"พูดอยู่ฝ่ายเดียว! เขากำลังพูดอยู่ฝ่ายเดียว คุณบอกให้เขาเอาหลักฐานมายืนยันว่านี่เป็นฝีมือของประธานเลิ้นสิ! ไม่แน่คุณอาจจะใช้เงินซื้อเขามาก็ได้!" จูจือเฉียงยังไม่ยอมแพ้ เขารีบตะโกนเสียงดัง
"คุณจู สมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พวกเราเฝ้าจับตาดูเทียนเหิงกรุ๊ปมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อไหร่ที่ทางตำรวจเข้าไปตรวจสอบ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีเบาะแสแม้แต่นิดเดียว! ยิ่งไปกว่านั้น…ตอนที่พวกคุณไปหาผู้ป่วยพวกนี้ มีครอบครัวหนึ่งที่บ้านของพวกเขามีกล้องวงจรปิด แค่เขาเอาภาพจากกล้องวงจรปิดไปมอบให้ตำรวจ ความจริงทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง! ท้ายที่สุดคนที่พวกคุณสั่งให้ทำงานเรื่องนี้ ล้วนแต่ใช้คนของเทียนเหิงกรุ๊ป แบบนี้พวกเขาจะหนีความผิดพ้นไหม?" หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
"นี่…" จูจื่อเฉียงมองตาค้าง
"เรื่องแบบนี้ต้องให้คนที่ไว้ใจไปทำเท่านั้น เพราะในมุมมองของพวกเรา ยังไงพวกเขาก็ต้องตายแน่ หลังจากที่ตายไปก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันอีก" เลิ้นกุยสูดลมหายใจเข้าแล้วพูด
จูจือเฉียงกัดฟันแน่นไม่พูดอะไรสักคำ
"ผลการประเมินออกมาแล้ว!"
ในตอนนั้นเอง มีเสียงตะโกนดังขึ้น หลังจากนั้นฝูงชนแยกออกเป็นทาง มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมกับกระดาษในมือ สุดท้ายส่งให้หลินหยาง
คราวนี้ ลมหายใจของเลิ้นกุยและคนอื่นหยุดชะงัก
ถ้าหากผลการประเมินออกมาคือผิด ทุกอย่างก็จบกัน คนคนนี้ถูกซื้อตัวไปหรือเปล่ามันไม่สำคัญอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้แย่จนถึงขีดสุดแล้ว
"ประธานเลิ้น คุณจะดูหรือเปล่า?"
หลินหยางเขย่ากระดาษที่อยู่ในมือแล้วถาม
"ไม่จำเป็น!"
เลิ้นกุยสูดลมหายใจเข้า พูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง "ดูตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ประธานหลิน คุณชนะแล้ว!"
สถานที่เกิดเหตุเงียบสนิททันที
"แบบนี้ก็เท่ากับคุณยอมรับแล้ว?"
"ยอมรับแล้วยังไง? ผมรู้สึกสงสัยมาก คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าผมส่งสายไปอยู่ข้างกายคุณ?" เลิ้นกุยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง
"หลังจากที่พวกคุณทำข้อแลกเปลี่ยน" หลินหยางพูด
"หลังจากทำข้อแลกเปลี่ยน?" ลมหายใจของผมเลิ้นกุยหยุดชะงัก มองหลินหยางด้วยความตกใจ
เห็นเพียงกระดาษที่อยู่ในมือของเขาตกลงสู่พื้น
บนกระดาษใบนั้น…ไม่มีตัวอักษรสักคำ เป็นเพียงกระดาษเปล่า
"คุณหลอกผม? นี่…นี่ไม่ใช่ใบรับรองการประเมิน? นี่เป็นของปลอม? นี่ไม่ใช่ใบรับรองการประเมิน?" ดวงตาของเลิ้นกุยแดงก่ำ ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
ที่แท้…ทั้งหมดนี้เป็นแผนของหมอเทวดาหลินอีกแล้ว…
ที่แท้หลินหยางไม่ได้มีสูตรยาสองตัว!
เขามีสูตรยาเพียงตัวเดียวมาโดยตลอด
สูตรยาที่หลินหยางพูดถึง อันที่จริงเป็นเรื่องที่เขาแต่งเรื่องขึ้นมา
อย่างไรก็ตามก่อนที่ลู่เสวี่ยจะมอบสูตรยาให้ตระกูลหวัง หลินหยางและหม่าไห่ไม่เคยรู้เลยว่าเธอเป็นสายลับทางธุรกิจ และไม่มีทางรู้ด้วย
ถึงรู้ในตอนนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว
ไม่มีใครเคยคิดว่าตระกูลหวังจะยื่นมือเข้ามาลึกถึงขนาดนี้
เดิมทีเลิ้นกุยก็ไม่ได้คิดจะยอมรับ
แต่หลินหยางเชิญแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากมายมาเป็นผู้ประเมินและผู้ยืนยัน ความมั่นใจของเลิ้นกุยจึงลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
เขารู้ หยางหัวมีการเตรียมตัวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
สามารถเชิญแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากมายมาเจียงเฉินอย่างกะทันหัน หลินหยางต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้าหลายวันแน่นอน
นอกจากนี้ อาการของผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลประชาชนก็ดีขึ้นอย่างกะทันหัน จึงสร้างแรงกดดันให้เขาด้วย
เขาจำได้ว่าหมอของโรงพยาบาลเคยบอก ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของคนไข้น่าจะอยู่ได้ไม่เกินวันพรุ่งนี้ ถึงเทพเทวดาลงมาจากสวรรค์ก็ช่วยพวกเขาไม่ได้
แต่ว่า…หลินหยางกลับสามารถทำให้พวกเขามีชีวิตอีกครั้ง
ทักษะการแพทย์ระดับนี้ สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา!
ทักษะการแพทย์เหนือชั้นที่หลินหยางแสดงออกมา มันเริ่มทำให้เลิ้นกุยเชื่อในคำพูดของหลินหยาง คิดว่าเขามีสูตรยาสองตัวอยู่ในมือ ส่วนสูตรยาที่ตนเองได้มาเป็นเพียงของปลอม
ถ้าหากสูตรยามีปัญหา สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดก็ต้องสูญเปล่า
บวกกับทันทีที่รายงานการประเมินออกมา มันยิ่งทำให้จิตใจของเขาพังทลายลง
แต่คิดไม่ถึงว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงเรื่องโกหก!
เป็นสงครามจิตวิทยาของหมอเทวดาหลิน!
หลังจากที่เลิ้นกุยพูดคำพูดเหล่านั้นออกมา ฝูงชนในสถานที่เกิดเหตุสูญเสียการควบคุม
นักข่าวทุกคนพุ่งไปทางเลิ้นกุย ใช้ไมโครโฟนและอุปกรณ์ทำมาหากินจ่อเข้าไปหาเลิ้นกุยอย่างบ้าคลั่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...
หายย...
เกิดอะไรขึ้นกับเว็บหรือป่าวครับ ข้อความไม่ครบหลายเรื่องเลย...
ตระกูลซูน่ารังเกียจมาก ส่วนซูเหยียน คนทั้งตระกูลรังแกเอาเปรียบกลายเป็นของเล่น ก็ทนอยู่นะ พ่อกับแม่ก็ไม่สนใจลูกเลยเอาใจแต่คุณย่าคุณย่า แยกบ้านไม่เป็นหรอ...