมือเข้าช่วยและไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น! ที่ผมบอกว่าการศึกษาของพวกคุณมีปัญหาถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมควรจะพูดว่าพวกคุณมีจิตใจต่ำตมและสกปรกอย่างมาก!"
หลินหยางตะโกนด่าทอโดยไม่เกรงใจ
หลังจากที่พูดออกมา ทุกคนต่างเงียบกริบไม่พูดอะไร
แม้แต่เจี่ยกังที่อยู่ข้างๆ ก็พูดไม่ออกเช่นกัน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...