สวามีข้าโฉมงามดั่งปุบผา นิยาย บท 4

อินเหิงเกิดใจกว้างขึ้นมาและกล่าวว่า: "ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จุมพิตเถอะ"

เขาเกือบจะไม่มีชีวิตรอดแล้ว จะยังใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้ทำไม

ขณะนี้เมิ่งอู่ได้กัดแกนกลางคำหนึ่งจากนั้นคายออก เวลาต่อมาก็ก้มศีรษะพร้อมกับบีบไปที่คางของอินเหิงโดยที่เขาก็เปิดปากอย่างร่วมมือ

เมิ่งอู่เทน้ำหวานเข้าไปในปากเขาทีละน้อย

ในชั่วพริบตา อินเหิงที่แห้งแล้งมาเนิ่นนานเสมือนได้สัมผัสแหล่งกำเนิดชีวิต เคลื่อนลูกกระเดือกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ แล้วดึงความหวานนั้นจากปากของนาง

ไม่นึกฝันว่าริมฝีปากของนางช่างนุ่มนวลยิ่งนัก อินเหิงดูดดื่มกับริมฝีปากของนางและพลิกกลับ

เมิ่งอู่ขมวดคิ้ว ดึงออกทันท่วงทีแล้วกล่าวว่า: "นี่ เป็นข้าที่เอาเปรียบเจ้า ไม่ใช่ให้เจ้ามาเอาเปรียบข้า"

อันที่จริงนางมิใช่คนที่จะเอาเปรียบผู้อื่น ที่นางกล่าวว่าให้นางจุมพิต หากมิใช่ปากต่อปาก จะส่งต่อน้ำหวานแก่เขาได้เช่นไร?

แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้านี่จะเปลี่ยนจากแขกมาเป็นเจ้าบ้าน กลืนกินปากของนาง

อินเหิงเลียที่มุมปาก ม่านตาสีอ่อนเย้ายวนเล็กน้อยนั้นมองมายังนางแล้วกล่าวว่า: "ยังมีอีกหรือไม่?"

เมิ่งอู่กล่าว: "ซื่อสัตย์หน่อย อย่าริอาจดูด ข้าก็จะให้เจ้า"

"ย่อมได้"

เมิ่งอู่เคี้ยวอีกจากนั้นก็คายกากออกมา ก้มตัวลงชิดไปยังริมฝีปากเขา เขากลืนมันอย่างสะอาดหมดจด ยังมิลืมม้วนเกี่ยวความหวานจากริมฝีปากของนาง

เช่นนี้เมิ่งอู่จึงให้น้ำอ้อยสองต้นแก่เขา

เมิ่งอู่ไม่สามารถดึงหรือลากเขาไปได้โดยตรง จึงต้องคิดหาวิธีพาเขาออกจากทุ่งข้าวฟ่างนี้

นางหักต้นข้าวฟ่างมากมายมามัดเป็นแพอย่างง่าย ย้ายเขามาที่แพจากนั้นก็ลากแพออกไป

นางฉีกมุมเสื้อของเขาแล้วบิดให้เป็นเชือก ดึงอยู่ข้างหน้าด้วยอาการหอบ แล้วกระซิบให้กำลังใจตนเองว่า: “ถ้ามิใช่เพราะเห็นแก่หน้าตาที่ดีของเจ้า......”

อินเหิงกล่าวขึ้นทันใดว่า: "เจ้าจะพาข้ากลับไปที่บ้านรึ?"

“มิเช่นนั้นหล่ะ” เมิ่งอู่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “นำกลับไปเลี้ยงดูจากนั้นให้เป็นสามีในอนาคตของข้า”

“ไม่กลัวว่าข้าจะทำให้เจ้าลำบากรึ?”

เมิ่งอู่กล่าวว่า: “ข้ายังกลัวว่าเจ้าจะไม่มาทำให้ข้าลำบากซะอีก จะเป็นการดีที่สุดหากศัตรูของเจ้าเดินเข้าประตูมา แล้วกำจัดภูตผีปีศาจของบ้านข้าให้หมดสิ้น ถึงเวลานั้นข้าเพียงแค่ปกป้องความปลอดภัยของท่านแม่เจ้าของร่างเดิมก็เพียงพอแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สวามีข้าโฉมงามดั่งปุบผา