ศึกเดือด มหากาฬ นิยาย บท 30

สรุปบท บทที่ 30 ฉันจะเกษียณ: ศึกเดือด มหากาฬ

บทที่ 30 ฉันจะเกษียณ – ตอนที่ต้องอ่านของ ศึกเดือด มหากาฬ

ตอนนี้ของ ศึกเดือด มหากาฬ โดย Light-Knight ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 30 ฉันจะเกษียณ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“เหอะ ๆ ถึงแม้ฉันจะไม่อยู่ที่ต่างประเทศ แต่ก็ยังมีพวกนายไม่ใช่หรือ”

เฉินอียิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย

ขอแค่เขานั่งลงในตำแหน่งราชาทั้งสี่ จากนั้นจึงคัดเลือกใครออกมาสักคน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดทั้งนั้น

แค่เพียงก้าวออกจากตำแหน่ง แล้วอาศัยอำนาจของสำนักมังกรลับในตอนนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ระยะเวลาสิบปีต่อจากนี้ ในต่างประเทศคงจะไม่เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ขึ้นมากนัก

เพราะอย่างไรเสียคนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่อยู่ในรายชื่อของเทพเจ้าแห่งชาติตะวันตกทั้งสิ้น อีกทั้งแต่ละคนก็มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในระดับสากลทั้งสิ้น

มังกรเขียวและเสือขาวคงไม่ต้องพูดอะไรมาก ในมือของพวกเขามีทั้งองครักษ์มังกรและองครักษ์เสือนับหมื่นนาย ซึ่งสามารถต่อกรกับศัตรูนับล้านได้

ส่วนหงส์แดงเองก็ไม่ต้องพูดถึง ถึงแม้จะไม่เคยเข้าร่วมในการจัดการองครักษ์มังกรและองครักษ์เสือ แต่ก็เปรียบเสมือนกับราชินีผึ้งที่คอยควบคุมหน่วยข่าวกรองชั้นนำของโลก ในโลกของการสื่อสารยุคปัจจุบัน ถือว่าหงส์แดงนั้นน่ากลัวกว่าเสือขาวมาก

ส่วนเต่าดำ ก็ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธระดับชั้นแนวหน้าของโลก และในขณะเดียวกันก็เป็นนักฆ่าระดับพระกาฬอีกด้วย อาศัยเพียงความสามารถของเขาก็สามารถเทียบเท่าได้กับทหารชั้นยอดหลายร้อยคน

ประกอบกับนักฆ่าระดับแนวหน้าที่เขาเป็นผู้ฝึกฝนออกมาอีกนับไม่ถ้วน ทำให้ตลอดหลายปีมานี้ประสบความสำเร็จในการลอบสังหารเป้าหมายมาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าอาวุธรายใหญ่ นักธุรกิจรายใหญ่ รวมไปถึงพ่อค้ายาเสพติด ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกตกตะลึง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขามีฐานทัพขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจักรวรรดิแอตแลนติก ส่วนเรื่องระดับความน่ากลัวนั้น อย่างน้อยฐานทัพนี้ก็ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวได้มากกว่าสำนักมังกรลับ

พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลก มีทั้งพลัง อำนาจ และความมั่งคั่งอยู่ในมือ หากมีพวกเขาอยู่ เฉินอีก็เชื่อว่าสำนักมังกรลับจะไม่เกิดปัญหาใด ๆ ขึ้นอย่างแน่นอน

พวกของหงส์แดงเข้าใจเรื่องนี้ดี เพียงแต่คำพูดเหล่านี้ของเฉินอี แฝงไปด้วยความหมายว่าต้องการที่จะเกษียณตนเอง

ตอนนี้พวกเขาได้แต่หวังในใจว่าเฉินอีไม่ได้มีความคิดเช่นนี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงจะต้องสติแตกอย่างแน่นอน

เพียงแต่ในวินาทีถัดมา เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “พวกนายเดาไม่ผิดหรอก จุดประสงค์ของฉันก็คือต้องการเกษียณตัวเอง”

เขาวางแผนเช่นนี้เอาไว้นานแล้ว ต่อให้ไม่มีสายโทรศัพท์จากโต๋วโต๋วสายนั้น เขาก็วางแผนที่จะเกษียณตัวเองแล้วใช้ชีวิตอยู่ภายในประเทศ และไม่ออกไปสู้รบที่ต่างประเทศอีกแล้ว”

“เจ้ามังกร คุณลองคิดทบทวนดูอีกสักครั้งเถอะค่ะ อย่างไรเสียเมื่อครึ่งปีก่อน ตอนที่คุณอยู่ในการสู้รบครั้งนั้น......”

หงส์แดงคิดที่จะเอ่ยเตือน แต่กลับถูกเฉินอีขัดเอาไว้

ตอนนี้เอง หงส์แดงเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตนเองนั้นพลังปากไป จึงรีบปิดปากของตัวเองทันที

ถึงแม้เต่าดำและเสือขาวจะรู้สึกสงสัย แต่เมื่อเฉินอีไม่ยินดีบอก แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่กล้าถาม

จากนั้นเฉินอีก็ค่อย ๆ พูดออกมาอย่างต่อเนื่องช้า ๆ

“ไม่จำเป็นต้องเตือนฉันหรอกนะ หากจะว่ากันตามตรงแล้ว หลายปีมานี้ที่ฉันยืนหยัดอยู่ในต่างประเทศ ประการแรกก็เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณของอาจารย์ที่ช่วยชีวิตเอาไว้ ส่วนประการที่สองก็เพื่อฝึกฝนตนเอง”

“ตอนนี้สถานการณ์ในต่างประเทศสงบลงแล้ว การดำรงอยู่ของฉันต่างหากที่ถือเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด ไม่สู้ถอยออกมาอยู่ด้านนอก ให้คนที่อยู่ในต่างประเทศเหล่านั้นรู้สึกวางใจว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ถือเป็นการครองชัยชนะร่วมกัน”

“แต่เจ้ามังกร คุณทำคุณงามความดีให้กับสำนักมังกรลับและต้าถังมากมายขนาดนี้ ตำแหน่งเจ้ามังกรก็ควรจะถือเป็นเกียรติแก่คุณ ถ้าหากเกษียณ เกรงว่าพี่น้องทั้งหลายจะไม่เต็มใจยินยอม”

หงส์แดงรีบพูด เสือขาวเองก็รีบพูดเสริมขึ้นเช่นกัน : “สิ่งที่น้องหงส์แดงพูดมานั้นมีเหตุผล มีเพียงแค่เจ้ามังกรดำรงตำแหน่งอยู่เท่านั้น ที่พอจะข่มขวัญนักสู้ต่างประเทศเหล่านั้นได้ และทำให้พี่น้องในสำนักยอมสิโรราบ”

“ถึงแม้พวกเราจะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับชื่อเสียงและเกียรติยศของเจ้ามังกรแล้ว ไม่มีทางเทียบได้แน่นอน”

“อีกอย่าง ถึงแม้สถานการณ์ในต่างประเทศจะสงบลงแล้ว แต่ทางด้านจักรวรรดิแอตแลนติกก็ยังคงมีภัยคุกคามขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ หากคนเหล่านั้นคิดที่จะโจมตีชาติตะวันออกขึ้นมา เกรงว่าพวกเราจะรับมือไม่ไหว !”

เสือขาวพูดความในใจออกมา

ถึงแม้เขาจะพูดจาท้าทายเฉินอีอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าหากเปลี่ยนให้คนอื่นมากล่าวคำพูดเช่นนี้ เกรงว่าคงพร้อมที่จะระเบิดหัวของอีกฝ่ายได้ในทันที

สำหรับเฉินอีแล้ว เสือขาวรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเขาและปราศจากซึ่งข้อครหาใด ๆ

“เสือขาว นายหุนหันพลันแล่นเกินไปหน่อยนะ ตอนนี้นายมีองครักษ์เสือซึ่งเป็นหนึ่งในสองกองกำลังหลักของสำนักมังกรลับอยู่ในมือ จะหุนหันพลันแล่นอย่างเช่นแต่ก่อนไม่ได้อีกแล้วนะ

“อีกอย่าง สิ่งที่ฉันพูดเมื่อครู่ไม่ได้กำลังปรึกษากับพวกนาย แต่กำลังออกคำสั่ง”

“หงส์แดง พอเถอะ”

เต่าดำปรามหงส์แดง จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองเฉินอี แล้วพูดออกมาเบา ๆ ว่า : “เรื่องลาออกจากตำแหน่งเจ้ามังกร รอให้สถานการณ์สู้รบในต่างประเทศสงบลงอย่างแท้จริงแล้วค่อยว่ากัน”

“แต่ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้ามังกรจะจดจำเรื่องเรื่องหนึ่งเอาไว้ ในประเทศนี้ ถึงแม้เรื่องของประเทศจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ครอบครัวก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน”

“คุณจะต้องมัดใจนายหญิงกลับมาให้ได้ และร่วมแบ่งปันความสุขของครอบครัวกับนายน้อยทั้งสอง”

“ส่วนเรื่องในต่างประเทศ มีพวกเราทั้งสามคนคอยช่วยคุณจับตาดูอยู่ ขอเพียงพวกเรายังมีชีวิตอยู่ ไม่มีทางที่จะปล่อยให้ใครเข้ามาก่อกวนคุณในประเทศนี้ได้เด็ดขาด ส่วนมังกรเขียวก็ควรจะอยู่ที่นี่ ผมคิดว่าหากคุณต้องการขยายอำนาจภายในประเทศนี้ ก็ควรที่จะมีผู้ช่วยอยู่ข้างกายสักคน”

“อืม นี่เป็นคำแนะนำที่ไม่เลว มังกรเขียวนอกจากจะมีฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่งแล้ว เขายังมีความเก่งกาจในเรื่องการบริหารจัดการไม่ด้อยไปกว่าหงส์แดง หากมีเขาคอยช่วยเหลือ ฉันเองก็คงเบามือไปมาก”

เฉินอีแสดงท่าทีเห็นด้วย

จากนั้นเต่าดำ หงส์แดงและเสือขาวก็ทำความคำรบแล้วจากไป

หลังจากเดินออกจากประตูไป เสือขาวก็ใช้หมัดต่อยเข้าที่กำแพง

“เจ้ามังกรหมายความว่าอย่างไร ไม่ต้องการพวกเราแล้วหรืออย่างไร ?” เขาพูดออกมาด้วยความโมโห

สีหน้าของหงส์แดงเองก็ไม่น่าดูเช่นกัน

มีเพียงเต่าดำคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในท่าทีสงบจนน่าแปลกใจ

“ฉันพอจะเดาความคิดที่แท้จริงของเจ้ามังกรออกแล้ว”

“นอกจากจะสละตำแหน่งเพื่อนายหญิงและนายน้อยทั้งสองแล้ว ดูเหมือนเจ้ามังกรยังคิดที่จะแก้แค้นตระกูลเฉินอีกด้วย”

“เต่าดำ นายหมายความว่าเจ้ามังกรต้องการที่จะแก้แค้นตระกูลเฉินหรือ แต่หากเป็นเช่นนั้นเจ้ามังกรก็ยิ่งต้องการพวกเรานะ !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ