เหยียนเลว่จบเห่แล้ว
ในเวลาเพียงไม่กี่วันเขาก็กลายเป็นคนโปรดของบริษัท เรื่องการคว้าตำแหน่งผู้อำนวยการในอนาคตก็คงจะเป็นเรื่องที่ได้กำหนดเอาไว้แล้ว
ไม่คาดคิดเลยว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำของหานเฉียงจะสามารถตัดสินชีวิตการทำงานที่สั่งสมมาเป็นเวลานานกว่าสิบปีของเขาได้
“เถ้าแก่ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะ ขอร้องล่ะ!”
เหยียนเลว่นั้นรู้ดีว่าเขาได้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องขุ่นเคืองใจ โดยเฉพาะสองสามวันที่ผ่านมามีคนจำนวนมากจากภายในและภายนอกบริษัทที่ถูกเขาต่อว่าให้อับอาย
เมื่อเขาต้องสูญเสียตำแหน่งปัจจุบันของเขานั่นจึงทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นของคนเหล่านั้น
“ไสหัวไปซะ!”
หานเฉียงทำเสียงเยาะเย้ยออกมาพร้อมกับต่อว่าให้อีกฝ่ายไสหัวออกไป
เหยียนเลว่ที่ต้องการจะพูดอะไรออกมาก็ไม่มีโอกาสให้ได้พูดอีก เขาถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยที่วังจ่างหลินนำมาลากตัวออกไป
“เถ้าแก่ ยังมีคำสั่งอะไรอื่นอีกไหมครับ?”
เรื่องของเหยียนเลว่เป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งที่แทรกเข้ามาเท่านั้น
เฉินอียันคาง รูม่านตาของเขาดูเปลี่ยนไป
“เหยียนเลว่นี่ช่างกล้าหาญซะเหลือเกิน ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาของเขาจะดูก้าวร้าวมากเลยนะ”
“หมายความว่ายังไงกันครับ?”
วังจ่างหลินแสดงสีหน้าที่ต่างออกไป ดูไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย
เฉินอีพูดต่อ “แต่ก่อนเหยียนเลว่นั้นรู้ดีว่าฉันรู้จุดอ่อนของเขาแต่เขาก็ยังกล้าที่จะมาจัดการลงมือกับภรรยาของฉันซึ่งนั่นก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว- -”
“พวกเฉินฝูกำลังทดสอบขีดจำกัดของฉันอยู่!”
สีหน้าของวังจ่างหลินเปลี่ยนไปในทันทีพร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้น
“เถ้าแก่ ผมผิดไปแล้ว!”
ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม
ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ตรวจสอบในส่วนของภายในบริษัทให้ละเอียดถี่ถ้วน ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินอีล่ะก็เกรงว่าสิ่งที่อยู่ในมือก็คงหลุดลอยไปและตนก็คงจะถูกพวกลูกน้องฆ่าตายไปแล้ว
เฉินอีโบกมือพร้อมกับพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ ฉันกับนายน่ะเป็นพวกเดียวกัน ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มที่จะมาทดสอบฉัน งั้นฉันก็ชี้แจงได้อยู่เรื่องหนึ่งนั่นก็คือพวกเขาเป็นแค่หมาที่จนตรอกเท่านั้นเอง”
“ในเร็วๆนี้นายไปเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการซื้อกิจการอุตสาหกรรมของหลี่ซือกรุ๊ป”
“นี่…”
วังจ่างหลินแสดงสีหน้าที่ดูต่างออกไปพร้อมกับรีบพูดว่า “เถ้าแก่ หากว่าเราลงมือไปเกรงว่าพวกตระกูลหลี่ก็คงทำการสู้กับเราอย่างสุดกำลังและไหนจะมีตระกูลเฉินแห่งเมืองอสูรอีก มันคงยากที่จะรับมือกับเรื่องนี้”
เฉินอีพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่นานก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“ให้พวกเขาก่อกวนไปเถอะ”
“ก็แค่กลุ่มตัวตลก ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรนักหรอกและแน่นอนว่ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของนายจะต้องเพิ่มกำลังให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย ฉันกังวลว่าหากพวกเขาทำไม่ได้ล่ะก็พวกเราเองก็คงจะต้องเล่นลูกไม้อะไรออกไปสักหน่อย”
“ครับ”
วังจ่างหลินออกไปอย่างรวดเร็ว
เหลือเพียงแต่เกาจ่างหยางที่มองไปที่เฉินอีพร้อมกับถามด้วยรอยยิ้มว่า “ไปดื่มกันหน่อยไหม?”
“ท่านเกาเมตตาเช่นนี้ เฉินอีก็คงจะไม่ขัดข้อง มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง”
เฉินอียิ้มออกมาพร้อมกับเดินออกไปกับท่านเกา
เกาจ่างหยางเดินโซเซอยู่บนถนน ดูท่าทางราวกับมีเรื่องอะไรที่อยากจะพูดแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากออกมา
“มันไม่เป็นอะไรหรอกนะครับถ้าท่านเกาจะพูดอะไร”
เฉินอีเผยความจริงในจุดนี้ออกมา
เกาจ่างหยางยิ้มอย่างขมขื่นพร้อมกับส่ายหัวและพูดว่า “คุณเฉิน รู้หรือไม่ว่าหลานสาวของฉันนั้นพูดถึงคุณอยู่ตลอดเวลาเลยนะ พอรู้ว่าฉันจะมาหาก็ขอตามมาด้วยแต่ติดตรงที่ถูกฉันห้ามเอาไว้เสียก่อน”
“แต่ก่อนชายชราอย่างฉันก็อยากจะเป็นพ่อสื่อให้และครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณเฉินจะมีครอบครัวอยู่แล้ว”
เมื่อเฉินอีได้ฟัง ในสมองก็ได้คิดปรากฏภาพของร่างๆหนึ่งขึ้นมาและอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณหนูเกาดูแล้วเพิ่งจะอายุยี่สิบเองนะครับ”
“แน่ล่ะสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ศึกเดือด มหากาฬ