เข้าสู่ระบบผ่าน

สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 3100

"รุ่นพี่!"

ซูเหยียนร้องอุทานออกมาพร้อมกับรีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว

"ว้าว! มีสาวสวยมาเพิ่มอีกคนแล้ว!"

"พระเจ้า วันนี้เกิดอะไรขึ้นที่ร้านนี้กันนะ? ทำไมถึงมีคนสวยมากันเยอะขนาดนี้?"

"สั่งอาหารค่ะ!"

"เถ้าแก่ ขอเมนูหน่อย! ฉันจะกินข้าวร้านนี้!"

"เถ้าแก่! จองโต๊ะหน่อยครับ!"

ผู้คนต่างตะโกนเสียงดังพร้อมกับรีบหาโต๊ะนั่งเพื่อจะได้มุมมองดูสองสาวงามทั้งสองคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้า

เมื่อสาวผิวขาวนวลเนียนคนนั้นได้ยินเสียงของซูเหยียนก็รีบหันมองและกล่าวด้วยรอยยิ้ม "เสี่ยวเหยียน ไม่เจอกันนานเลยนะ"

"คิดไม่ถึงเลยว่าพี่จะยังสวยงามเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะคะ"

ซูเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกวาดสายตาสังเกตรุ่นพี่คนนั้น

"ฉันจะเหมือนเธอได้ยังไง? เธอดูเปลี่ยนไปจากตอนเรียนมากเลยนะ"

รุ่นพี่ของเธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยและสังเกตมองซูเหยียนอย่างละเอียดด้วยความตกใจ

ขณะนี้เอง หลินหยางก็เดินเข้ามา

"คนนี้คือ?"

รุ่นพี่ถามขณะมองไปที่หลินหยาง

"อ้อฉันจะแนะนำให้รู้จัก เขาชื่อหลินหยางเป็นสามีของฉันเองค่ะ หลินหยาง นี่คือรุ่นพี่ของฉันชื่อซ่างกวนหลิง!"

ซูเหยียนแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน

"รุ่นพี่ซ่างกวน สวัสดีครับ"

หลินหยางกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับพยักหน้า

"สวัสดี!"

ซ่างกวนหลิงตกใจเล็กน้อย "เสี่ยวเหยียน คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะแต่งงานแล้ว"

"ฉันก็อายุไม่น้อยแล้ว ถึงเวลาแต่งงานแล้ว ทำไมเหรอ? พี่ยังโสดอยู่เหรอ?"

ซูเหยียนถามด้วยความประหลาดใจ

ซ่างกวนหลิงเงียบไปครู่หนึ่งและจากนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่น "หลายปีมานี้ฉันมัวแต่ยุ่งกับเรื่องๆ หนึ่งจนไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องอย่างอื่นเลย เธอคิดว่าฉันจะมีเวลาไปคิดเรื่องแต่งงานเหรอ?"

"เรื่องอะไรเหรอคะ ทำไมถึงสำคัญมากขนาดนั้นเลย?"

ซูเหยียนถาม

"เฮ้อ ไม่พูดดีกว่า"

ซ่างกวนหลิงส่ายหน้าและหลับตาลงอย่างโศกเศร้า

ซูเหยียนรู้สึกสับสนงุนงง แต่เมื่อซ่างกวนหลิงไม่พูด เธอก็ไม่รู้จะถามอะไรต่อดี

"พี่คะ ถ้าพี่มีเรื่องไม่สบายใจอะไรก็บอกฉันมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจนะคะ"

ซูเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

"เธออย่าเข้าใจผิดไป ที่ฉันมาหาเธอครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อให้เธอช่วยอะไร แต่เพราะบังเอิญผ่านมาที่นี่ก็เลยตั้งใจแวะมาหา!" ซ่างกวนหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

"ผ่านมาที่เจียงเฉิน? พี่คะ พี่จะไปไหนเหรอคะ?"

ซ่างกวนหลิงเงียบไปครู่หนึ่งและจากนั้นก็กล่าวเสียงแผ่วเบา "ชายแดนทางตอนเหนือ"

เมื่อคำพูดนี้ออกมา ซูเหยียนก็ตกตะลึง

"ชายแดนทางตอนเหนือ? ฉันได้ยินมาว่า...ทางนั้นกำลังมีสงครามอยู่..."

"ใช่แล้ว ตอนนี้ชายแดนทางตอนเหนือกำลังทำสงครามกันอยู่ อันที่จริงหลายปีมานี้ชายแดนทางตอนเหนือไม่เคยสงบสุขเลย"

ซ่างกวนหลิงกล่าวเสียงแหบแห้ง "เสี่ยวเหยียน ฉันเล่าความจริงให้เธอฟังก็ได้ ฉันได้เข้าร่วมกับองค์กรหนึ่งตั้งแต่เด็ก องค์กรนี้รับผิดชอบเรื่องความเป็นความตายและเสี่ยงอันตรายต่างๆ ของอาณาจักรมาโดยตลอด ตอนนั้นที่ฉันเรียนได้แค่ครึ่งทางก็เป็นเพราะฉันต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ชายแดนทางตอนเหนือ! เข้าใจไหม?"

ซูเหยียนได้ยินเข้าก็รู้สึกตกใจ

"ตอนนั้นที่ไปปฏิบัติภารกิจมันค่อนข้างง่ายมาก ฉันเองก็ทำมันได้ดีมาก แต่การสงครามดำเนินมาจนถึงตอนนี้ได้กลายเป็นเรื่องซับซ้อนอย่างมาก เบื้องบนสั่งให้ฉันไปที่นั่นอีกครั้งเพื่อช่วยกองทัพรัฐบาลอาณาจักรมังกร ฉันเลยต้องออกจากบ้านมาและบังเอิญผ่านมาที่เจียงเฉินก็เลยคิดว่าเธอต้องยังอยู่ที่นี่แน่ ก็เลยมาเยี่ยมเธอหน่อยน่ะ เสี่ยวเหยียน ถ้าฉันทำให้เธอไม่สะดวก ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะ"

ซ่างกวนหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ซูเหยียนอ้าปากเล็กน้อยเหมือนว่ายังนึกไม่ได้

หลินหยางที่อยู่ข้างๆ กลับเอ่ยปากออกมา "แล้วองค์กรที่คุณอยู่คือองค์กรอะไรเหรอ?"

"ถามเรื่องนี้ทำไมเหรอ?"

ซ่างกวนหลิงมองหลินหยางอย่างประหลาดใจ

"คุณต้องเป็นกลุ่มคนที่มีอุดมคติอันสูงส่งที่มีความกังวลเกี่ยวกับอันตรายของอาณาจักร ทำไมคุณถึงไม่เข้าร่วมกับกองทัพรัฐบาลของอาณาจักรมังกรโดยตรงล่ะ? การทำเช่นนั้นจะทำให้คุณปกป้องอาณาจักรได้ง่ายกว่าไหม?"

หลินหยางกล่าว

"คุณไม่เข้าใจ คุณเป็นแค่คนธรรมดา คุณไม่เข้าใจการมีอยู่ของคนเหล่านี้ที่มีวิถีทางอันทรงพลังได้หรอก"

ซ่างกวนหลิงจ้องมองไปที่หลินหยางอย่างไม่แยแส "คุณกับฉันเราอยู่กันคนละโลกด้วยซ้ำ!"

หลินหยางไม่ได้พูดอะไร

ซูเหยียนสับสนงุนงงและเมื่อคิดอยู่นานก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา "พี่คะ พี่มีทักษะศิลปะการต่อสู้เหรอคะ?"

"ใช่"

ซ่างกวนหลิงพยักหน้าและกล่าวออกมา "ฉันเกิดในตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณ บรรพบุรุษของฉันเป็นแม่ทัพที่ปกป้องประเทศ ดังนั้น ครอบครัวของเราจึงมีค่านิยมรักชาติอย่างเข้มแข็ง เมื่อตอนที่ฉันเป็นนักศึกษาปีที่สอง ฉันได้รับข่าวให้ไปปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนเข้าก็เลยทำให้ฉันต้องหยุดเรียนไป แม้ว่าฉันจะเสียดาย แต่เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญของอาณาจักรแล้ว ฉันกลับไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย"

จากนั้นก็เห็นหลินหยางกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ "เสี่ยวเหยียน ผมกับหมอเทวดาหลินก็นับว่ารู้จักกัน ถ้ารุ่นพี่คุณมีอะไร ผมสามารถไปบอกหมอเทวดาหลินให้ได้"

"คุณเองก็รู้จักเขาเหรอ?"

"นับว่ารู้จักนะ"

หลินหยางกล่าว

ซ่างกวนหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและจากนั้นก็กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง "หมายความว่านัดให้มาเจอกันไม่ได้?"

"อาจจะยากหน่อย"

ซูเหยียนลังเลก่อนจะพูดออกมา

"งั้นก็ฝากขอยากับหมอเทวดาหลินให้หน่อยได้ไหม"

ซ่างกวนหลิงแอบถอนหายใจ

"ขอยาอะไรเหรอ?"

"แน่นอนว่าต้องเป็นยาที่รักษาได้ทุกโรคไง"

"นี่คุณ คุณกำลังเล่นตลกเหรอ? บนโลกนี้มียาประเภทนี้ที่ไหนกัน?"

หลินหยางขมวดคิ้วกล่าว

"แต่...ฉันไม่รู้ว่าลูกชายของบุคคลสำคัญคนนั้นเป็นโรคอะไร ฉันเลยไม่รู้ว่าควรใช้ยาอะไร ฉันเห็นว่าหมอเทวดาหลินมีทักษะการแพทย์ที่สูงส่งและไม่ธรรมดา ถ้าเขาสามารถให้ยาที่รักษาให้ทุกโรคละก็คงเป็นเรื่องดีมากแน่ๆ"

ซ่างกวนหลิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา

หลินหยางได้ยินเข้าก็หุบยิ้มทันที

"บนโลกนี้มียาที่รักษาได้ทุกโรคที่ไหนกัน? ถ้าไม่ได้เห็นคนไข้ด้วยตัวเอง หมอเทวดาที่ไหนจะรู้ว่าต้องรักษายังไง? ความคิดของคุณไม่ดูไร้เดียงสาไปหน่อยเหรอ"

"เอ่อ..."

ซ่างกวนหลิงอ้าปากและรู้สึกเศร้า

"หาไม่สามารถขอให้บุคคลสำคัญนั้นช่วยเหลือได้ ภารกิจของฉันต้องล้มเหลว ดูเหมือนว่า...ยังไงก็ไม่มีทาง..."

ซูเหยียนเห็นเข้าก็ทำหน้าเป็นกังวลและไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

เธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชิญหมอเทวดาหลินให้ได้ไหม อีกอย่างช่วงนี้ก็เกิดเรื่องในเจียงเฉินมากมาย เธอเกรงว่าหมอเทวดาหลินจะต้องไม่มีเวลาแน่นอน

"หลินหยาง เราต้องช่วยกันคิดหาวิธี"

ซูเหยียนสะกิดหลินหยางและกล่าวกระซิบ

"เรื่องนี้มีเพียงทางเดียวก็คือเชิญใครคนหนึ่งที่รู้ทักษะการแพทย์ไปตรวจดูอาการ"

หลินหยางกล่าว "หรือให้ผมไปกับคุณ"

เมื่อพูดจบทั้งสองก็ต่างพากันมองไปที่เขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา