ปี้เหยียนเดินมาถึงริมโต๊ะก็ลงมือชงชาจิตวิญญาณกาหนึ่งด้วยตนเองแล้วรินให้หลิ่วหมิงถ้วยหนึ่ง กลิ่นชาหอมสะอาดจางๆ ลอยโชยมาทันที
หลิ่วหมิงมองถ้วยชาตรงหน้าแวบหนึ่งแต่ไม่เอื้อมมือไปหยิบ
เห็นหลิ่วหมิงระวังระไวเช่นนี้ ปี้เหยียนกลับไม่ได้เผยความไม่พอใจแต่อย่างใด ตรงกันข้ามหลังจากรินชาจิตวิญญาณให้ตนเองดื่มถ้วยหนึ่งโดยไม่มีสีหน้าผิดปกติสักนิดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับหลิ่วหมิงก็เอ่ยปากต่อว่า
“ไม่ปิดบังพี่อิ่นหาน ฐานะที่แท้จริงของข้าคือเป็นแม่ทัพมืดคนหนึ่งในกองทัพวารีมืดของท่านราชายมโลก”
หลิ่วหมิงฟังจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
แม้เขาเดาได้อยู่ก่อนแล้วว่าปี้เหยียนคงมีฐานะไม่ธรรมดา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นถึงแม่ทัพมืดแห่งกองทัพวารีมืด
เขามาถึงเมืองปี้โยวได้ช่วงเวลาหนึ่งแล้วจึงนับว่าเข้าใจสถานการณ์ในเมืองอยู่บ้าง
เมืองปี้โยวแห่งนี้คือเมืองเอกของแดนวารีมืดและเป็นที่พำนักของราชายมโลก ใต้ปกครองของราชายมโลกย่อมมีผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่ไม่น้อย
ในเมืองปี้โยวขุมกำลังใต้สังกัดราชายมโลกหลักๆ แบ่งออกเป็นสองส่วน หนึ่งในนั้นก็คือกองทัพหยกมืด เทียบได้กับกองทหารรักษาเมืองของเมืองต่างๆ ในยมโลก รับผิดชอบดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยและการคุ้มกันในยามปกติของเมืองปี้โยว
กองทัพหยกมืดมีคนมากมาย ล้วนแต่เป็นเผ่ายมโลกที่แม่ทัพมืดธรรมดาใต้บัญชาของราชายมโลกเลือกมาตามใจ
นอกเหนือจากนั้นก็คือ “กองทัพวารีมืด” ซึ่งเป็นกลุ่มองครักษ์ที่ราชายมโลกเลือกด้วยตนเอง อีกทั้งยังเป็นกลุ่มคนสนิทที่แท้จริงของราชายมโลกด้วย
กองทัพวารีมืดมีจำนวนคนไม่มาก แต่ล้วนเป็นลูกน้องคนสำคัญของปี้โยว แม่ทัพมืดของกองทัพวารีมืดย่อมเป็นคนสนิทของปี้โยว ผู้ที่ถูกยอดฝีมือระดับเชี่ยวชาญมหัศจรรย์ต้องตาได้ย่อมไม่มีทางธรรมดาเช่นนี้อย่างที่เห็นภายนอก
“ที่แท้พี่ปี้เหยียนก็ฐานะสูงส่ง มิน่าจึงตามหาข้าน้อยได้ง่ายดายเช่นนี้ เสียมารยาทแล้วจริงๆ” ในใจหลิ่วหมิงครุ่นคิดอย่างรวดเร็วพร้อมกับประสานมือคำนับ
“พี่อิ่นหานไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป ข้าเพียงแค่บังเอิญเห็นสหายในงานประมูลครั้งนี้เท่านั้น ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่าพี่อิ่นหานมาถึงเมืองปี้โยวด้วย มิเช่นนั้นคงไปเยี่ยมเยือนที่บ้านนานแล้ว” ปี้เหยียนหัวเราะฮ่าๆ เอ่ยขึ้นมา
หลิ่วหมิงหัวเราะหึๆ สีหน้าไม่แสดงท่าทีแล้วและไม่เอ่ยตอบอะไร
“เอาล่ะ สนทนาสัพเพเหระพอเท่านี้ ความจริงข้าเชิญพี่อิ่นหานมาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องหนึ่งต้องการขอให้พี่อิ่นหานช่วยจริงๆ” ปี้เหยียนหุบรอยยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“อ้อ เรื่องที่แม้แต่พี่ปี้เหยียนยังไม่อาจจัดการได้ ข้าชักจะสงสัยใคร่รู้อยู่บ้างแล้ว” หลิ่วหมิงเลิกคิ้วเรียวแล้วล้างหูรอฟัง
“ความจริงเรื่องนี้เริ่มเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน ท่านปี้โยวสั่งภารกิจหนึ่งด้วยตนเอง…” ปี้เหยียนถอนหายใจแผ่วเบาครั้งหนึ่งแล้วเอ่ยต่ออย่างเชื่องช้า
“เรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านราชายมโลก ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ผู้เพิ่งเข้าสู่ระดับแก่นแท้ตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะเข้าไปยุ่งได้ สหายไม่ต้องพูดต่อแล้ว เชิญคนอื่นเถิด”
หลิ่วหมิงเพิ่งฟังได้สองประโยคก็หน้าถอดสีเอ่ยขัดกะทันหัน ออกปากปฏิเสธทันที
“พี่อิ่นหานอย่าเพิ่งรีบร้อน เรื่องนี้มีสาเหตุอื่นจึงมีเพียงสหายที่ช่วยเหลือได้ อีกทั้งข้าเชื่อว่าหากพี่อิ่นหานได้ฟังเรื่องค่าตอบแทนจากข้าแล้วน่าจะไม่มีทางปฏิเสธ” ปี้เหยียนเอ่ยเรียบๆ ในถ้อยคำเผยความมั่นใจในตนเอง
หลิ่วหมิงขยับมุมปากแต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา
“หากข้ามองไม่ผิด วิชาที่พี่อิ่นหานฝึกฝนน่าจะเป็นวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬสินะ?” เห็นหลิ่วหมิงไม่เอ่ยปากปฏิเสธ ปี้เหยียนย่อมเปลี่ยนประเด็นถามขึ้นมาทันที
“พี่ปี้เหยียนกล่าวไม่ผิด วิชาที่ข้าฝึกฝนก็คือวิชานี้ หรือท่านก็แตกฉานวิชานี้ด้วย?” หลิ่วหมิงยอมรับอย่างตรงไปตรงมาแล้วย้อนถามกลับหนึ่งประโยค
“ฮ่ะๆ นั่นก็ไม่ใช่ แต่ข้ารู้ความเป็นมาของวิชานี้อยู่บ้างเล็กน้อย” ปี้เหยียนอ้าปากหาวแล้วเอ่ยตอบ
“แม้ข้ามีวาสนาบังเอิญได้ฝึกฝนวิชานี้ แต่ข้ากลับไม่รู้ประวัติความเป็นมาของมันมากนัก ขอพี่ปี้เหยียนสั่งสอนด้วย” ดวงตาหลิ่วหมิงทอประกายแต่สีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิดตอนที่เอ่ยขึ้นมา
“คำว่าสั่งสอนคงไม่กล้ารับ ตามที่ข้ารู้มาความจริงแล้ววิชานี้เป็นวิชาที่ราชายมโลกนาม ‘หมิงอวี้’ เมื่อหลายหมื่นปีก่อนเป็นผู้สร้างขึ้นมา เคยแพร่หลายอยู่ช่วงหนึ่ง แต่นอกจากราชายมโลกผู้นั้นที่คิดค้นวิชา ภายหลังมีเผ่ายมโลกน้อยคนนักที่จะฝึกฝนวิชานี้จนถึงขั้นปลาย หลังจากเผ่ายมโลกมากมายได้วิชานี้ไป เมื่อฝึกฝนถึงระดับหนึ่งแล้ว ไม่ทราบเพราะสาเหตุใด จึงไม่อาจก้าวหน้าได้อีก แม้วิชานี้จะมีประโยชน์ต่อการฝึกฝนร่างกายอยู่บ้าง แต่หากไม่อาจฝึกฝนคุกมืดได้ พลังย่อมด้อยกว่าวิชายมโลกวิชาอื่นอยู่ไกล ด้วยเหตุนี้วิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬจึงเป็นวิชาที่เหมือนไร้ประโยชน์วิชาหนึ่งสำหรับเผ่ายมโลกทั่วไป ตอนนี้มีน้อยคนนักที่จะฝึกฝนวิชานี้” ปี้เหยียนโบกมือแล้วเอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อย
“ที่แท้เป็นเช่นนี้ พี่ปี้เหยียนรอบรู้กว้างขวางจริงๆ” หลิ่วหมิงพยักหน้า สีหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา