เมื่อมาถึงตอนนี้ ไหนเลยหลิ่วหมิงจะไม่รู้ความเป็นมาที่แท้จริงของอินหลิวอีก!
อินหลิวที่อยู่ตรงหน้าก็คือร่างกลับชาติที่มาเกิดในยมโลกของปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งนิกายปีศาจบนแผ่นดินอวิ๋นชวน แล้วยังเป็นลิ่วยินศิษย์ลับที่หายตัวไปเมื่อนานมาแล้วของนิกายยอดบริสุทธิ์อีกด้วย
การกลับชาติมาเกิดเดิมทีเป็นเรื่องเล่าลืออันเลื่อนลอย แต่เวลานี้หลิ่วหมิงอยู่ในแดนยมโลกซึ่งเป็นสถานที่แห่งการกลับชาติมาเกิดในตำนาน ดังนั้นแม้เขาจะตกตะลึงแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่ออย่างสิ้นเชิง
ทว่ายังไม่ทันที่หลิ่วหมิงจะเอ่ยปากถามไถ่ให้กระจ่าง บานกระจกสีเทาเบื้องหน้าอินหลิวก็กระเพื่อม “อินหลิว” อีกคนหนึ่งปรากฏตัวแล้วก้าวเดินออกมาจากกระจกด้วยใบหน้าเฉยชา ยืนอยู่เบื้องหน้าอินหลิวไม่ไกลนัก
กระจกยักษ์กะพริบวูบวาบสองครั้งก่อนจะเปล่งแสงสว่าง
เงาสะท้อนทั้งสองที่แต่งตัวเหมือนหลิ่วหมิงกับอินหลิวราวกับได้รับสัญญาณบางอย่าง พวกเขาเผยสีหน้าเหี้ยมเกรียมแล้วแยกย้ายกันโถมเข้าใส่หลิ่วหมิงกับอินหลิว
ขณะที่เงาสะท้อนของหลิ่วหมิงลอยอยู่กลางอากาศ แสงสีดำก็ส่องสว่างบนร่าง ร่างกายถูกแสงสีดำข้นชั้นหนึ่งคลุมไว้ จากนั้นฝ่ามือก็ทอแสงสีดำวูบหนึ่ง นิ้วทั้งสิบงอกกรงเล็บคมสีดำยาวครึ่งฉื่อตะปบลงมาที่ศีรษะของหลิ่วหมิงพร้อมกับแสงสีดำสายแล้วสายเล่า
สมาธิเกินกว่าครึ่งของหลิ่วหมิงอยู่กับ “ตนเอง” ที่อยู่เบื้องหน้าตลอดเวลา เมื่อเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าจึงเปลี่ยนไปทันที เขาสะกิดปลายเท้า ร่างกายขยับวูบเดียวรีบถอยไปด้านหลัง
ร่างกายของเขาเพิ่งจะพุ่งถอย แสงกรงเล็บสีดำรูปจันทร์เสี้ยวห้าสายก็ทะลุผ่านเงาติดตาที่เขาทิ้งไว้
โจมตีครั้งแรกพลาด ดวงตาของ “หลิ่วหมิงร่างสีดำ” ก็ฉายแววเหี้ยมเกรียม เพลิงมารสีดำอันดุดันสายหนึ่งผุดขึ้นบนร่างในทันใด บนร่างเกิดเสียงระเบิดดังเปรี้ยงปร้าง ก่อนที่ร่างกายจะขยายพรวด อาภรณ์ตัวยาวถูกดันจนฉีกขาด ครึ่งท่อนบนเปิดเปลือย บนผิวมีลวดลายมารสีดำประหลาดสายแล้วสายเล่าปรากฏขึ้น
เงาคนพุ่งหายไป ร่างกายของหลิ่วหมิงปรากฏตัวห่างออกไปหลายสิบจั้ง สีหน้าถมึงทึงดั่งสายน้ำ
หลิ่วหมิงร่างสีดำตรงหน้ากำลังใช้การกลายร่างเป็นปีศาจซึ่งเขาคุ้นเคยดี สองมือกับสองเท้าล้วนมีกรงเล็บคมงอกออกมายาวเฟื้อย อีกทั้งลมปราณยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด พริบตาเดียวบรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับแก่นแท้
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ สายตาพลันเย็นชา
พลังหลังจากกลายร่างเป็นปีศาจ เขารู้ดียิ่งกว่าใคร น่าเสียดายที่เขาไม่อาจควบคุมพลังนี้ได้ และยิ่งไม่กล้าเปิดเผยต่อหน้าผู้คน ยามนี้เผชิญหน้ากับตนเองที่กลายร่างเป็นปีศาจ ในใจหวั่นเกรงเพียงใดคิดดูก็รู้
หลิ่วหมิงสูดหายใจลึกยาวเฮือกหนึ่ง มือใช้เคล็ดวิชาอย่างเร็วไว แสงสีเหลืองเข้มสว่างขึ้นเบื้องหน้า เขาเรียกมุกบรรพตธาราสองเม็ดออกมาคุ้มกันด้านหน้ากับด้านหลังเอาไว้
ไอหมอกสีเหลืองเข้มผืนใหญ่ทะลักออกมาจากมุกบรรพตธาราก่อนจะล้อมทั้งร่างของเขาไว้ด้านใน
อีกด้านหนึ่งอินหลิวกับร่างสะท้อนของเขาก็เริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดเช่นกัน แสงเจิดจ้าสองดวงพุ่งปะทะกัน มองไม่เห็นร่างกายของทั้งสองฝั่ง ได้ยินเพียงเสียงดังสนั่นดุจอสนีบาตคำรามยามพลังเวทปะทะเท่านั้น
หลิ่วหมิงไม่มีเวลาสนใจสถานการณ์ฝั่งอินหลิว แรงกดดันอันน่าหวาดกลัวของหลิ่วหมิงร่างสีดำ หลังจากกลายร่างเป็นปีศาจทำให้เขาไม่มีเวลาสนใจรอบข้างแม้แต่น้อย
ดวงตาของ “หลิ่วหมิงร่างปีศาจ” เปล่งแสงสีแดงก่อนแหงนหน้าคำรามดุดันใส่ท้องฟ้า เงาเลือนรางสีดำโฉบวูบ อึดใจต่อมาก็หายไปจากสายตาของหลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงเปลี่ยนสีหน้าไปทันที ปากท่องมนตร์รวดเร็วยิ่งนักเพื่อบังคับมุกบรรพตธาราสองเม็ดข้างกาย ไอหมอกสีเหลืองเข้มม้วนมารอบร่างก่อตัวเป็นลูกบอลหมอกสีเหลืองเข้มขนาดหนึ่งจั้งกว่าลูกหนึ่งรอบตัวเขา
เขาเพิ่งจะทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ เงาดำก็โผล่มาด้านหลังหลิ่วหมิงร่างปีศาจปรากฏตัวดุจภูตพราย เงานั่นแขนขยับวูบเดียว มือมารสีดำสนิทข้างหนึ่งพลันกลายเป็นเงาเลือนรางสายหนึ่งฟันลงมาประหนึ่งฟันดาบ
ฉึบๆ !
ไอหมอกสีเหลืองเข้มเมื่ออยู่ต่อหน้ามือมารกลับประหนึ่งกระดาษถูกฟันขาดเป็นรูในพริบตา มือมารสีดำกำลังจะฟันเข้าที่ลำคอของหลิ่วหมิง
ในตอนนี้เองแสงสีเหลืองดวงหนึ่งพลันสว่างวาบ มุกกลมสีเหลืองเข้มขนาดหนึ่งฉื่อกว่าลูกหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังของหลิ่วหมิง มือมารสีดำตะปบลงบนมุกกลมอย่างหนักหน่วงจนเกิดเสียงโลหะปะทะกันดังลั่น
ชิ้ง!
มุกบรรพตธาราระเบิดแสงสีเหลืองดวงหนึ่งออกมาทำให้หลิ่วหมิงร่างปีศาจกายสะท้าน ทั้งร่างถูกกระแทกปลิวออกไปหลายจั้งแล้วถอยหลังอีกหลายก้าวกว่าจะตั้งหลักได้
หลิ่วหมิงพรูลมหายใจเบาๆ ร่างกายขยับวูบหนึ่งฉวยโอกาสดึงระยะห่างจากหลิ่วหมิงร่างปีศาจ
เขามีความเร็วของวิชาท่าร่างเป็นจุดเด่นมาตลอด แต่สิ่งเหล่านี้เมื่อเทียบกับหลิ่วหมิงร่างปีศาจเขากลับด้อยกว่าอยู่ไม่น้อย แต่นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้แล้ว
ต่อจากนั้นหลิ่วหมิงท่องมนตร์อย่างไม่ลังเลสักนิด ไอหมอกสีเหลืองเข้มที่วนเวียนรอบร่างปั่นป่วนอยู่ชั่วพริบตาก่อนแผ่ขยายจากหนึ่งจั้งกว่ากลายเป็นสิบกว่าจั้ง พร้อมกับที่แสงกระบี่สีเทาสายหนึ่งพุ่งพรวดออกมาจากร่างของเขา มันทอแสงวูบหนึ่งก่อนจะกลายเป็นเงากระบี่สีเทามากมายเป็นผืน ล้อมเข้าหาหลิ่วหมิงร่างปีศาจอย่างมืดฟ้ามัวดิน
ดวงตาของหลิ่วหมิงร่างปีศาจทอแสงสีแดงฉานพลางคำรามเบาๆ เขายกมือขึ้น ทันใดนั้นแสงกระบี่สีดำสายหนึ่งก็พุ่งพรวดออกจากร่าง
หลิ่วหมิงที่อยู่กลางไอหมอกสีเหลืองเข้มเห็นเช่นนี้สีหน้าก็เคร่งเครียดทันที
แสงกระบี่สีดำทอแสงวูบหนึ่งแล้วกลายเป็นเงากระบี่สีดำผืนหนึ่งพาเสียงกระบี่ดังหวีดหวิวประจันหน้ากับเงากระบี่สีเทาที่รุมล้อมเข้ามา
แสงกระบี่สีเทากับสีดำสองสีโรมรันกันก่อนจะแตกสลายตามกันไป เสียงดั่งอสนีบาตคำรน พลังสูสีทัดเทียม
หลิ่วหมิงสีหน้าแปรเปลี่ยนไปมา แม้จะเลือนราง แต่สิ่งที่อยู่ในเงากระบี่สีดำนั่นก็คือกระบี่วิญญาณมืดแม่ลูก เพียงแต่รัศมีกระบี่มีแสงสีดำคลุมอยู่ชั้นหนึ่งจึงดูต่างออกไปเล็กน้อย
หากเป็นเช่นนี้หมายความว่าค่ายกลอนธการก่อเกิดไม่เพียงสร้างร่างที่คัดลอกระดับพลังและวิชามาทุกอย่าง แม้แต่อาวุธเวทที่ตัวก็เหมือนกันทุกประการด้วย
หลิ่วหมิงคิดถึงตรงนี้ สีหน้าก็ดำทะมึนอย่างสิ้นเชิง
แม้หลิ่วหมิงร่างปีศาจจะท่าทางเกรี้ยวกราด แต่ไม่ได้สูญเสียสติปัญญาไปแม้แต่น้อย เขาโบกมือส่งเคล็ดกระบี่สายหนึ่งออกมา เงากระบี่สีดำที่กระจุกอยู่ด้วยกันเปล่งแสงวูบหนึ่งก่อนจะบินกลับมาประสานเป็นหนึ่งอย่างว่องไว กลายเป็นเงากระบี่สีดำมหึมาขนาดหนึ่งร้อยจั้งเล่มหนึ่งวาดผ่านอากาศลงมาเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา