ศิษย์ผู้นั้นเห็นสถานการณ์พลันมีสีหน้าตกตะลึง ในเวลาเดียวกันก็สะบัดแขนเสื้อ กระบี่บินสีฟ้าหลายเล่มแหวกว่ายประหนึ่งมัจฉาออกมาจากแขนเสื้อของเขากลายเป็นม่านกระบี่สีฟ้าผืนหนึ่งขวางอยู่เบื้องหน้า
ปรากฏว่าหนวดเนื้อหลายสิบเส้นบนร่างแมลงสีเทาเข้มกวาดเพียงครั้งเดียวก็ยืดยาวขึ้นหลายเท่าทะลวงผ่านม่านกระบี่ ใช้ความเร็วอันน่าเหลือเชื่อรัดศิษย์ยอดเขากระบี่สวรรค์ผู้นั้นเข้าปากไปในทันใด
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาจากปากแมลงสีเทาเข้ม แล้วเงียบหายไปในทันใด
“ศิษย์น้องฉิน!”
บนท้องฟ้าห่างออกไป บุรุษวัยกลางคนจากยอดเขากระบี่สวรรค์อีกคนหนึ่งคำรามเกรี้ยวกราด ทว่าเผชิญหน้ากับแมลงระดับดาราพยากรณ์ตัวหนึ่ง เขาย่อมไม่กล้าพุ่งเข้าไปรนหาที่ตาย
ศิษย์นิกายยอดบริสุทธิ์คนอื่นเห็นสถานการณ์นี้ต่างตกตะลึงหน้าถอดสี
เจียหลานสีหน้าซีดเผือด!
ยามนี้นางอยู่ห่างจากไส้เดือนตัวนี้ไม่ถึงยี่สิบสามสิบกว่าจั้ง
ลมปราณที่ซัดสาดจากบนร่างแมลงโถมเข้ากดดันทำให้สตรีผู้นี้หนาวยะเยือกในใจอย่างห้ามไม่ได้ ทำได้เพียงยกแขนเสื้อเรียกผ้าแพรสีฟ้าผืนหนึ่งออกมาล้อมรอบร่างแล้วถอยห่างอย่างรวดเร็ว
ไส้เดือนหันหัวมามองเจียหลานที่กำลังเหาะออกไปไกลแล้วอ้าปากกว้าง พายุหมุนสีดำลูกหนึ่งฉับพลันปรากฏขึ้นในปาก แรงสูบที่มิอาจต่อต้านสายหนึ่งพัดออกมาจากด้านใน
ลำแสงของเจียหลานหยุดอยู่กลางท้องฟ้า แม้นางจะกัดฟันกรอดกระตุ้นพลังเวททั่วร่าง แต่ร่างกายก็ยังคงลอยเข้าไปหาปากของไส้เดือนอย่างมิอาจควบคุมได้ นางหลุดร้องหวาดผวาออกมาอย่างมิอาจห้ามตัวเองได้
ในตอนนี้เองแสงสีดำพลันโฉบเข้ามา ร่างของหลิ่วหมิงเหาะตัดผ่านหน้าไส้เดือนอย่างรวดเร็ว แขนขวาที่มีปราณสีดำวนเวียนโอบเรือนร่างอรชรของเจียหลานจากนั้นหายตัวไปปรากฏกายห่างออกไปหลายสิบจั้ง
แรงดูดอันน่าหวาดหวั่นที่ออกมาจากปากของไส้เดือนระดับดาราพยากรณ์แทบจะไม่มีผลกับเขาเลยแม้แต่น้อย!
เดิมทีดวงเนตรงามของเจียหลานฉายแววสิ้นหวัง อึดใจต่อมากลับถูกหลิ่วหมิงโอบไว้ในอ้อมแขน เรือนร่างอรชรสั่นระริกแล้วอ่อนยวบไปเล็กน้อยทันที
กี๊ซ!
ไส้เดือนระดับดาราพยากรณ์คำรามเกรี้ยวกราด มีคนฉกอาหารที่มาถึงปากไปใต้หนังตาของมัน แล้วอีกฝ่ายยังเป็นเพียงผู้ฝึกฝนระดับแก่นแท้กระจอกๆ คนหนึ่ง เรื่องนี้มันยอมรับไม่ได้เด็ดขาด ร่างกายมหึมาเลือนหายไปทันที ก่อนจะโผล่ออกมาด้านหลังหลิ่วหมิงห่างไปเพียงสิบกว่าจั้ง ความเร็วว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ
“ฟึบ ฟึบ!”
หนวดเนื้อสีเทาหลายสิบเส้นรอบร่างของแมลงยักษ์ฉับพลันดีดยืดยาวออกมาหลายเท่า ทำท่าจะทะลุผ่านร่างของหลิ่วหมิงขณะที่เขาไม่ทันตั้งตัว
“ปัง!” เสียงดังสนั่นดังขึ้นครั้งหนึ่ง
มุกยักษ์สีเหลืองเข้มขนาดเท่าตึกปรากฏขึ้นหลังร่างของหลิ่วหมิง ผิวของมันเปล่งแสงสว่างจ้าทำให้ความเร็วของหนวดเนื้อสีเทาเชื่องช้าลงก่อนที่พวกมันจะทยอยหวดลงมา มุกบรรพตธารานั่นเอง
พลังมหาศาลสายหนึ่งส่งผ่านมาจากมุกบรรพตธารา ร่างของหลิ่วหมิงสะท้านแผ่วเบา แต่กายเนื้อยามนี้ของเขาแข็งแกร่งอย่างยิ่งจึงไม่ได้รับผลกระทบเท่าใด เขาหันกลับไปมองไส้เดือนระดับดาราพยากรณ์แล้วโบกมือข้างหนึ่ง
“บึ๊ม!”
ผิวของมุกบรรพตธาราระเบิดไอหมอกสีเหลืองเข้มสายหนึ่งออกมาล้อมร่างกายของเขากับเจียหลานเอาไว้ ไอหมอกสีเหลืองปั่นป่วนอยู่ครู่หนึ่งก็หายไปไร้ร่องรอย ก่อนที่อึดใจต่อมาจะปรากฏห่างออกไปร้อยจั้ง
ไส้เดือนดวงตาทอประกายดุร้าย กำลังจะโจมตีหลิ่วหมิงอีกครั้ง ทว่าทันใดนั้นอากาศเหนือหัวของมันก็สั่นไหว วงล้อกลมสีทองวงหนึ่งปรากฏขึ้นแล้วหมุนเร็วไวร่วงลงมาพร้อมกับคมดาบแสงสีทองนับไม่ถ้วนฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรง
วิ้ง!
ไส้เดือนอ้าปากพ่นลำแสงสีเทาหนาเส้นหนึ่งออกมาอีกครั้ง มันปะทะกับวงล้อสีทองเกิดเสียงดังกัมปนาท
วงล้อสีทองครวญครางครั้งหนึ่งก็ถูกโจมตีปลิวออกไปในครั้งเดียว
คุนอวี้ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าไม่ไกลหน้าซีด จากนั้นเขาจึงแค่นเสียงหยัน อ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์คำหนึ่งผสานเข้าไปในวงล้อสีทอง พร้อมกับที่มือส่งเคล็ดวิชาหลายสายออกมาปานสายฟ้าแลบ
วงล้อสีทองส่งเสียงอื้ออึงพร้อมกับเปล่งแสงสว่างจ้าทันที มันเปล่งแสงวูบหนึ่งแล้วกลายเป็นวิหคยักษ์สีทองขนาดสิบกว่าจั้งตัวหนึ่งกางปีกสองข้างพาคมดาบแสงสีทองนับไม่ถ้วนโถมเข้าใส่ไส้เดือนอย่างดุดันทรงพลัง
พวกซ่างกวนเยียนอวี่ที่อยู่ห่างออกไปในที่สุดก็ได้สติ หลังจากทยอยตั้งหลักได้ก็ส่งการโจมตีมาจากไกลๆ
ห่วงพยัคฆ์คำรามในมือซ่างกวนเยี่ยนอวี่เปล่งแสงสีแดงฉาน คลื่นเสียงสีแดงฉานหนาหนึ่งจั้งกว่าลูกหนึ่งพุ่งเข้าโจมตีไส้เดือนเสียงดังสนั่น
หลิงอีอีไม่ได้ใช้พลังเรียกเส้นไหมเรียวเล็กสีฟ้าออกมาอีก แต่เรียกอาวุธเวททรงดอกบัวสีฟ้าสองดอกออกมา กลีบบุปผานับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากด้านในพร้อมกับแผ่ไอเย็นที่ชวนให้คนหวาดหวั่น
หลงเหยียนเฟยสะบัดแขนเสื้อ แสงกระบี่สีเงินอันดุดันสายหนึ่งซัดออกมาแล้วหายวับไป ชั่วอึดใจต่อมาก็เกิดระลอกคลื่นไม่ไกลด้านหน้าของไส้เดือน จากนั้นเส้นสีเงินเส้นหนึ่งพลันปรากฏขึ้น กระบี่บินยาวเรียวสีเงินเล่มหนึ่งเผยโฉมพร้อมแผ่ไอจิตวิญญาณอันน่าตกตะลึง ก่อนจะฟันลงมาอย่างรุนแรง
เผชิญหน้ากับการโจมตีมากมายเช่นนี้ ไส้เดือนกลับไม่หวาดกลัว แสงสีเทาบนร่างเปล่งแสงสว่างจ้า ฉับพลันก่อตัวเป็นเงาไส้เดือนสีเทาขนาดหลายสิบจั้งเป็นทิวแถวอ้าปากพ่นเมฆสีเทาขมุกขมัวผืนหนึ่งออกมา
ทันทีที่การโจมตีของทุกคนสัมผัสถูกเมฆสีเทาก็คล้ายจมลงในบึงโคลน พวกมันเชื่องช้าลงอย่างรวดเร็ว
ทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างสูดลมหายใจดังเฮือก
คลื่นเสียงที่ซ่างกวนเยี่ยนอวี่ส่งมากับกลีบบุปผาสีฟ้าของหลิงอีอีจมหายเข้าไปในเมฆสีเทาราวกับถูกเมฆสีเทากลืนกิน ไม่เกิดคลื่นสั่นไหวใดทั้งสิ้น การโจมตีของศิษย์คนอื่นยิ่งไม่ได้ผลเสียยิ่งกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา