"ทุกคนมีความลับของตัวเอง"
"เฉินอี ตอนนี้ฉันยอมรับคุณบ้างแล้ว ดังนั้นคุณมีอะไรอยากบอกฉัน ฉันก็ยินดีรับฟังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าไม่อยากบอกฉันก็จะไม่บังคับคุณ"
"แต่คุณจะไม่ทำร้ายโต๋วโต๋วและโนว่โน่วเพราะว่าความลับพวกนั้นใช่ไหม?"
ฉินปิงหลันพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เฉินอีค่อนข้างตกตะลึง จึงยิ้มอย่างขมขื่นขึ้นมาทันที
"ผมมีความลับของตัวเองจริงๆ อีกอย่างยังมากกว่าที่คุณคิดไว้ แต่ผมสาบานว่าจะไม่ปล่อยให้เหตุผลพวกนั้นมาทำร้ายคุณ ภรรยาของผม ยังมีโต๋วโต๋วและโนว่โน่ว ลูกสาวของผม"
"และสิ่งที่คุณเป็นห่วงนั้นไม่มีอยู่จริง ต่อให้ฟ้าล่มสลาย ผมก็จะแบกรับไว้แทนพวกคุณแม่ลูกเอง"
"คุณไม่มีทางเป็นอะไร ยิ่งไม่มีคำว่าถ้าเกิดอยู่แล้ว"
เฉินอีพูดด้วยความจริงจัง
ฉินปิงหลันตกตะลึงเล็กน้อยไปสักพัก
"คุณยังไม่รู้ความยิ่งใหญ่ของตระกูลหลี่ ถ้าพวกเขาดื้อดึงที่จะเอาฉันให้ได้ ตระกูลฉินก็ต้องส่งฉันออกไปแน่นอน"
"อีกอย่างครั้งนี้พวกเขามีปัญหากับกลุ่มทะเลแดง ผู้มีอำนาจสูงสุดสองกลุ่มในเมืองฉือ ไม่ใช่เป็นกลุ่มที่พวกเราสามารถขัดขวางไว้อยู่"
ฉินปิงหลันไม่ใช่เฉินอี เธอเป็นคนเมืองฉือ ดังนั้นอำนาจต่างๆ ในเมืองฉือ เธอย่อมรู้ลึกอยู่แล้ว ยิ่งเข้าใจดีว่าตระกูลหลี่และกลุ่มทะเลแดงนั้นน่ากลัวเพียงใด
โดยเฉพาะหลังจากที่ผู้มีอำนาจสูงสุดทั้งสองฝ่ายมารวมตัวกัน เพียงพอที่จะใช้มือข้างเดียวบังท้องฟ้า
"......."
เฉินอีรู้สึกปวดใจมากยิ่งขึ้น จึงดึงฉินปิงหลันเข้ามาในอ้อมกอด
"คุณ!"
ฉินปิงหลันอยากจะดิ้นให้หลุดออกจากเขา ทว่าคำพูดต่อไปของเฉินอีทำให้ทั้งเรือนร่างของเธออ่อนแรงลง
"ปิงหลัน ถึงแม้ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นคุณเจอกับความทุกข์ทรมานและไม่ได้รับความเป็นธรรมมากแค่ไหน แต่ผมรู้ว่าคุณคือผู้หยิงที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ ผมเฉินอีขอสาบานว่าจะปกป้องทุกอย่างของคุณจนถึงวันตาย"
"ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก หรือว่าพระเจ้าองค์ใดจะต่อว่าผม ผมก็จะไม่จากไปไหน นี่เป็นคำสาบานของผม"
ฉินปิงหลันตัวสั่นเล็กน้อย และไม่ได้ดิ้นอีก ปล่อยให้เฉินอีกอดเธอไว้
เช้าวันถัดไป เฉินอีตื่นขึ้นมาจากความฝัน
หลายปีมานี้การนอนหลับครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สนิทที่สุดแล้ว
ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะมีกำลังอันยิ่งใหญ่ แต่ยังคงกังวลฉินปิงหลันวจนทำให้เขานอนไม่ค่อยดี วันนี้ผู้หญิงที่เขาเฝ้าคะนึงถึงแม้กระทั่งตอนกลางคืนอยู่เคียงข้าง เฉินอีก็ถือว่าสบายใจแล้ว
เขาลูบผมสลวยของฝ่ายตรงข้ามเบาๆ จนกว่าเสียงๆหนึ่งส่งเข้าหู ถึงจะลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปชั้นล่าง
"เจ้ามังกร ตามคำสั่งของท่าน วังจ่างหลินและเซียวเทียนหู่ ส่งมาคนละสิบห้าคน ทั้งหมดสามสิบคนมาฝึกฝนแล้ว"
"อืม"
เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อย แล้วมองคนทั้งสามสิบคนนี้
สายตาของเขาโหดเหี้ยมมาก เพียงมองปราดเดียวก็สามารถมองเส้นสนกลในของคนพวกนี้ออก
อย่างน้อยก็คือพวกที่ฝึกวิชาการต่อสู้ที่เก่งกาจ ยิ่งเป็นพวกผู้ชายที่ร่างกายมีทั้งเลือดและชี่
"ลูกน้องของเซียวเทียนหู่โดยส่วนมากก็คือพวกที่เคยฝึกวิชาการต่อสู้มา ลูกน้องของวังช่างหลินเลือกตั้งแต่ทหารผ่านศึกและทหารรับจ้างที่เกษียณแล้ว"
"ทีมแบบนี้ ถ้าในเมืองฉือก็ถือว่าสุดยอดแล้ว น่าเสียดายที่เปราะบางต่อหน้าตระกูลหลี่ในตอนนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าเฉินฝู"
"ยิ่งไปกว่านั้นเฉินฝูยังเป็นแค่สุนัขรับใช้ตัวหนึ่งของตระกูลเฉิน ถ้าอนาคตอยากจะรับมือของตระกูลเฉิน คงเป็นขบวนการที่รนหาที่ตายอย่างไร้ข้อสงสัย"
ถึงแม้เฉินอีจะค่อนข้างดูหมิ่นเฉินฝู แม้กระทั่งตระกูลเฉิน
ทว่าในสถานที่เล็กๆอย่างเมืองฉือ ครอบครัวเฉินมีข้อได้เปรียบอย่างยิ่งในการบดขยี้คนอื่น เมื่อเกิดปัญหาใดๆ เฉินอีคงออกหน้าด้วยตัวเองไม่ได้อยู่แล้ว จะไม่มีทางใช้กำลังคนของสำนักมังกรลับ
"จัดรถส่งพวกเขาไปในโรงงาน"
"ครับ"
เฉินอีขึ้นรถและมุ่งหน้าไปยังโรงงานร้างที่มังกรเขียวซื้อมาเมื่อวานนี้
ไม่นานพวกเขาก็นั่งลงบนที่ของแต่ละคน
ทว่าเฉินอีเดินเข้ามาปุ๊บ ก็มองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา
"ลุกขึ้นให้หมด!"
"......"
ทุกคนตะลึงงัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ