ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 1084

การฝึกฝนวิชาทำให้เวลาผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว เวลาสั้นๆ หนึ่งเดือนหายไปในชั่วพริบตา

เช้าตรู่วันนี้ เมื่อดวงตะวันมืดโผล่พ้นฟ้าทอแสงแรก ประตูของสิ่งก่อสร้างโออ่าทรงครึ่งวงกลมหลังหนึ่งที่ฝั่งตะวันออกบนลานกลางเมืองของเมืองปี้โยวก็มีเสียงคนเอะอะ เผ่ายมโลกหน้าตาหลากหลายแบบเข้าออกประตูใหญ่ แลดูครึกครื้นยิ่งนัก

นอกเหนือจากนั้นยังมีเผ่ายมโลกไม่น้อยจับกลุ่มสองตนสามตนอยู่สองฟากฝั่ง บ้างหยุดยืนเหมือนกำลังรอคน บ้างกระซิบกระซาบไม่รู้หารืออันใด แล้วก็มีบางคนสีหน้ามึนงงมองภาพความครึกครื้นนี้ เมื่อได้คนด้านข้างอธิบายจึงพยักหน้าเข้าใจ เห็นชัดว่าเป็นนักเดินทางที่เพิ่งเข้ามาในเมืองได้ไม่นาน

มุมหนึ่งของฝูงชนที่รวมตัวกันอย่างครึกครื้น บุรุษร่างใหญ่สูงเจ็ดฉื่อผู้สวมชุดสีเทาผู้หนึ่งกำลังมองกลุ่มคนที่หลั่งไหลมาดุจกระสวยทอผ้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ทราบว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่

ไม่ต้องบอกกล่าวมากความ คนผู้นี้ย่อมคือบุรุษเผ่ายมโลก “อิ่นหาน” ผู้นั้นซึ่งเป็นร่างแปลงของหลิ่วหมิง

แต่ตอนนี้คลื่นพลังเวทที่แผ่ออกมาจากร่างเขาสภาพเหมือนระดับแก่นแท้ขั้นต้นเท่านั้น

สิ่งก่อสร้างอลังการทรงครึ่งวงกลมหลังนี้ตรงหน้าเขาก็คือ “หอรุ่ยโยว” สถานที่จัดงานประมูลครั้งใหญ่ที่จะจัดขึ้นสามปีครั้งของเมืองปี้โยว และพวกเขายังเป็นสมาคมการค้าขนาดใหญ่แถวหน้าของแดนวารีมืดที่กระจายอยู่ทั่วแดนวารีมืดอีกด้วย

ได้ยินมาว่าผู้ที่อยู่หลังม่านมีความเป็นมายิ่งใหญ่ เหมือนจะเกี่ยวพันกับราชายมโลกปี้โยว

วันนี้เป็นวันแรกของงานประมูลใหญ่ ผู้คนเดินทางมามากมายยิ่งนัก บางคนยังสวมเสื้อกันฝนกับหมวกไม้ไผ่อยู่ เห็นชัดว่าเพิ่งรีบเร่งเดินทางมายังเมืองปี้โยวเพื่อเข้าร่วมงานประมูลใหญ่ครั้งนี้โดยเฉพาะ

หลิ่วหมิงสังเกตอยู่พักหนึ่งก็หมุนแหวนหนาสีดำบนนิ้วหัวแม่มือข้างขวา แล้วปะปนเข้าไปกลางหมู่คนโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เดินเอื่อยเฉื่อยไปยังประตูใหญ่

เขาจ่ายค่าเข้าเป็นหินยมโลกสิบก้อนแล้วลงทะเบียนตัวตน จากนั้นจึงเข้าไปในอาคาร

หลังจากเดินผ่านทางเดินกว้างขวางที่ไม่นับว่ายาวนักสองเส้น เสียงดนตรีสูงต่ำก็ดังลอยมาพร้อมกับที่ห้องโถงขนาดราวร้อยจั้งที่มีบันไดทอดขึ้นไปด้านบนปรากฏขึ้นตรงหน้า

ที่แห่งนี้ก็คือสถานที่จัดงานประมูลครั้งนี้ ภายในห้องโถงมีเก้าอี้ไม้วางเรียงรายเป็นแถวมากถึงหลายพันแถว

แต่ยามนี้ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งถึงสองชั่วยามก่อนจะเริ่มงานประมูล ดังนั้นจึงมีเผ่ายมโลกไม่มากนักที่เข้าไปนั่ง

ด้านหน้าของสถานที่จัดประมูลมีแท่นราบเรียบทำด้วยหยกขาวอยู่แท่นหนึ่ง บนนั้นวางโต๊ะยาวตัวหนึ่งกับเก้าอี้ไว้หลายตัว ดูเหมือนจะเป็นแท่นประมูล แต่เวลานี้ย่อมยังไม่มีคน

สายตาของหลิ่วหมิงกวาดเรื่อยเปื่อยไปรอบห้องโถงประมูล ทันใดนั้นสายตาก็เคลื่อนไปยังฝั่งหนึ่งของห้องโถงใหญ่ ที่นั่นมีห้องโถงข้างที่ค่อนข้างเล็กอยู่ห้องหนึ่ง ตรงประตูมีทหารสวมชุดเกราะสีเขียวยืนอยู่หลายตน

มีผู้ฝึกฝนเผ่ายมโลกตนสองตนเดินเข้าไปในห้องโถงข้างเป็นระยะ หลังจากแสดงของบางสิ่ง พวกเขาก็ถูกทหารเกราะสีเขียวหน้าประตูพาเข้าไป

เผ่ายมโลกตนอื่นที่อยู่ในสถานที่จัดประมูล ส่วนใหญ่มองเผ่ายมโลกที่เดินเข้าไปในห้องโถงด้านข้างด้วยสีหน้าอิจฉา

จากถ้อยคำกระซิบกระซาบของเผ่ายมโลกรอบด้าน หลิ่วหมิงเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าผู้ฝึกฝนที่เดินเข้าไปเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ที่มีสมบัติต้องการจะประมูลในงานประมูล

เขาสืบมาก่อนแล้วว่าหากต้องการประมูลสิ่งของในมือตน ต้องนำของประมูลมอบให้แก่งานประมูลล่วงหน้า หลังจากผู้รับผิดชอบประเมินตรวจสอบจึงจะเปิดประมูลในงานประมูลวันนั้นได้

แม้หลิ่วหมิงคิดจะประมูลของที่อยู่ในมือเช่นกัน แต่งานประมูลครั้งนี้มีทั้งหมดเจ็ดวัน วันนี้เพิ่งจะเป็นวันแรก ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนลงมือ เขาคิดจะสำรวจลู่ทางให้ชัดก่อนแล้วค่อยติดต่อกับผู้จัดงานประมูล

อย่างไรสมบัติเหล่านั้นในมือเขาแม้จะล้ำค่ายิ่งนัก แต่ก็ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง แล้วที่แห่งนี้ยังเป็นเมืองปี้โยว มีกลุ่มอำนาจแต่ละแห่งปะปนอยู่ ทุกการกระทำทุกการเคลื่อนไหวย่อมต้องระมัดระวังเพิ่มเป็นเท่าตัว

หลิ่วหมิงมองอยู่หลายหนก็หมุนตัวเดินออกจากห้องโถงใหญ่ไป

สิ่งที่ล้อมรอบห้องโถงประมูลอยู่คือทางเดินกว้างที่ไร้หลังคาเส้นหนึ่ง ที่นี่คือเขตแลกเปลี่ยนอิสระของงานประมูล สองฝั่งทางเดินมีแผงร้านค้าเรียบง่ายอยู่จำนวนหนึ่ง

งานประมูลใหญ่ล้วนควบคุมสินค้าอย่างเข้มงวด สมบัติที่ด้อยอยู่บ้างล้วนไม่ถูกรับเข้าประมูล

เผ่ายมโลกที่เดินทางมาไกลจำนวนหนึ่ง ของที่ตัวราคาค่อนข้างต่ำ หลังจากผ่านการประเมินแล้วไม่มีสิทธิขึ้นประมูลจึงได้แต่ถอยมาหาทางเลือกที่สอง จ่ายหินยมโลกห้าก้อนมายังเขตแลกเปลี่ยนอิสระแห่งนี้ตั้งแผงขายด้วยตนเอง

อย่างไรงานประมูลใหญ่ครั้งนี้ก็จัดต่อกันเจ็ดวัน ย่อมดึงผู้ฝึกฝนเผ่ายมโลกจำนวนมากของแดนวารีมืดมาเยือน เป็นโอกาสค้าขายอันหาได้ยาก

หลิ่วหมิงกวาดสายตามองคร่าวๆ ก็พบว่าเวลานี้ในทางเดินมีเผ่ายมโลกรวมตัวกันอยู่ไม่น้อย สภาพคึกคักยิ่งนัก

หลิ่วหมิงคิดอะไรขึ้นได้จึงเดินหน้าปะปนไปกับกลุ่มผู้ฝึกฝน สายตามองสำรวจแผงร้านค้าขนาดเล็กแต่ละแผงอย่างละเอียด

เมื่อดูไปติดกันหลายแผง ดวงตาเขาก็เผยแววตาผิดหวังออกมาเล็กน้อย

แผงร้านค้าปลีกเหล่านี้ไม่มีสิ่งใดควรค่าให้ดูแม้แต่น้อย สินค้าที่นี่แทบจะเป็นสินค้าธาตุหยินระดับล่างและระดับกลางหรือของที่มีประโยชน์สำหรับเผ่ายมโลกต่ำกว่าระดับผลึกทั้งสิ้น หลิ่วหมิงเป็นผู้ฝึกฝนเผ่ามนุษย์ อีกทั้งวันนี้ยังบรรลุระดับแก่นแท้ขั้นกลางแล้วย่อมไม่มีของที่ใช้ประโยชน์ได้สักเท่าใด

สิ่งที่ทำให้หลิ่วหมิงต้องหยุดเท้ากวาดตามองสองสามรอบเพียงอย่างเดียวก็คือวัตถุดิบกับหินแร่สำหรับภูตผีจำนวนหนึ่ง แต่ในเมื่อมันวางอยู่บนแผงร้านค้าที่ทางเดินแลกเปลี่ยนอินสระก็น่าจะไม่ใช่ของที่ขายได้ราคาเท่าใดนัก

ด้วยเหตุนี้เขาจึงแวะแต่ละร้านเพียงครู่สั้นๆ หลังจากเหล่ตามองรอบหนึ่งก็เดินหน้าต่อ

ทางเดินเส้นนี้ออกแบบให้คดโค้ง หลิ่วหมิงเสียเวลาไม่น้อยจึงจะตระเวนครบรอบ แต่ก็ยังไม่ได้สิ่งใดมาทั้งสิ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา