ศึกเดือด มหากาฬ นิยาย บท 71

เหยียนเลว่จบเห่แล้ว

ในเวลาเพียงไม่กี่วันเขาก็กลายเป็นคนโปรดของบริษัท เรื่องการคว้าตำแหน่งผู้อำนวยการในอนาคตก็คงจะเป็นเรื่องที่ได้กำหนดเอาไว้แล้ว

ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำของหานเฉียงจะสามารถตัดสินชีวิตการทำงานที่สั่งสมมาเป็นเวลานานกว่าสิบปีของเขาได้

“เถ้าแก่ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะ ขอร้องล่ะ!”

เหยียนเลว่นั้นรู้ดีว่าเขาได้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องขุ่นเคืองใจ โดยเฉพาะสองสามวันที่ผ่านมามีคนจำนวนมากจากภายในและภายนอกบริษัทที่ถูกเขาต่อว่าให้อับอาย

เมื่อเขาต้องสูญเสียตำแหน่งปัจจุบันของเขานั่นจึงทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของคนเหล่านั้น

“ไสหัวไปซะ!”

หานเฉียงทำเสียงเยาะเย้ยออกมาพร้อมกับต่อว่าให้อีกฝ่ายไสหัวออกไป

เหยียนเลว่ที่ต้องการจะพูดอะไรออกมาก็ไม่มีโอกาสให้ได้พูดอีก เขาถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่วังจ่างหลินนำมาลากตัวออกไป

“เถ้าแก่ ยังมีคำสั่งอะไรอื่นอีกไหมครับ?”

เรื่องของเหยียนเลว่เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งที่แทรกเข้ามาเท่านั้น

เฉินอียันคาง รูม่านตาของเขาดูเปลี่ยนไป

“เหยียนเลว่นี่ช่างกล้าหาญซะเหลือเกิน ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาของเขาจะดูก้าวร้าวมากเลยนะ”

“หมายความว่ายังไงกันครับ?”

วังจ่างหลินแสดงสีหน้าที่ต่างออกไป ดูไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย

เฉินอีพูดต่อ “แต่ก่อนเหยียนเลว่นั้นรู้ดีว่าฉันรู้จุดอ่อนของเขาแต่เขาก็ยังกล้าที่จะมาจัดการลงมือกับภรรยาของฉันซึ่งนั่นก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว- -”

“พวกเฉินฝูกำลังทดสอบขีดจำกัดของฉันอยู่!”

สีหน้าของวังจ่างหลินเปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้น

“เถ้าแก่ ผมผิดไปแล้ว!”

ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตรวจสอบในส่วนของภายในบริษัทให้ละเอียดถี่ถ้วน ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินอีล่ะก็เกรงว่าสิ่งที่อยู่ในมือก็คงหลุดลอยไปและตนก็คงจะถูกพวกลูกน้องฆ่าตายไปแล้ว

เฉินอีโบกมือพร้อมกับพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ ฉันกับนายน่ะเป็นพวกเดียวกัน ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มที่จะมาทดสอบฉัน งั้นฉันก็ชี้แจงได้อยู่เรื่องหนึ่งนั่นก็คือพวกเขาเป็นแค่หมาที่จนตรอกเท่านั้นเอง”

“ในเร็วๆนี้นายไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการซื้อกิจการอุตสาหกรรมของหลี่ซือกรุ๊ป”

“นี่…”

วังจ่างหลินแสดงสีหน้าที่ดูต่างออกไปพร้อมกับรีบพูดว่า “เถ้าแก่ หากว่าเราลงมือไปเกรงว่าพวกตระกูลหลี่ก็คงทำการสู้กับเราอย่างสุดกำลังและไหนจะมีตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรอีก มันคงยากที่จะรับมือกับเรื่องนี้”

เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่นานก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

“ให้พวกเขาก่อกวนไปเถอะ”

“ก็แค่กลุ่มตัวตลก ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรนักหรอกและแน่นอนว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของนายจะต้องเพิ่มกำลังให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย ฉันกังวลว่าหากพวกเขาทำไม่ได้ล่ะก็พวกเราเองก็คงจะต้องเล่นลูกไม้อะไรออกไปสักหน่อย”

“ครับ”

วังจ่างหลินออกไปอย่างรวดเร็ว

เหลือเพียงแต่เกาจ่างหยางที่มองไปที่เฉินอีพร้อมกับถามด้วยรอยยิ้มว่า “ไปดื่มกันหน่อยไหม?”

“ท่านเกาเมตตาเช่นนี้ เฉินอีก็คงจะไม่ขัดข้อง มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”

เฉินอียิ้มออกมาพร้อมกับเดินออกไปกับท่านเกา

เกาจ่างหยางเดินโซเซอยู่บนถนน ดูท่าทางราวกับมีเรื่องอะไรที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากออกมา

“มันไม่เป็นอะไรหรอกนะครับถ้าท่านเกาจะพูดอะไร”

เฉินอีเผยความจริงในจุดนี้ออกมา

เกาจ่างหยางยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมกับส่ายหัวและพูดว่า “คุณเฉิน รู้หรือไม่ว่าหลานสาวของฉันนั้นพูดถึงคุณอยู่ตลอดเวลาเลยนะ พอรู้ว่าฉันจะมาหาก็ขอตามมาด้วยแต่ติดตรงที่ถูกฉันห้ามเอาไว้เสียก่อน”

“แต่ก่อนชายชราอย่างฉันก็อยากจะเป็นพ่อสื่อให้และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณเฉินจะมีครอบครัวอยู่แล้ว”

เมื่อเฉินอีได้ฟัง ในสมองก็ได้คิดปรากฏภาพของร่างๆหนึ่งขึ้นมาและอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณหนูเกาดูแล้วเพิ่งจะอายุยี่สิบเองนะครับ”

“แน่ล่ะสิ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ