ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 1140

“เรื่องนี้เป็นจริงหรือ?” เทียนอินซ่างเหรินเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย

“จริงแท้แน่นอน” อวี้อินจื่อพยักหน้า

“จะว่าไปแล้ว หลิ่วหมิงผู้นี้หลังจากเข้าไปในทางปีศาจร้ายก็เงียบหายไร้ข่าวคราวไปหลายสิบปี ยามนี้จู่ๆ กลับมายังนิกาย ดูท่าพลังน่าจะก้าวหน้าไม่น้อย มิเช่นนั้นไยท่านประมุขเทียนเกอจึงถูกใจเขามากขึ้นทุกที แล้วยังส่งเขาไปทำภารกิจที่สำคัญเช่นนี้” เทียนอินซ่างเหรินแววตาเป็นประกายเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นแช่มช้า

“หลิ่วหมิงเพิ่งกลับคืนนิกายเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อรักษาความลับ ตอนนี้เรื่องนี้จึงยังไม่แพร่ออกไป มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่อง ศิษย์พี่อาจไม่รู้ เด็กคนนี้ตอนนี้ฝึกฝนจนบรรลุระดับแก่นแท้ขั้นกลางแล้ว อีกทั้งภารกิจครั้งนี้หาใช่ท่านประมุขเทียนเกอออกคำสั่ง แต่เป็นผู้อาวุโสเสวียนอวี๋แห่งนิกายเราเห็นความสามารถของเด็กคนนี้จึงออกคำสั่งภารกิจด้วยตนเอง” อวี่อินจื่อแลดูตื่นเต้นเล็กน้อย

“อะ…อะไรนะ! นี่เพิ่งจะกี่ปี เด็กคนนี้กลับฝึกฝนจนบรรลุระดับแก่นแท้ขั้นกลางแล้ว แล้วยังถูกใจผู้อาวุโสเสวียนอวี๋อีก!” เทียนอินซ่างเหรินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

เจียหลานที่ก้มหน้าอยู่ด้านข้างแม้ไม่เอ่ยวาจาแต่ในดวงเนตรงามฉายแววยินดี

“น้องก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อเช่นกัน ดูท่าหลายปีนี้หลิ่วหมิงผู้นี้คงจะได้โชควาสนาอะไรมาไม่น้อย” อวี้อินจื่อเอ่ยเหมือนคิดบางอย่าง

เทียนอินซ่างเหรินฟังแล้วก็นิ่งเงียบ สายตาแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ทราบว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่

“ท่านประมุขเทียนเกอกับผู้อาวุโสเสวียนอวี๋ล้วนเห็นคุณค่าของเขา หนทางเบื้องหน้าของหลิ่วหมิงผู้นี้ย่อมไร้ขีดจำกัด ศิษย์พี่ ตามที่พวกเราตกลงกับอินจิ่วหลิงเอาไว้ หากเจียหลานกับหลิ่วหมิงคนใดคนหนึ่งเข้าสู่ระดับแก่นแท้ก็จะจัดพิธีคู่รักฝึกฝนให้พวกเขา เรื่องนี้พวกเราต้องเอาใจใส่ให้มากหน่อย คว้าเอาไว้ให้มั่น” อวี้อินจื่อลดเสียงเบาลงแล้วเอ่ยชิดริมหูของเทียนอินซ่างเหริน

แม้เสียงเบา แต่เจียนหลานก็ยืนอยู่ด้านข้าง นางย่อมได้ยินทั้งหมด ใบหน้าแดงระเรื่อชวนให้คนลุ่มหลงทำให้ตัวนางยิ่งงดงามตราตรึง เมื่อรวมกับที่นางครอบครองร่างมายาสวรรค์อยู่แล้ว จึงทำให้ศิษย์ชายจำนวนไม่น้อยจากยอดเขาอื่นด้านข้างมองจนหลงละเมอเพ้อพก

“อืม แต่ด้วยพลังในตอนนี้ของหลิ่วหมิง เจียหลานคงเป็นฝ่ายหวังสูงสักหน่อย อีกประการหนึ่งอินจิ่วหลิงผู้นั้นก็เจ้าเล่ห์แสนกลดั่งภูตผีมาตลอด เรื่องนี้ไม่แน่อาจไม่เป็นดังที่คิด แต่ทุกสิ่งรอกวาดล้างแมลงต่างเผ่าเหล่านี้เสร็จแล้วค่อยว่ากันเถอะ” เทียนอินซ่างเหรินถอนหายใจ

อวี้อินจื่อฟังแล้วถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า

เจียหลานได้ยินคำพูดนี้ของเทียนอินซ่างเหริน ดวงหน้างามที่ก่อนหน้านี้แดงระเรื่อก็ซีดลง ความวิตกกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่อาจห้าม

“หลานเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล ข้าคิดว่าหลิ่งหมิงผู้นั้นจริงใจต่อเจ้า มิฉะนั้นยามนั้นคงไม่ลงมือสู้กับเวินเจินผู้นั้นเพื่อเจ้า ยามนี้เขาบรรลุระดับแก่นแท้ขั้นกลางแล้ว ดูจากสภาพนี้คิดว่าไม่นานก็คงจะเข้ากลุ่มศิษย์ลับ หลังจากสงครามครั้งนี้จบลง เจ้าต้องเป็นฝ่ายรุกสักหน่อย…” อวี้อินจื่อจับมือขาวผ่องของเจียหลาน ขณะที่มุมปากเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ กระซิบข้างหูนาง

เจียหลานฟังแล้ว ดวงหน้างามพลันแดงก่ำ

ทันใดนั้นเทียนเกอเจินเหรินที่อยู่บนผาก็ยกมือขึ้น แหวนสีน้ำเงินวงหนึ่งที่อยู่บนนั้นส่งเสียงดัง “ปัง” แล้วแตกกระจาย

ผู้ฝึกฝนระดับดาราพยากรณ์สามคนที่เหลือรอบข้างสังเกตเห็นสิ่งนี้ทันที สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปในทันใด

“ดี! ศิษย์หลานหลิ่วเล็ดลอดเข้าไปใกล้ทางเชื่อมมิติที่ยอดเขาแสงอัสดงสำเร็จแล้ว โจมตีเต็มกำลังทันที!” เทียนเกอเจินเหรินเผยสีหน้ายินดี หันไปสั่งทั้งสามคนที่เหลือ

ผู้เฒ่าชุดเทากับนักพรตหญิงชุดขาวพยักหน้าแล้วพลันกลายเป็นลำแสงสีเทาสายหนึ่งกับสีขาวสายหนึ่งเหาะออกไป เริ่มรวบรวมผู้อาวุโสกับศิษย์จากแต่ละยอดเขาของสำนักในกับศิษย์สายนอกมากมายที่อยู่ด้านหลัง

“เลี่ยหยาง ฝั่งเจ้าก็เริ่มเคลื่อนไหวเถอะ” เทียนเกอเจินเหรินหันไปเอ่ยกับจินเลี่ยหยาง

จินเลี่ยหยางพยักหน้า แสงสีทองสว่างวูบหนึ่ง ร่างกายก็หายไปไร้ร่องรอยในพริบตา

เทียนเกอเจินเหรินหยิบยันต์สื่อสารที่ทอแสงจิตวิญญาณสีแดงแผ่นหนึ่งออกมาพร้อมสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นยกจรดริมฝีปากที่กำลังพึมพำแผ่วเบา แล้วโบกมือส่งเคล็ดวิชาสายหนึ่งใส่ ยันต์ลุกไหม้เป็นเปลวเพลิงสีแดงฉานก่อนจะสลายหายไป

หลังจากนั้นคำสั่งก็ถูกถ่ายทอดลงไป ไม่นานศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์เกือบหมื่นคนก็เหาะขึ้นสู่ท้องฟ้าแทบจะในเวลาเดียวกัน

ในห้วงเวลานั้นผู้ฝึกฝนยืนเรียงรายบนท้องฟ้า เสียงพุ่งแหวกอากาศดังสนั่น ลำแสงหลากสีปรากฏละลานตา แทบจะบดบังท้องนภาไปเกินครึ่ง

ศิษย์สายในและสายนอกทั้งหมดที่นั่นเริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งไปยังยอดเขาแสงอัสดงอย่างทรงพลังดุดันภายใต้การนำของผู้ควบคุมยอดเขาและผู้อาวุโสของแต่ละคน

หลายชั่วยามให้หลัง ขณะที่ผู้คนจากนิกายยอดบริสุทธิ์ยังอยู่ห่างจากยอดเขาแสงอัสดงอีกหมื่นลี้ แมลงน้อยใหญ่รูปร่างต่างๆ นานาฝูงใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้า พวกมันกรีดร้องคำรามโถมเข้ามา จำนวนมีมากถึงแสนหลายหมื่นตัว

ผู้ที่เหาะอยู่ด้านหน้าศิษย์ทั้งหลายของนิกายยอดบริสุทธิ์คือผู้เฒ่าชุดเทากับนักพรตหญิงชุดขาวผู้ฝึกฝนระดับดาราพยากรณ์ทั้งสองคน พริบตาที่เหล่าแมลงปรากฏตัว พวกเขาก็ยกแขนขึ้นโบกไปด้านหน้าแรงๆ ครั้งหนึ่งพร้อมกันโดยไม่ได้นัด

เสียงหวีดหวิวดังขึ้นเป็นระลอก ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์ส่งลำแสงจากอาวุธจิตวิญญาณและวิชาเวทนับไม่ถ้วนโถมโจมตีเหล่าแมลงฝั่งตรงข้าม

ลำแสงสายแล้วสายเล่าพุ่งเร็วจี๋ออกมาจากกองทัพใหญ่ของเผ่าแมลงฝั่งตรงข้าม สองฝั่งปะทะกันอย่างรวดเร็วยิ่งนัก

เสียงระเบิดดังกึกก้องฟ้า!

ชั่วขณะหนึ่งท้องฟ้าระหว่างนิกายยอดบริสุทธิ์กับกองทัพเผ่าหนอนผีเสื้อมีแสงจิตวิญญาณกับประกายกระบี่หลากสีฟาดฟันตัดกันโกลาหล เทือกเขาสายน้ำบริเวณใกล้เคียงสั่นไหวรุนแรงไม่หยุด ประหนึ่งอึดใจต่อมาจะถล่ม

ทว่าสองฝั่งเห็นผลแพ้ชนะกันอย่างรวดเร็วอย่างยิ่ง เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์เก่งกาจกว่าแมลงเหล่านี้มากนัก การโจมตีที่เหล่าแมลงส่งออกมาทนอยู่ได้เพียงชั่วครู่ก็ถูกกลบทับ ลำแสงนับไม่ถ้วนแหวกผ่านท้องนภาร่วงลงท่ามกลางกองทัพแมลง เกิดฝนโลหิตกับสายลมคาวคลุ้งพัดมาเป็นระลอก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา