ภายในตระกูลหลินในตอนนี้ หลินเจิ้นหลงหนังอยู่บนตำแหน่งหลัก ด้านล่างมีผู้คนนั่งอยู่ไม่น้อย
ตามด้วยทายาทหลักสายตรงตระกูลหลิน ตระกูลย่อย คนแซ่อื่น
สุดท้ายเป็นคนจากตระกูลอื่น และคนในวงธุรกิจ
“นายท่านตระกูลหลิน ตอนนี้พวกเรายังไม่ต้องรีบไปที่เขาติ้งจุนเหรอครับ? อิทธิพลและผู้คนของเมืองฉือส่วนมากได้เดินทางไปที่นั่นแล้ว”
ผู้นำของตระกูลที่มีธุรกิจของครอบครัวที่มีอิทธิพลพอสมควรเอ่ยถามเสียงเบา
คนอื่น ๆ เองก็เช่นกัน
บอกว่าจะต้องเดินทางไปที่ตำหนักมังกรหยกบนเขาติ้งจุนไม่ใช่หรอกเหรอ ทำไมตอนนี้ทุกคนยังพักผ่อนอยู่ที่นี่อีกล่ะ
ที่สำคัญก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขายังไม่เข้าใจเลยด้วยซ้ำว่า ทำไมตระกูลหลินต้องใช้กฎบัญชาสามตรา
“ไม่ต้องรีบ”
หลินเจิ้นหลงกล่าวอย่างเรียบง่าย
อาการบาดเจ็บที่หน้าอกของเขามาถึงตอนนี้ยังไม่หายดี แถมยังได้สูญเสียแขนไปหนึ่งข้าง ทำให้คนภายนอกครอบครัวที่อยู่ตรงนั้นเห็นแล้วรู้สึกตกตะลึง
ที่สำคัญก็คือ เดิมทีตระกูลหลินมีผู้อาวุโสอยู่ห้าท่าน แต่ในวันนี้บาดเจ็บหนัก สองท่านไร้ร่องรอย
ตระกูลหลิน ได้เผชิญหน้ากับศัตรูแบบไหนกันแน่!
สำหรับเรื่องนี้ หลินเจิ้นหลงเองก็มองความคิดของทุกคนออก เลยเอ่ยขึ้นมาทันที: “เมื่อได้เห็นความเสื่อมโทรมของผมแล้ว พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวล”
“ครั้งนี้ ตระกูลหลินของพวกเราได้เผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งพอสมควร แต่อย่างมากก็แค่ระดับตระกูลวัง ยังไม่เพียงพอที่จะตัดกำลังตระกูลหลินของพวกเราได้”
“ดังนั้นถ้าหากมีใครกล้าตุกติกล่ะก็ รอน้องสามของฉันกลับมา มันจะทำให้พวกคุณรู้ว่าผลที่ตามมานั้นร้ายแรงแค่ไหน”
“ซี๊ดดดด!”
เป็นเจ้าสามแห่งตระกูลหลินอีกแล้ว!
ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างหัวใจสั่นสะท้าน
พวกเขาต่างก็รู้ว่า เจ้าสามแห่งตระกูลหลินได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการของกองทหารโหวยี่ในหน่วยทหารตะวันออกเฉียงใต้ พลังอำนาจล้นเหลือ สามารถล้มล้างเมืองฉือได้ทั้งเมือง
และก็เพราะอาศัยท่านนั้น ตระกูลหลินจากที่เคยเป็นตระกูลชั้นต่ำ ถึงได้เติบโตมาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองฉือได้ภายในระยะเวลาเพียงยี่สิบปี!
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้
หรือว่า ศัตรูที่ตระกูลหลินเผชิญหน้าในครั้งนี้ จะเป็นบุคคลใหญ่โตจากเมืองเอก?
ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ ภายในเมืองฉือ ใครจะสามารถให้ตระกูลหลินใช้กฎบัญชาสามตราได้ แถมยังได้เชิญท่านชายสามแห่งตระกูลหลินท่านนั้นกลับมาอีกด้วย!
“ไม่ใช่คนจากเมืองเอก เป็นคนจากหน่วยทหารคนหนึ่ง”
ในตอนนี้เอง ท่านผู้อาวุโสใหญ่แห่งตระกูลหลินก็ได้เอ่ยขึ้น
บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเย็นยะเยือก
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทำให้ทุกคนชะงักงันไปทันที
คนของหน่วยทหาร?
มิน่าท่านชายสามแห่งตระกูลหลินถึงได้ถูกเชิญกลับมา
“แต่ว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะเป็นคนของหน่วยทหาร แต่ขอเพียงท่านชายสามกลับมา ไม่ว่าจะเป็นมังกรหรือเป็นเสือ ล้วนต้องกลายเป็นลูกแพะที่กำลังจะถูกเชือดทันที”
“ถูกต้อง ท่านชายสามเป็นถึงบุคคลใหญ่โตในหน่วยทหารตะวันออกเฉียงใต้ ในมือมีทหารโหวยี่ที่แข็งแกร่งอยู่นับหมื่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องยอมจำนนให้กับตระกูลหลินอย่างว่าง่าย”
“ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าสมองของอีกฝ่ายเป็นยังไง ถึงได้กล้าล่วงเกินตระกูลหลิน มันเป็นการรนหาที่ตายเองชัด ๆ”
“จุดประสงค์ของตระกูลหลินในครั้งนี้ มันไม่ง่ายอย่างแค่กดหัวศัตรูคนนี้แน่ เกรงว่าพวกเขาต้องการใช้โอกาสในครั้งนี้กำจัดพวกตระกูลวังที่ไม่เชื่อฟังคำสั่งพวกนั้นให้สิ้นซากไปด้วย หรือแม้กระทั่งถือโอกาสนี้เดินทัพเข้าสู่เมืองเอก”
“เมื่อเป็นแบบนี้ล่ะก็ เมืองฉือก็จะกลายเป็นลานหลังบ้านของตระกูลหลิน และทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราได้รับ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นทรัพยากรที่ตระกูลหลินให้เพื่อพิชิตเมืองเอก”
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เหล่าอิทธิพลน้อยใหญ่ต่างรู้ไม่พอใจนัก
แต่ต่อให้ไม่พอใจยังไง ก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาสักคำ
ไม่อย่างนั้นล่ะก็ พวกเขาจะกลายเป็นเหมือนกับตระกูลวังที่คัดค้านตระกูลหลินพวกนั้น ถูกลบล้างรายชื่อออกไปจากเมืองฉือโดยสิ้นเชิง
หลินเจิ้นหลงนั่งอยู่บนตำแหน่งสูง เป็นธรรมดาที่จะสามารถมองเห็นสีหน้าของเหล่าอิทธิพลน้อยใหญ่ได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ