"แม่คะ แม่พูดเกินไปแล้ว!”
ฉินปิงหลันพูดขึ้น ด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
แต่หลินหลันกลับไม่แคร์แม้แต่น้อย พุ่งเป้าไปที่ฉินปิงหลัน "ฉินปิงหลัน ฉันให้เวลาแกหนึ่งชั่วโมงรีบไปคฤหาสน์หมายเลขแปดเดี๋ยวนี้ ถ้าแกปรนนิบัติรับใช้คุณชายหลี่เจ๋อได้ดี ไม่แน่ว่าตระกูลฉินกับตระกูลหลี่จะสามารถร่วมงานกันได้"
"สิ่งสำคัญคือ ขอแค่แกแต่งเข้าตระกูลหลี่ได้อยากจะได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง ทำไมต้องใช้ชีวิตลำบากกับไอ้ขยะตลอดชีวิตด้วย"
"แกไม่อยากเห็นพ่อกับแม่มีบั้นปลายชีวิตที่สงบสุข เห็นน้องชายได้แต่งงานมีลูกหรือไง?"
พ่อแม่
น้องชาย
ยังคงคิดถึงแต่ตัวพวกเขา ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของตน
ฉินปิงหลันหลับตา พูดเสียงเคร่งขรึม:"หนูไม่มีวันไปค่ะ"
เธอให้คำตอบที่หนักแน่น
อย่าพูดว่ามีลูกถึงแม้จะไม่มีลูกเธอก็ไม่มีวันไป
ในฐานะผู้หญิงที่ทระนงตน หลังจากเกิดเรื่องในตอนนั้นขึ้น เธอถูกตระกูลฉินทอดทิ้ง แน่นอนว่ามีคนรวยอยากจะเลี้ยงดูเธอให้เธอเป็นเมียเก็บ แต่ฉินปิงหลันปฏิเสธทั้งหมด
เธอรู้ดี ในฐานะแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกสาว
ถ้าแม้แต่ตัวเธอยังเดินเส้นทางที่ผิดเพี้ยน แล้วจะสอนลูกสาวได้อย่างไร แล้วจะเลี้ยงดูให้ลูกสาวเติบโตเป็นคนได้อย่างไร?!
"แค่นี้นะคะ"
ฉินปิงหลันวางสายด้วยความเด็ดขาด สำหรับสองสามประโยคสุดท้ายที่หลินหลันด่านั้นคืออะไรเธอเองก็ไม่ได้ฟัง และไม่อยากจะฟัง
เฉินอีมองเธอด้วยแววตาลุ่มลึก แล้วพูด:"คุณอยากกลับบ้าน กลับตระกูลฉินไหม?"
"ฉันไม่อยากกลับไป"
ฉินปิงหลันตอบ
ทว่าแววตาของเธอหม่นหมองลงอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่เล็กจนโตเธอเป็นเด็กประเภทลูกบ้านอื่น เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถและความพยายาม เป้าหมายก็คืออยากจะได้รับการยอมรับจากพ่อแม่และคุณย่า
แต่ตอนนี้ เธอพบว่าไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหน ในฐานะผู้หญิงเธอมีแค่ทางเดินเดียว ซึ่งก็คือยอมเสียสละให้กับตระกูลฉิน เพื่อให้ครอบครัวได้รับผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น
แต่แม้จะเป็นแบบนี้ เธอยังคงอยากจะเอาชนะคนในครอบครัว ได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัว!
เฉินอีอ่านความคิดของหญิงสาวออก อยากจะคล้องผมของเธอแต่กลับถอนมือกลับราวกับถูกไฟฟ้าช็อต
"ถ้าคุณอยากจะกลับไป ผมจะช่วยคุณ"
คำพูดของเฉินอีน่าตะลึงงันอย่างมาก
ฉินปิงหลันแปลกใจเล็กน้อย จู่ๆก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เอ่ยถาม:"บ้านหลังนี้คุณซื้อเองเหรอคะ?"
"อืม"
"โกหก"
"......"
เฉินอีชะงัก
เขาพบว่าเวลาตนเองโกหกทุกคนต่างเชื่อ เวลาพูดความจริงกลับไม่มีใครเชื่อ
"ฉันไม่รู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้คุณทำอะไร และไม่รู้ว่าทำไมคนอื่นถึงเรียกคุณว่าเจ้ามังกร แต่ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นหน่วนทหารใช่ไหมคะ"
"ฉันเองก็ดูข่าวแล้ว เพราะตระกูลหลินมีปัญหากับหน่วยทหาร คุณใช้เส้นสายทำให้หน่วยทหารข่มตระกูลหลินใช่รึเปล่าคะ?"
ดวงตาคู่นั้นของฉินปิงหลันทำให้คนอ่อนไหวมาก โดยเฉพาะตอนที่จ้องเขม็ง
เฉินอีตกตะลึง จนกระทั่งถูกหยิกอย่างแรงกว่าจะดึงสติกลับมาได้
"ใช่ ใช่ครับ เป็นเพื่อนเก่าคนหนึ่งของพ่อผมในอดีต"
เขาเพิ่งพูดถึงเรื่องตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูร ฉินปิงหลันเคยเรียนที่เมืองอสูรแน่นอนว่าพอจะรู้บ้าง
"อืม"
"แต่ว่าถึงอย่างไรก็ตามนั่นเป็นน้ำใจที่พ่อของคุณสั่งสมเอาไว้ อีกทั้งเคลื่อนย้ายอำนาจของหน่วยทหาร กลัวว่าจะชดใช้ยาก"
ฉินปิงหลันพูดด้วยความจริงจัง
หน่วยทหารเป็นถึงอาวุธประจำประเทศ เกรงว่าคนๆนั้นนำมาใช้ไม่ใช่ง่ายๆ แค่ว่ากลัวจะถูกวิจารณ์ สำหรับเฉินอีแล้วไม่ใช่เรื่องที่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ