สรุปตอน บทที่ 28 เขาคือราชาเทพทหาร – จากเรื่อง ศึกเดือด มหากาฬ โดย Light-Knight
ตอน บทที่ 28 เขาคือราชาเทพทหาร ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง ศึกเดือด มหากาฬ โดยนักเขียน Light-Knight เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ฉินปิงหลันจากไปแล้ว
เธอยังคงจากไป และไม่คิดจะอยู่ร่วมกับเฉินอี
“ยังนับว่าโชคดีที่นายหญิงพูดว่าจะให้โอกาสเจ้ามังกรอีกครั้ง ขอแค่รักษาโอกาสครั้งนี้เอาไว้ให้ดี ทำให้นายหญิงยอมรับเจ้ามังกรให้ได้ ทุกอย่างจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”
“ความจริงใจจะเยียวยาทุกอย่างได้” เต่าดำเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง
พวกของหงส์แดงทั้งสามเหลือบไปมอง เฉินอีเองก็เช่นกัน แต่เพียงไม่นานก็เบนสายตากลับ
“มังกรหนึ่ง มังกรเก้า พวกนายรีบไปคุ้มกันปิงหลันแม่ลูก หากเกิดอะไรขึ้นฉันไม่ปล่อยพวกนายเอาไว้แน่ !”
“รับทราบครับเจ้ามังกร !”
มังกรหนึ่งและมังกรเก้าเดินตามกันออกไป
เฉินอีเองก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง
คืนนี้ช่างผ่านไปอย่างทุลักทุเลเสียจริง ๆ จนกระทั่งตอนนี้เขายังไม่อาจทำใจให้สงบได้
“เต่าดำ นายว่าฉันจะเป็นพ่อและสามีที่ดีได้ไหม ?”
เฉินอีถามออกมาอย่าจริงจัง
เขารู้สึกกังวลใจอย่างแท้จริง
ชายผู้ซึ่งเป็นเทพสังหารที่เคยผ่านสมรภูมิรบในต่างประเทศมามากมาย อีกทั้งยังถูกขนานนามว่าเป็นราชาเทพสังหาร บัดนี้เข้ากลับรู้สึกกระวนกระวายใจ
หลายปีก่อน เขาเพียงแค่ต้องการชดเชยความผิดให้กับฉินปิงหลันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ตอนนี้เขามีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกสองคน ทำให้ชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ รู้สึกหนักใจขึ้นมาไม่น้อย
เต่าดำพูดออกมาอย่างแน่วแน่ว่า : “หากเป็นคนอื่น ผมอาจยังไม่แน่ใจนัก แต่คุณคือเจ้ามังกร ตอนนั้นคุณทำผิดจริง แต่หากจะพูดกันตามตรงก็ถือเป็นเรื่องที่อภัยให้ได้ อีกทั้งคุณเองก็ยอมออกนอกประเทศเพื่อปกป้องนายหญิง ไม่ให้ถูกบีบบังคับจากตระกูลเฉิน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีเหตุมีผล”
“จริงอยู่ว่าคุณมีความผิด แต่ผู้ที่มีความผิดที่แท้จริงก็คือตระกูลเฉิน หากไม่ใช่เพราะพวกเขา คุณก็คงจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับนายหญิงและนายน้อยทั้งสองอย่างมีความสุขไปนานแล้ว”
“ตระกูลเฉิน !”
เฉินอีกำหมัดแน่น
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคิดอะไร แต่ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไป เขาจะต้องกลับไปที่ตระกูลเฉินให้ได้สักครั้ง ถึงเวลานั้นเขาจะทำให้คนบางคนได้รู้ว่า เด็กหนุ่มที่หลบหนีไปด้วยความสิ้นหวังในตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้ก็มีอำนาจยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในใต้หล้า !”
ถึงตอนนั้น เมื่อมีความแค้นเรื่องใดก็จะต้องสะสาง เขาจะต้องทวงคืนความยุติธรรมกลับมาให้ได้
ส่วนตอนนี้ เขาจะต้องคว้าหัวใจของฉินปิงหลันกลับมาให้ได้เสียก่อน จากนั้นค่อยกลับมาอยู่รวมกันเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อีกครั้ง
“เจ้ามังกร ผู้ว่าการเฉ่าแห่งเมืองชิงชวน และโฮ่ต้าวฝู่แห่งหน่วยทหารภาคตะวันออกเฉียงใต้ขอเข้าพบค่ะ”
หงส์แดงเดินเข้ามา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อย เพื่อส่งสัญญาณว่าอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา
ตอนนี้เฉ่าเฉียงยังรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดสองวันมานี้ ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย แม้กระทั่งคนอย่างโฮ่ต้าวฝู่ยังต้องมาปรากฏตัว นี่แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่โตเกินจะอธิบายได้
หากตัวตนที่แท้จริงของเฉินอีอยู่ห่างไกลจากเขามากเกินไปล่ะ จนถึงขั้นที่เขาคงไม่อาจสังเกตเห็นอะไรได้ล่ะ
แล้วบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างโฮ่ต้าวฝูล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์กับตระกูลโฮ่ เพียงแค่ตำแหน่งผู้พันหน่วยทหารภาคตะวันออกเฉียงใต้เพียงอย่างเดียว เขาก็ไม่อาจเทียบได้ติดแล้ว
มีทหารอยู่ในมือมากมาย เป็นผู้ทรงอำนาจอย่างแท้จริง !
“ผู้ ผู้พันโฮ่”
เฉ่าเฉียงข่มความสงสัยเอาไว้เป็นเวลานาน จนในที่สุดก็เอ่ยถามออกมา “ขอถามอะไรหน่อยสิครับ สำนักมังกรลับนี้มีความสำคัญแค่ไหนในต่างประเทศกันแน่ ? ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ?”
เขาเองก็รู้ดีว่ามีลูกหลานชาวจีนมากมายที่ออกไปตั้งรกรากและสร้างฐานอำนาจอยู่ในต่างประเทศ แต่สำนักมังกรลับนี้ เขาเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก
โฮ่ต้าวฝู่หันมองเฉ่าเฉียง แล้วพูดว่า : “ดูเหมือนว่าผู้ว่าการเฉ่าจะเติบโตมาในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากได้รับตำแหน่งก็มีบทบาทหน้าที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ จึงไม่ค่อยมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในต่างประเทศมากนัก”
“อันที่จริงแล้วสำนักมังกรลับมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน แต่ดำเนินกิจการต่าง ๆ อยู่ต่างประเทศมาโดยตลอด จนกระทั่งค่อย ๆ หายไปในช่วงหลายปีมานี้”
หลังจากนั้นเฉ่าเฉียงก็รู้สึกหูอื้อไป
เขารู้สึกตกตะลึงเพราะคำพูดประโยคนี้
คนคนเดียวแต่กลับสามารถทำให้ทั้งห้าประเทศหวาดกลัวได้ บีบบังคับให้กองกำลังผสมจากต่างประเทศไม่กล้าบุกรุกเข้ามา ความสามารถเช่นนั้นอยู่เหนือจินตนาการของคนทั่วไปจะคาดคิดได้
และด้วยเหตุนี้ เขาจึงเข้าใจคำพูดของโฮ่ต้าวฝู่ที่ว่า ไม่มีเทพทหารคนไหนเทียบได้
คำพูดที่ว่า ผู้ชายคนนั้นคือราชาเทพทหาร
“เชิญทั้งสองท่านตามดิฉันเข้ามาค่ะ”
การปรากฏตัวขึ้นของหงส์แดงทำให้เฉ่าเฉียงเรียกสติกลับคืนมาได้ แต่เขายังคงอยู่ในท่าทีประหม่า เมื่อมายืนอยู่ต่อหน้าเฉินอี ถึงแม้จะเหลือบมองเพียงแวบเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาทรุดลงไปนั่งกับพื้นได้
“ไม่ต้องมากพิธีขนาดนี้หรอก ลุกขึ้นเถอะ”
เฉินอีไม่ใช่คนถือตัว
ส่วนท่าทางของเฉ่าเฉียง เขาก็พอจะเข้าใจได้
“ผู้พันโฮ่ คุณนำเรื่องของผมออกไปคุยโวอีกแล้วสินะ”
เฉินอีพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
โฮ้ต้าวฝู่ยิ้มเจื่อนแล้วพูดว่า : “อำนาจของเจ้ามังกร ผม โฮ่ต้าวฝู่ ชาตินี้คงไม่มีวันลืม หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นคุณถูกใจเด็กหนุ่มจากตระกูลกวนคนนั้น เกรงว่าผมคงจะอยู่ในสำนักมังกรลับได้ และไม่ต้องมาคอยรับรู้ความชั่วร้ายของตระกูลหลิน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ โฮ่ต้าวฝู่ก็กัดฟันกรอด
เขารู้สึกเบื่อหน่ายคนของตระกูลหลินจริง ๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะความใจกว้างของเฉินอี เขาคงฆ่าล้างคนในตระกูลหลินจนสิ้นซากไปนานแล้ว
เฉินอีซึ่งเข้าใจความคิดของเขาส่ายหัวออกมาเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น อย่างไรเสียหลินเจิ้นเป้าก็ยังถือว่าเป็นคนที่ไม่เลวนัก ให้โอกาสเขาสักครั้ง ไม่แน่ว่าอนาคตของตระกูลหลินอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นก็เป็นได้”
“เจ้ามังกรช่างมีเมตตาจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ