“บังอาจ!”
“สารเลว!!”
“เดรัจฉาน! ดูท่าเเล้วแกคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้วสินะ!”
“แกกล้าดูถูกคุณหนูของเรา? ฉันสั่งให้เเกคุกเข่า!”
ท่านหยูและพวกพ้องโกรธจัดทุกคนพากันคำรามเสียงเหี้ยมใส่ พร้อมกับพุ่งตัวตรงไปยังชายวัยกลางคนผุู้นั้น
พวกเขาต้องสั่งสอนชายวัยกลางคนผู้นี้ให้ได้หลาบจำ
ถึงเเม้ว่าจะรู้ว่าชายวัยกลางคนผู้นี้นั้นเเข็งเเกร่ง แต่พวกเขามีมากกว่า นักรบเเห่งทุ่งน้ำเเข็งจะไม่สามารถสู้คนๆเดียวได้อย่างนั้นเหรอ?
อย่างไรเสีย ท่านหยูเเละพรรคพวกก็เลือกที่จะมุ่งตรงไปหาชายวัยกลางคน
ฟึ่บ!
ชายวัยกลางคนเพียงยกมือขึ้นสะบัดเพียงเล็กน้อยก็เกิดลมพายุหิมะขึ้น
ทันใดนั้นร่างกายของท่านหยูเเละทุกคนต่างถูกปกคลุมไปด้วยน้ำเเข็ง การเคลื่อนไหวของพวกเขาช้าลง มือเท้าจากที่เคยคล่องตัวก็พลันช้าลงเช่นกัน เเขนขาไร้เรี่ยวเเรงเหมือนชายชราที่ทำอะไรเชื่องช้า
“คุกเข่าให้หมดทุกคนซะ!”
ชายวัยกลางคนคำรามเสียงหนักเเน่นเเละนิ้วของเขาขยับอีกครั้ง
เเช้บ!
เเช้บ!
เเช้บ…
น้ำเเข็งขยายควบเข้าที่ร่างกายของท่านหยูเเละพรรคพวกอย่างรวดเร็ว
น้ำเเข็งนี้มันจะควบเเน่นอย่างรวดเร็วในพริบตา และมีความหนามากกว่าสิบเซ็นติเมตร เหมือนภูเขาเนินเล็กๆกดทับร่างของพวกเขาเอาไว้
คนเหล่านี้ทนพลังที่เเข็งเเกร่งนี้ไม่ไหว ถูกน้ำเเข็งเเช่เเข็งจนทำให้หมดสติไป ประกอบกับน้ำหนักน้ำแข็งที่หนักบนร่างกาย ขาทั้งสองข้างถูกแหลกเป็นชิ้น ๆ และพวกเขากำลังคุกเข่าและคลานอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
“อะไรกัน?”
หัวเวยเวยตกใจกลัวและตะลึงงัน
ท่านหยูเเละพรรคพวกของเขานั้นถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือเเห่งทุ่งน้ำเเข็ง
เเต่กลับไม่สามารถสู้กับคนที่อยู่ตรงหน้าได้เลยเเม้เเต่น้อย!
“แก… นี่เเกเป็นใครกันเเน่?”
ในหัวของหัวเวยเวยขาวโพลนและคิดอะไรไม่ออก จึงร้องตะโกนถามออกไปเสียงดัง
“ทำไม? พ่อของเธอไม่เคยพูดกับเธออย่างนั้นเหรอ? เสื้อผ้าสมบัติล้ำค่าที่เธอใส่ มันเป็นชุดที่พ่อของเธอเเย่งชิงไปจากฉันยังไงล่ะ!”
ชายวัยกลางคนผู้นั้นยิ้มเย็น ดวงตาของเขาประกายไปด้วยความเเค้น
“อะไรนะ?”
หัวเวยเวยไม่อยากจะเชื่อ
“หึหึ คิดไม่ถึงจริงๆ สิ่งที่พ่อของเธอเเย่งชิงจากฉันไปเมื่อหลายสิบปีที่เเล้ว อีกหลายสิบปีต่อมา เธอก็เป็นคนนำของของฉันมาส่งให้ฉันเองถึงที่! เยี่ยมมาก! เยี่ยมที่สุด! ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ชายวัยกลางคนหัวเราะดีใจ พร้อมกับก้าวเดินไปหาหัวเวยเวย
หัวเวยเวยมองไปที่ท่านหยูและคนอื่นๆ
ตอนนี้พวกเขานั้นได้คุกเข่าลงกับพื้นเเล้ว โดยมีก้อนน้ำเเข็งโอบรอบกายอยู่เหมือนกับรูปปั้นปฏิมากรรม
ได้เเต่มองดูพวกเขา และดูท่าพวกเขาคงทนไม่ได้แล้ว
เหลือเพียงหนทางเดียวเท่านั้น
วิ่ง!
หัวเวยเวยรีบหันหลังกลับพร้อมกับสาวเท้าวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต
ทำไงดี?
เธอตะโกนอยู่ภายในใจ
และขณะเดียวกันนั้นเอง
บู้ม!
หัวเวยเวยซึ่งกำลังวิ่งไปข้างหน้า จู่ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะชนเข้ากับอะไรบางอย่างและล้มลงกับพื้น
เมื่อเขธอเรียกสติกลับมาได้ เธอก็ตระหนักได้ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือหลินหยางที่เพิ่งจากไปเมื่อครู่
“นี่นายเองเหรอ?”
หัวเวยเวยชะงักเล็กน้อย จากนั้นจึงตะโกนขึ้นด้วยความดีใจ “หลินหยาง เร็วเข้า หยุดชายคนนั้นให้ฉันที!”
“หยุดงั้นเหรอ?”
หลินหยางมองไปยังทิศทางที่หิมะถล่มลงเเล้วถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “แล้วพวกพ้องของคุณหายไปไหนหมดล่ะ?”
สีหน้าของหัวเวยเวยเเปลกไป
“ดูเหมือนว่าคงจะถูกฆ่าเเล้วสินะ?”
หลินหยางส่ายหัวเเล้วพูดต่อ “ลูกน้องของคุณโลภไง ฉันเตือนเเล้วก็ไม่ฟัง อีกทั้งยังบอกให้รีบจัดการกับหมียักษ์ตัวนั้นเเล้วรีบๆหนีไปจากที่นี่ซะ แต่ก็ไม่มีใครฟัง ตอนนี้ตายกันหมด บอกได้เเค่ว่าพวกเขาสมควรที่จะได้รับโทษนั้น”
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้นะ ชายคนนั้นตามมาเเล้ว นายรีบคิดหาวิธีสิ!”
หัวเวยเวยตะโกนใส่หน้าหลินหยางด้วยความเดือดดาล “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าหากว่าฉันตายที่นี่ ตระกูลอวี้ทั้งตระกูลจบเห่เเน่ พ่อฉันก็คงไม่ปล่อยนายเอาไว้เเน่ คนของตระกูลอวี้ต้องชดใช้ให้กับฉัน!”
หลินหยางเหลือมองชายวัยกลางคนที่กำลังใกล้าเข้ามา พร้อมกับขมวดคิ้วเบื่อๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ถ้าอย่างนั้น จะให้ฉันออกหน้าสู้ก็คงไม่ได้ ฉันหวังว่าคุณจะลองสู้กับเขาสักตั้งก่อน อย่างน้อยๆคุณก็ช่วยลดพลังของเขาให้ฉัน เเบบนี้โกกาสที่เราจะชนะก็มีสูงขึ้น”
หัวเวยเวยชะงักจากนั้นก็พยักหน้าแล้วพูดเสียงต่ำๆ “ก็ได้ ฉันจะลองสู้อีกสักตั้ง!”
ครั้งนี้เธอไม่มีทางเลือกเเล้วจริงๆ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...