สีหน้าทั้งสองคนจริงจังอย่างมาก
ถ้าไปจากที่นี่ทั้งอย่างนี้ กลับไปคงไม่สามารถให้คำอธิบายกับซือหม่าชิวเย่ได้
คิดไตร่ตรองสักพัก ชายสวมแว่นก็ใช้สายตาส่งสัญญาณให้ชายที่ผูกเนคไท หลังจากนั้นก็ยิ้มอย่างเรียบเฉย:“หมอเทวดาหลินโปรดระงับโทสะ พวกเราคือทูตที่กลุ่มธุรกิจซางเหมิงส่งมาทำงาน ที่มาครั้งนี้ เพราะอยากจะเชิญท่านหมอเทวดาหลินเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิงกับพวกเรา”
“เข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิง?”
หลินหยางทำเป็นตกใจ
“ยินดีกับหมอเทวดาหลิน หยางหัวเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิงกับเรา เรียกได้ว่าเสริมแกร่งขึ้นไปอีก ทรัพยากรและทุนทรัพย์ของพวกเรากลุ่มธุรกิจซางเหมิงก็เพียงพอให้หยางหัวพัฒนาขึ้นอีกชั้น ทำให้ทรัพยากรและทรัพย์สินพัฒนาขึ้นอีกขั้น มีคนตั้งเท่าไหร่กันที่อยากจะเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิงเราแต่ไม่สามารถทำได้ วันนี้พวกเราเป็นฝ่ายเชิญท่านให้มาเข้าร่วม นี่ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากเลยนะ!”
ชายสวมแว่นยิ้ม
“เป็นเกียรติ? ก็แค่กลุ่มธุรกิจซางเหมิง ถือว่าเป็นเกียรติอะไรกัน?”
หลินหยางส่ายหน้า ราวกับไม่ได้สนใจ
รอยยิ้มของชายสวมแว่นแข็งทื่อ ส่วนใบหน้าของชายสวมเนคไทไม่สบายใจ
“หมอเทวดาหลินปากเคาะเราะร้ายเสียจริง เช่นนี้ก็หมายความว่า ท่านไม่สนใจจะเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิงแม้แต่นิดงั้นสิ?”
ชายสวมเนคไทถามด้วยความเคร่งขรึม
“ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจซางเหมิง เพราะงั้นจะสนใจหรือไม่สนใจมันก็ไม่ได้สำคัญ”
หลินหยางพูดด้วยเสียงเรียบเฉย:“ฉันถามพวกนายหน่อย ใครใช้ให้พวกนายมาคุยเรื่องกลุ่มธุรกิจซางเหมิงกับฉัน?”
“ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือไง? ผู้นำพันธมิตรของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงของพวกเรา!”
“ใช่ผู้นำพันธมิตรไป๋ฮั่วสุ่ยหรือเปล่า?”
“นี่…”
ทั้งสองมองหน้ากัน ชายสวมแว่นถึงจะพยักหน้า:“ใช่แล้วล่ะ แต่เรื่องนี้รองผู้นำพันธมิตรซือหม่าเป็นคนรับผิดชอบ ที่พวกเรามารับท่านไปสำนักงานใหญ่ของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงครั้งนี้ เพื่อปรึกษาหารือกับผู้นำพันธมิตรซือหม่า!”
“ปรึกษาหารือ? ปรึกษาเรื่องอะไร?”
หลินหยางถามด้วยเสียงเรียบเฉย
“หมอเทวดาหลินถ้าหากสนใจจะเข้าร่วมพันธมิตร สามารถออกเดินทางไปที่กลุ่มธุรกิจซางเหมิงกับพวกเราตอนนี้ได้เลย เพราะหยางหัวเป็นสำนักงานใหญ่ พอเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิง ก็คงมีเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือให้เข้าใจกันไม่น้อย เพราะงั้นจึงจำเป็นต้องนั่งคุยกันอย่างจริงจัง”
ชายสวมแว่นยิ้มแล้วพูด
หลินหยางครุ่นคิดสักพัก จู่ๆก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน:“แต่ฉันไม่สนใจเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิง พวกนายกลับไปเถอะ ฉันขี้เกียจจะเข้าร่วมพันธมิตร!”
พอพูดจบ เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนิ่งอึ้งไป
พวกเขาไม่เคยเห็นใครกล้าปฏิเสธคำเชิญการเข้าร่วมพันธมิตรของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงมาก่อน!
ถ้าเป็นคนทั่วไปได้รับคำเชิญนี้ล่ะก็ คงซาบซึ้งในบุญคุณ ดีใจอย่างสุดซึ้ง
มองกลับมาดูหลินหยาง ใบหน้าแน่นิ่ง ไม่มีแม้แต่ความตื่นเต้นบนใบหน้า
นี่เลยทำให้ทั้งสองคนทำตัวไม่ถูก
ภารกิจครั้งนี้ของพวกเขาต้องเชิญหลินหยางไปที่กลุ่มธุรกิจซางเหมิง
ถ้าหากหลินหยางไม่ไป พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับซือหม่าชิวเย่ยังไง...
ทั้งสองใช้สายตาสื่อสารกันสักพัก ชายสวมแว่นก็เดินขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วพูด:“หมอเทวดาหลิน การกระทำของพวกเราก่อนหน้านี้อาจจะบุ่มบ่ามไปบ้าง ถ้าหากมีจุดที่ล่วงเกินไป ผมต้องขอโทษท่านด้วย ส่วนเรื่องเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิง...ผมคิดว่าท่านไปกับพวกเราดูสักหน่อยเถอะ รองผู้นำพันธมิตรถึงกับชี้แจงประโยชน์กับการร่วมพันธมิตรด้วยตนเอง ถ้าหากท่านไม่สนใจจะเข้าร่วมกลุ่มธุรกิจซางเหมิงกับพวกเราจริงๆ ถึงตอนนั้นจะปฏิเสธก็ยังไม่สายใช่ไหมล่ะ!”
“ถ้าผู้นำพันธมิตรของพวกนายเชิญฉันเข้ารวมพันธมิตรอย่างจริงใจ แล้วทำไมเขาถึงไม่มาเมืองเจียงเฉิงด้วยตัวเองล่ะ?”
“หมอเทวดาหลินโปรดอภัยด้วย ผู้นำพันธมิตรมีงานรัดตัวจริงๆ ปลีกตัวมาลำบาก เลยตั้งใจส่งพวกเรามารับท่านไปเป็นพิเศษ โปรดอภัยด้วย โปรดอภัยด้วย!”
ชายสวมแว่นรีบโค้งคำนับ
ท่าทางนี้เรียกได้ว่าจริงใจอย่างมาก
ชายสวมเนคไทลุกขึ้นยืน แล้วรีบโค้งคำนับ
หลินหยางขมวดคิ้วคิดไตร่ตรอง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พยักหน้า:“ได้ ฉันจะไปกับพวกนาย ฉันมีเรื่องจะคุยกับผู้นำพันธมิตรของพวกนายพอดี! ถือซะว่าไปทำธุระก็แล้วกัน!”
“ธุระ?”
ทั้งสองคนนิ่งไป มองไปที่หลินหยางด้วยสีหน้างุนงง แต่กลับไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม
“เช่นนี้ พวกเราก็รีบออกเดินทางกันเถอะ”
ชายสวมแว่นยิ้ม แล้วรีบตัดสินใจ
กลุ่มธุรกิจซางเหมิงมีรถรับส่งโดยเฉพาะ หลังจากที่หลินหยางขึ้นไปนั่ง ก็เดินทางออกจากเมืองเจียงเฉิงอย่างรวดเร็ว
เดิมทีหม่าไห่คิดจะส่งยอดฝีมือของหยางหัวสักสองสามคนไปคุ้มครองความปลอดภัยของหลินหยาง แต่ก็ถูกปฏิเสธ
นี่มันไม่จำเป็นเลยสักนิด
เพราะผู้นำพันธมิตรของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงคือไป๋ฮั่วสุ่ย
และความหมายของการเชิญหยางหัวเข้าร่วมพันมิตรครั้งนี้ไป๋ฮั่วสุ่ยไม่ได้เป็นคนเสนออย่างแน่นอน คงเป็นซือหม่าชิวเย่
บริษัทถังเฉิงเทคโนโลยีหมดสิ้นอำนาจ ก่อความวุ่นวายแผนการหนานเซี่ยของซือหม่าชิวเย่ ในใจซือหม่าชิวเย่นั้นรีบร้อนอย่างมาก แน่นอนว่าต้องรีบทำให้หยางหัวเข้าร่วมพันธมิตรให้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องเจอความวุ่นวายจากหลินหยางต่อ
หลินหยางได้ส่งมือสังหารพวกนั้นกลับไปแล้ว วัตถุประสงค์ของซือหม่าชิวเย่เขาก็รู้คร่าวๆแล้วเช่นกัน เพราะงั้นถึงได้ไม่กังวล
แต่ว่าเรื่องที่หนานเซี่ยใช้อำนาจคุกคามหยางหัวนั้น จะให้หลินหยางไม่สนใจก็คงไม่ได้แล้ว
หลินหยางก็อยากจะดูเสียหน่อยว่าในภูเขาน้ำเต้าของซือหม่าชิวเย่คนนี้ขายสมุนไพรอะไรกันแน่
รถขับไปทางถนนภาคกลางของอาณาจักรหลงกั๋ว
กลุ่มธุรกิจซางเหมิงตั้งอยู่ที่ใจกลางของภูเขาฉายหลง
ว่ากันว่าภูเขาฉายหลงแต่ก่อนไม่ได้ชื่อนี้ จนกลุ่มธุรกิจซางเหมิงก่อตั้งขึ้นมา เลยขายยอดเขาขนาดใหญ่ไป จากนั้นก็เปลี่ยนชื่อของที่นี่
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินหยางมาที่ภูเขาฉายหลง แค่พอได้เข้าใกล้ยอดเขา แล้วมองออกไปไกลๆ ก็รับรู้ได้ถึงอำนาจและความเน่าเกรงขามที่ไม่ธรรมดา
กลุ่มธุรกิจซางเหมิงเลือกสถานที่ได้ดีจริงๆ
ฮวงจุ้ยเต็มไปด้วยโภคทรัพย์ บุคคลมากความสามารถเช่นนี้ แทบไม่ด้อยกว่าห้องที่สร้างบนชีพจรมังกรเลย
แต่หลังจากที่ขึ้นมาถึงภูเขาฉายหลงแล้ว หลินหยางก็ตกใจ พบว่าสำนักงานใหญ่ของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงที่ว่านั้น ไม่ได้หรูหราโอ่อ่าอย่างที่จินตนาการไว้ แต่กลับเป็นตึกสำนักงานธรรมดาๆ
พวกเขาตกต่ำถึงขนาดอยู่ในมุมภูเขาฉายหลง ชายหญิงกลุ่มหนึ่งแต่งตัวตามกาลเทศะเข้าออกตึกสำนักงาน แม้แต่หน้าอาคารก็มีรถจอดอยู่หลายคัน ระดับแตกต่างกัน มีทั้งเบนซ์ BMW แล้วก็Alto เฌอรี่
รถเข้ามาจอดในตึกใหญ่สีดำตรงกลาง
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญเข้ามา!”
ซือหม่าชิวเย่ตะโกนออกไป
ประตูถูกเปิดออก ทั้งสามคนเดินเข้ามาในห้องโถง
“ผู้นำพันธมิตร รองผู้นำพันธมิตร หมอเทวดาแห่งเมืองเจียงเฉิงมาถึงแล้วครับ!”
ชายสวมแว่นยิ้มแล้วพูด
“ไอ้หยา หมอเทวดาหลิน ท่านมาได้เสียทีนะ! ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ!”
ซือหม่าชิวเย่รีบขึ้นมาต้อนรับ ยื่นมือออกมาต้องการจะจับมือกับหลินหยาง สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อบอุ่นอย่างมาก
แต่หลินหยางนั้นไม่ได้สนใจ ตรงไปนั่งลงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ แล้วจุดบุหรี่ พูดด้วยเสียงเย็นชา:“นายคือซือหม่าชิวเย่?”
ฉากที่ปรากฏตรงหน้านี้ ทำเอาทุกคนนิ่งอึ้งไป
รวมถึงไป๋ฮั่วสุ่ยด้วย
เธอรู้ว่าหลินหยางไม่ชอบซือหม่าชิวเย่ เพราะยังไงซะซือหม่าชิวเย่ก็จัดเรียงหยางหัวเข้าไว้ในแผนการหนานเซี่ย ว่ากันตามนั้นล่ะก็ทั้งสองนับว่าเป็นศัตรูกัน
แต่ท่าทางเช่นนี้ของหลินหยาง มันไม่เหมือนแหวกหญ้าให้งูตื่นไปหน่อยเหรอ?
ไป๋ฮั่วสุ่ยแอบส่งสัญญาณทางสายตาให้หลินหยาง แต่อีกฝ่ายกลับมองไม่เห็น
ซือหม่าชิวเย่นิ่งอึ้งไป หลังจากนั้นก็ยังคงยิ้มไม่หุบ:“ใช่แล้ว หมอเทวดาหลิน ผมก็คือซือหม่าชิวเย่!”
“รองผู้นำพันธมิตรซือหม่า นั่งลงเถอะ ฉันได้ยินมาว่านายอยากเชิญฉันเข้าร่วมพันธมิตร พูดมาตามตรงเถอะ! อย่าเสียเวลาทุกคนอยู่เลย”
หลินหยางพูดด้วยเสียงเรียบเฉย
คำพูดรวดเร็วราวกับฟ้าผ่าเช่นนี้ ทำให้ซือหม่าชิวเย่ยิ่งทำอะไรไม่ถูกเข้าไปใหญ่
แต่สามารถนั่งตำแหน่งของรองผู้นำพันธมิตรได้ ซือหม่าชิวเย่จะเป็นแค่คนธรรมดาได้ยังไงกัน?
เขาไม่ขยับสีหน้า ยิ้มเบาๆแล้วพูด:“หมอเทวดาหลิน เวลาที่กลุ่มธุรกิจซางเหมิงของพวกเรารับสมาชิกใหม่นั้นเข้มงวดอย่างมาก กฎเกณฑ์หยางหัวของคุณในตอนนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างผมรู้มาว่าคุณอยากเข้าร่วมพันธมิตร ก็เลยจะจัดการดำเนินตามขั้นตอนการเข้าร่วมพันธมิตร ถ้าคุณคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรล่ะก็ เซ็นสัญญาฉบับนี้ได้เลย พอเซ็นแล้ว คุณก็จะกลายเป็นคนของกลุ่มธุรกิจซางเหมิงของพวกเรา!”
พอพูดจบ ซือหม่าชิวเย่ก็ดันหนังสือสัญญาฉบับหนามาตรงหน้าหลินหยาง
หลินหยางรับมา แล้วพลิกเปิดดู
ผ่านไปสิบนาที
“กลุ่มธุรกิจนี้ เกรงว่าฉันคงไม่เข้าร่วม”
หลินหยางวางหนังสือสัญญาลง พูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“หมอเทวดาหลิน มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
ไป๋ฮั่วสุ่ยขมวดคิ้วถาม
“กว่าฉันกับทุกคน รวมถึงหม่าไห่จะก่อตั้งหยางหัวขึ้นมาได้ มันลำบากอย่างมาก ทุกคนต่างก็เสียเลือดและหยาดเหงื่อไม่น้อย แต่การเข้าร่วมพันธมิตรนี้ พวกนายกลับต้องการแบ่งไปตั้งครึ่งหนึ่ง...ไม่คิดว่าจะรังแกกันเกินไปหน่อยเหรอ?”
หลินหยางพูดด้วยเสียงเย็นชา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...