บึ๊ม!
น้ำในมหาสมุทรรอบด้านปั่นป่วนอย่างรุนแรง ผิวทะเลทั้งผืนเอียงเทลงมาทับเผ่าหนอนผีเสื้อหนวดสีขาวสลับดำ
เผ่าหนอนผีเสื้อหนวดสีขาวสลับดำสีหน้าย่ำแย่ยิ่งนัก แม้เป็นเพียงคำพูดกระท่อนกระแท่น แต่มันก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันคร่าวๆ แล้ว
กล่าวได้ว่าเผ่าหนอนผีเสื้อสูญเสียสถานการณ์ได้เปรียบไปแล้ว แต่มันย่อมไม่มีทางนิ่งเฉยรอความตาย มันคำรามลากยาว หนวดสองเส้นบนหัวตั้งตรง จากนั้นแสงสีดำสองสายพลันพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้า
ทว่าอึดใจต่อมา บึ๊ม!
น้ำทะเลที่โถมสูงบดบังท้องฟ้าซัดมาจากสี่ด้านแปดทิศ กลบบุรุษเผ่าหนอนผีเสื้อหนวดสีขาวสลับดำรวมถึงจินเทียนชื่อกับผู้เฒ่าชุดเทาทั้งหมดเข้าไปด้านใน
……
ลึกเข้าไปในถ้ำที่แสงมืดสลัวแห่งหนึ่ง แม่น้ำใต้ดินที่ไหลจากตะวันตกไปยังตะวันออกตัดผ่านถ้ำ ณ จุดหนึ่งเหนือสายน้ำที่ไหลแรงเชี่ยวกราก เงาสองสายเร่งรีบไล่ตามหลังกันผ่านไป
พวกเขาก็คือหลิ่วหมิงกับเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์เปลือกสีเลือดตัวนั้นเอง
หลังจากผนึกทางเชื่อมมิติที่เขาแสงอัสดงแล้ว ภารกิจที่เทียนเกอเจินเหรินมอบหมายก็เสร็จสิ้น เดิมเขาไม่คิดต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับเผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์ตัวนั้นด้านหลัง แต่เผ่าหนอนผีเสื้อเปลือกสีเลือดตัวนั้นเหมือนจะเคียดแค้นหลิ่วหมิงจึงไล่ตามติดไม่เลิกรา ไม่ว่าอย่างไรก็สลัดไม่หลุด
ยันต์เร้นสวรรค์สิ้นเงาเป็นยันต์ที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว ยามนี้จึงหมดฤทธิ์ไปนานแล้ว ไม่อาจช่วยเหลืออันใดหลิ่วหมิงได้อีก
“รนหาที่ตาย!”
หลิ่วหมิงหันกลับมามองเงาสีเลือดด้านหลัง จิตสังหารโหดเหี้ยมปรากฏลึกลงไปในดวงตา
ในเมื่อตะขาบเปลือกสีเลือดตัวนี้ไล่ตามไม่ลดละ เขาก็ไม่ถือสาหากจะฝังร่างอีกฝ่ายเสียที่นี่
เผ่าหนอนผีเสื้อระดับดาราพยากรณ์เปลือกสีเลือดคำรามแผ่วเบาคำหนึ่ง แสงสีเลือดบนร่างพลันสว่างจ้า แสงสีเลือดรอบตัวก่อตัวเป็นร่างแมลงซึ่งเป็นร่างจริง เป็นตะขาบดุร้ายเปลือกสีดำแดงตัวหนึ่ง แต่มีขาคู่หน้าเหมือนเคียวขนาดยักษ์สองข้างงอกออกมาแลดูแปลกประหลาด ด้านหลังมีหางกระดูกเส้นหนึ่งลากยาวเฟื้อย
ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายลดลงอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหนู ข้าจะฆ่าเจ้า…”
ตะขาบเปลือกสีเลือดเผยสีหน้าดุร้ายแล้วอ้าปากกว้าง ของเหลวสีเขียวที่แผ่กลิ่นเหม็นเน่าเจ็ดแปดก้อนพุ่งระรัวเข้าใส่หลิ่วหมิงอย่างมืดฟ้ามัวดิน
หลิ่วหมิงเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย ร่างกายเปล่งแสงสีเงินสว่างจ้า ปีกเนื้อสีเงินสองข้างงอกออกมาจากบนแผ่นหลัง ความเร็วเพิ่มขึ้นไม่น้อยเช่นกัน ร่างกายขยับวูบเดียวหลบพ้นของเหลวสีเขียวอย่างฉิวเฉียด
ฉ่า!
ของเหลวสีเขียวร่วงใส่ผนังถ้ำละลายเกิดรูหลายแห่งขึ้นในพริบตา ควันสีเทาลอยขึ้นมาพร้อมกลิ่นเหม็นคาวชวนสะอิดสะเอียน
แม้หลิ่วหมิงใช้เคล็ดวิชาเกราะอสูรเพิ่มความเร็ว แต่ในสภาพแวดล้อมใต้ดินที่มีสิ่งกีดขวางมากมายเช่นนี้ เห็นชัดว่าเอื้อประโยชน์ให้การไล่ล่าของตะขาบเปลือกสีเลือดมากกว่า
เมื่อเห็นอีกฝ่ายไล่กวดใกล้เข้ามาทุกที หลิ่วหมิงพลันขมวดคิ้ว ร่างกายที่เหาะอยู่ลดระดับลงก่อนจะบินเลียดสายน้ำมุ่งไปด้านหน้า
ตะขาบเปลือกสีเลือดเห็นพิษสีเขียวที่พ่นออกมาทำร้ายหลิ่วหมิงไม่ได้แม้แต่น้อย เพลิงโทสะพลันลุกโชน พ่นของเหลวสีเขียวหลายก้อนออกมาอีกครั้ง
ปีกเนื้อบนแผ่นหลังของหลิ่วหมิงกระพือติดกันหลายหน ร่างกายขยับวูบ เหาะเลี้ยวเจ็ดแปดตลบหลบพ้นมาได้
ก้อนของเหลวสีเขียวพลาดเป้าร่วงหล่นลงไปในสายน้ำ ทันใดนั้นผิวน้ำพลันส่งเสียงดังปุดๆ น้ำในแม่น้ำเสมือนหนึ่งน้ำเดือด ฟองอากาศลอยผุดพรายอยู่พักหนึ่ง
หลิ่วหมิงครุ่นคิดเร็วไว ขณะมองสำรวจสภาพแวดล้อมรอบด้านไม่หยุด
ในตอนนี้เองสายน้ำด้านหน้าจู่ๆ ก็หดแคบลง เขาจำได้เลาๆ ว่าที่ตรงนี้คือโค้งขนาดใหญ่ยักษ์แห่งหนึ่งของแม่น้ำใต้ดิน “ฟึบ” เสียงดังขึ้นทันที พร้อมกับที่เขากลายเป็นเงาเลือนรางสีเงินสายหนึ่งมุดเข้าไปใต้ผืนน้ำ
ตะขาบเปลือกสีเลือดไม่ได้ไล่ตามลงไปในแม่น้ำใต้ดินทันที มันกรีดร้องครั้งหนึ่ง จากนั้นขาหน้ามหึมาพลันตวัด คมดาบสายลมสีเลือดขนาดเท่าบานประตูนับไม่ถ้วนพุ่งพรวดร่วงลงในแม่น้ำดุจสายฝน
บึ๊ม!
แม่น้ำใต้ดินฉับพลันเดือดพล่าน คลื่นน้ำลูกยักษ์สาดกระเซ็นระลอกแล้วระลอกเล่า
ตอนนี้เองวังน้ำวนมหึมาสิบกว่าลูกพลันปรากฏในแม่น้ำใต้ดิน
อึดใจต่อมา เสาน้ำมหึมาสิบกว่าต้นฉับพลันพุ่งขึ้นมาจากแม่น้ำใต้ดินประหนึ่งหนวดมหึมาเส้นแล้วเส้นเล่าหวดเข้าใส่ตะขาบเปลือกสีเลือดบนอากาศอย่างแรง
ใต้ดินพื้นที่คับแคบ ตะขาบเปลือกสีเลือดร่างกายใหญ่โตจึงหลบไม่พ้นทั้งหมด ร่างกายมหึมาถูกเสาน้ำโจมตี แม้ไม่บาดเจ็บ แต่ก็สะท้านจนถอยหลังหลายก้าว
ยังไม่ทันที่มันจะตั้งหลักได้ เสียงมังกรกู่ร้องพยัคฆ์คำรามพลันดังขึ้นใต้ผืนน้ำ มังกรสีดำยาวยี่สิบกว่าจั้งหกตัวกับพยัคฆ์สีดำขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกันหกตัวทะลวงขึ้นมาจากแม่น้ำรอบตัวมัน พวกมันพร่าเลือนหายไปก่อนจะโถมเข้าใส่ตะขาบเปลือกสีเลือด
ตะขาบเปลือกสีเลือดโกรธจัด รอบร่างเปล่งแสงสีเลือดสว่างจ้า หางยาวเฟื้อยที่หุ้มด้วยเปลือกสีเลือดสะบัดกลายเป็นเงาเลือนรางเต็มท้องฟ้า หวดเข้าใส่ร่างของมังกรหมอกกับพยัคฆ์หมอกรอบด้านปานสายฟ้าแลบ
มังกรหมอกกับพยัคฆ์หมอกร้องโหยหวนครั้งหนึ่ง ร่างกายก็แตกสลายเสียงดังสนั่นกลายเป็นปราณดำสายแล้วสายเล่า
ทว่าปราณดำเหล่านี้กลับรวมตัวเกาะกลุ่มล้อมตะขาบเปลือกสีเลือดไว้ด้านใน
“คุกมืด”
หลิ่วหมิงขยับวูบเดียวมาปรากฏตัวด้านหลังตะขาบเปลือกสีเลือดประหนึ่งภูตพราย แล้วโบกมือส่งเคล็ดวิชาหลายสายออกไป ไอหมอกสีดำฉับพลันเปล่งแสงสีดำฉายออกมาจากด้านใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา