ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 1108

หลิวหมิงมองอสูรเลี้ยงข้างตัวทั้งสองตน ริมฝีปากขยับขมุบขมิบส่งกระแสจิตหาหลายประโยค

ฉับพลันแมงป่องกระดูกก็ยกก้ามทั้งสองข้างไขว้กันแล้วขยับตัวกลายเป็นเงาสีเงินสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่ “เงาสะท้อนแมงป่องกระดูก” ระหว่างที่ตัวยังลอยอยู่กลางอากาศหางเหล็กในด้านหลังก็พร่าเลือนเกิดเป็นเงาเหล็กในมากมายถี่ยิบ

ส่วนหัวบินหัวเราะชั่วร้ายพุ่งตรงเข้าใส่ “เงาสะท้อนหัวบิน” เส้นผมสีเขียวพุ่งออกมาเต็มฟ้าโอบล้อมไปด้านหน้า

ระหว่างที่อสูรเลี้ยงทั้งสองตัวลงมือ อสูรเลี้ยงสองตัวข้างกาย “เงาสะท้อนหลิ่วหมิง” ก็พุ่งออกมาพร้อมกัน อสูรเลี้ยงสี่ตัวปะทะกันเสียงดังสนั่น

ชั่วขณะหนึ่งเงาหางเหล็กในนับไม่ถ้วนปะทะกันอย่างดุเดือดกลางท้องฟ้า เส้นผมสีเขียวเต็มท้องฟ้าโรมรันรัดพันกัน

“แมงป่องกระดูก” กับ “หัวบิน” ที่ค่ายกลอนธการก่อเกิดสร้างขึ้นมาพลังเหมือนกับร่างต้นทุกประการจริงๆ กระบวนท่าทั้งหมดล้วนไม่ต่างกัน ชั่วขณะหนึ่งจึงต่อสู้กินกันไม่ลง ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้

ทว่าในยามนี้เองแมงป่องกระดูกกับหัวบินก็เหมือนจะตกลงบางอย่างกันเรียบร้อย ร่างกายของพวกมันปล่อยปราณสีดำกับเปลวเพลิงสีเขียวลุกท่วมม้วนเป็นเกลียวกวาดไปรอบด้านพร้อมกัน

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เนื่องจากการต่อสู้อันดุเดือดของอสูรเลี้ยงทั้งสี่ตัวอยู่ค่อนข้างใกล้กับตัวเขา สายตาของเขาจึงถูกปราณดำกลับเพลิงสีเขียวบดบังไปชั่วขณะ

ยังไม่ทันที่เขาจะตอบสนอง กระบี่ยักษ์สีเทากลางอากาศก็ฟาดอย่างแรง กระบี่ยักษ์เปล่งแสงสว่างจ้ากะทันหันปัดกระบี่ยักษ์สีดำที่ติดพันอยู่กระเด็นออกไป จากนั้นเงากระบี่ยักษ์ก็พร่าเลือนหายไปวูบหนึ่งแล้วฟันลงมาหาเงาสะท้อนของหลิ่วหมิงอย่างรุนแรง

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงสะบัดมือข้างหนึ่ง แสงสีเหลืองพลันสว่างขึ้นบนร่าง มุกบรรพตธาราสีเหลืองหม่นเม็ดหนึ่งพุ่งพรวดออกมาแล้วขยายใหญ่สิบเท่าในพริบตาขวางอยู่เหนือศีรษะ

ทว่าแสงเจิดจ้าที่ฉายออกมาจากกระบี่ยักษ์สีเทากลับหดตัวในพริบตาแล้วระเบิดตัวเอง

เสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน แสงกระบี่สีเทากลายเป็นปราณกระบี่สีเทาระยิบระยับนับไม่ถ้วนพุ่งปราดไปสี่ทิศแปดทาง ปราณกระบี่ระยิบระยับแล่นผ่านที่ใดก็ทิ้งรอยกรีดสีเทาอ่อนสายแล้วสายเล่าเอาไว้กลางอากาศ

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รีบสะกิดปลายเท้า ร่างกายพุ่งถอยหลังพร้อมกับที่แสงสีเหลืองสว่างขึ้นบนร่างอีกครั้ง มุกกลมสีเหลืองหม่นสี่เม็ดปรากฏออกมา ไอหมอกสีเหลืองเข้มผืนใหญ่ทะลักออกมาล้อมตัวเขาไว้ด้านใน

เสียงประหนึ่งเม็ดฝนกระทบใบตองดังขึ้น!

ปราณกระบี่แวววาวโจมตีลงบนไอหมอกสีเหลืองเข้ม แม้ไอหมอกสีเหลืองจะกระเพื่อมอย่างรุนแรง ทว่าดีเลวก็รับการโจมตีแต่ละสายเอาไว้ได้

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงถอยหลังดังตึงสิบกว่าก้าวกว่าจะตั้งหลักได้อย่างหวุดหวิด

ตอนนี้เองเงาคนก็โผล่มาด้านหลังเขา หลิ่วหมิงปรากฏตัวออกมาดุจภูตพราย รอบร่างมีปราณสีดำพลุ่งพล่านไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด เขาตวาดแผ่วเบาคำหนึ่งแล้วเหวี่ยงสองแขนออกมา

“ฟู่” แสงสีดำแถบใหญ่ม้วนออกมารวบเงาสะท้อนของหลิ่วหมิงไว้ด้านในแล้วกลายเป็นลูกบอลแสงสีดำมหึมาลูกหนึ่ง

เบื้องหน้าของเงาสะท้อนของหลิ่วหมิงมืดไปวูบหนึ่ง เขาตกลงมาในมิติสีดำสนิทที่เต็มไปด้วยปราณสีดำอันแน่นพร้อมกับอสูรเลี้ยงทั้งสี่ตัว

อึดใจต่อมาเขาก็ถูกปราณดำที่โถมมาจากสี่ทิศแปดทางปิดกั้นไว้จนมองไม่เห็นสถานการณ์การต่อสู้ระหว่างอสูรเลี้ยงแม้แต่น้อย

ทว่าเงาสะท้อนของหลิ่วหมิงกลับไม่มีสีหน้ากังวลสักนิด เขากวาดสายตามองรอบด้าน มุมปากผุดรอยยิ้มเย็นชา ขณะที่มือทำท่าเคล็ดวิชา ทันใดนั้นเมฆสีเหลืองที่ปกป้องอยู่รอบร่างก็ส่องแสงวูบวาบ มุกบรรพตธาราทั้งสิบสองเม็ดปรากฏออกมาจนหมดแล้วหมุนวนอย่างรวดเร็ว แสงเรืองรองสีเหลืองเข้มสายแล้วสายเล่าสาดออกมาเสริมลูกบอลสีเหลืองเข้มรอบร่าง

ในตอนนี้เองไอหมอกสีดำของมิติคุกมืดก็ปั่นป่วน ลูกศรหมอกสีดำมากมายถี่ยิบก่อตัวขึ้นแล้วพุ่งมืดฟ้ามัวดินเข้าใส่เงาสะท้อนของหลิ่วหมิง

ทว่าทันทีที่ลูกศรหมอกสีดำเหล่านี้สัมผัสถูกแสงเรืองรองสีเหลืองเข้มที่มุกบรรพตธาราสร้างขึ้นมา พวกมันก็พากันสลายกลายเป็นปราณสีดำอีกครั้งโดยที่ไม่อาจเข้าใกล้ได้สักนิด

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงพร่ำท่องมนตร์เหมือนกำลังจะใช้วิชาอันร้ายกาจบางอย่างฉีกมิติคุกมืดออกมา

ทว่าตอนนี้เองด้านในมิติคุกมืดพลันมีไอน้ำหนาทึบสายแล้วสายเล่าปรากฏขึ้น เสียงหยาดน้ำกระเซ็นดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศ เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที

โฮกๆ !

เสียงภูตผีโหยหวน ปราณสีดำรอบด้านปั่นป่วนรุนแรง ผีสีดำที่มีเขายาวงอกอยู่บนหัวขนาดหนึ่งจั้งกว่าเจ็ดแปดตัวกระโดดออกมาแล้วกระโจนเข้าใส่เงาสะท้อนของหลิ่วหมิง

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงแค่นเสียงหยัน มุกบรรพตธาราสิบสองเม็ดรอบตัวเปล่งแสงเจิดจ้าในทันใด พวกมันสั่นเบาๆ สร้างระลอกคลื่นแสงสีเหลืองเข้มวงแล้ววงเล่าขึ้นมา

ผีน้อยสีดำที่โถมเข้ามาสัมผัสคลื่นแสงชั้นนี้เพียงพริบตาก็กรีดร้องโหยหวนสลายกลับเป็นน้ำสีดำนับไม่ถ้วน ระเบิดหายไป

ทว่ายังไม่ทันที่เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงจะผ่อนคลาย ปราณสีดำรอบด้านก็ปั่นป่วนรุนแรงอีกครั้ง ผีสีดำตัวแล้วตัวเล่ากระโดดตามกันออกมาแล้วโถมเข้าใส่เขาตามไล่หลังกันไม่ขาดสาย

เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงสีหน้าเฉยชา นิ้วข้างหนึ่งจี้ดัชนีใส่มุกบรรพตธาราสิบสองลูกตรงหน้า ทันใดนั้นมุกกลมทั้งหมดก็เปล่งแสงสว่างแสบตา พวกมันทอแสงวูบหนึ่งก็กลายเป็นมังกรสีเหลืองเข้มยาวสิบกว่าจั้งสิบสองตัว

มังกรเหล่านี้มีร่างจริง บนร่างมีเกล็ดสดใสแวววาวปกคลุม ส่วนท้องก็มีกรงเล็บมังกรสีเหลืองสลับดำสี่ข้าง

มังกรสิบสองตัวบินวนรอบหนึ่ง กรงเล็บมังกรก็ตะปบฉีกผีน้อยสีดำที่ปรากฏตัวรอบด้านไม่หยุดเป็นชิ้นๆ จนหมดสิ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา