ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 117

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 117 หญ้าลอยฟ้ากับตะขาบ
ตอนที่ 117 หญ้าลอยฟ้ากับตะขาบ
โดย
Ink Stone_Fantasy
ผลึกหินไม้นี้ทีมูลค่าสูงมาก จัดอยู่ในอันอันดับต้นๆ ของผลึกหินที่อยู่ในธาตุทั้งห้าเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูกพืชจิตวิญญาณ หรือการรักษาโรค ต่างก็ต้องใช้ผลึกหินไม้นี้เป็นจำนวนมาก แต่ปริมาณผลึกหินธาตุไม้ มีน้อยกว่าผลึกหินธาตุอื่นๆ ที่อยู่ในธาตุทั้งห้ามาก

ผลึกหินไม้ระดับต่ำหนึ่งก้อนสามารถขายในโลกภายนอกได้หินจิตวิญญาณถึงยี่สิบก้อน ถ้าหากเป็นผลึกหินไม้ระดับกลางล่ะก็ มูลค่ามันเพิ่มมากขึ้นถึงยี่สิบเท่าก็ไม่ใช่เรื่องอันน่าแปลกใจแต่อย่างใด

ด้วยเหตุนี้หลิ่วหมิงก็ไม่ลังเลที่จะพลิกฝ่ามือนำกระบี่สั้นสีเขียวเล่มนั้นออกมา จากนั้นก็ส่งพลังเวทย์เข้าไปก่อนที่จะปล่อยลำแสงสีเขียวครั่นคร้ามกรีดลงไปบนพื้นด้านหน้า

เมื่อพื้นดินถูกลำแสงสีเขียวฟาดผ่านไป มันก็แยกออกอย่างง่ายดายราวกับก้อนเต้าหู้

มืออีกข้างของหลิ่วหมิงคว้าไปในอากาศ และยกขึ้น ดินก้อนขนาดเท่าอ่างล้างหน้าก็ถูกโยนออกไปด้านนอกโพรงไม้

ขณะเดียวกันแมงป่องกระดูกขาวก็ใช้ก้ามทั้งสองช่วยนายของมันขุดพื้นดินบริเวณนั้นอยู่ไม่หยุด

หนึ่งชั่วยามต่อมา ทางตรงดิ่งยาวยี่สิบกว่าจั้งได้ปรากฏอยู่ในโพรงไม้ ดินบริเวณด้านนอกกองรวมกันจนกลายเป็นเนินดินเล็กๆ

แมงป่องกระดูกขาวหยุดการขุดดินในฉับพลัน หลังจากที่มันบิดตัวก็มุดลงไปด้านล่างท่ามกลางไอสีเขียว

ตาทั้งสองของหลิ่วหมิงเป็นประกาย แสงเย็นสะท้านของกระบี่สั้นสีเขียวในมือกรีดลงไปบนพื้นอีกครั้ง จนเกิดเสียงดัง “เปรี๊ยะๆ!” ด้านล่างไม่ใช่ดินที่อ่อนร่วนอีกต่อไป แต่เป็นชั้นหินหนาๆ

เขากระตุ้นกระบี่สั้นในมือฟันลงไปข้างล่างต่อโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเบาโหวงแล้วร่างของเขาก็หล่นลงไปในทันที

ด้านล่างเป็นถ้ำหินธรรมชาติที่มีขนาดไม่เกินสิบกว่าจั้งเท่านั้น แต่บนผนังหินสีขาวเทาพื้นผิวไม่สม่ำเสมอกลับมีผลึกหินสีเขียวอ่อนกับผลึกหินที่ไม่ทราบชื่อสีอื่นๆ ฝังเลี่ยมอยู่

ส่วนของมันที่ยื่นออกมาจากมีขนาดใหญ่สุดเท่ากำปั้น ขนาดเล็กสุดเท่ากับเมล็ดถั่วขณะเดียวกันถ้ำทั้งแห่งล้วนตลบอบอวลไปด้วยพลังแห่งชีวิต

หลิ่วหมิงมองออกไปด้วยความดีใจ และขณะที่กำลังจะเดินไปตรวจดูที่ผนังหินนั้น พลันได้กลิ่นไออันเข้มข้นของพืชจิตวิญญาณโชยเข้ามาในจมูก หลังจากที่กวาดตามองก็พบหญ้าสีเขียวหยกต้นเล็กๆ ที่มุมหนึ่งของถ้ำ มันสูงแค่สองชุ่นเท่านั้น แต่มันดูคล้ายกับจะโปร่งแสง และถูกไอหมอกสีขาวน้ำนมปกคลุมไว้

“หญ้าลอยฟ้า”

หลังจากที่หลิ่วหมิงพอจะมองออก และจำหญ้าต้นนี้ได้ ก็พูดออกมาด้วยความตกใจระคนดีใจ

เขารีบหยิบคัมภีร์รวมวัตถุจิตวิญญาณเล่มนั้นออกมาจากอก หลังจากเปิดดูเพียงชั่วครู่ก็เจอรูปในคัมภีร์ที่มีลักษณะคล้ายกันไม่มีผิด

“หญ้าลอยฟ้า หญ้าจิตวิญญาณธรรมชาติที่พบเจอได้น้อยมาก มันขึ้นแค่ในพื้นที่ที่มีปราณไม้เข้มข้นเท่านั้น ทานแบบสดๆ จะทำให้ตัวเบาเหมือนนกนางแอ่น ขจัดพิษชะล้างใจ ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงโอสถจักษุม่วง ผงชะล้างใจ…เป็นต้น โดยมีวิธีการแยกแยะดังนี้…”

หลังจากที่หลิ่วหมิงอ่านดูคำแนะนำบนรูปภาพอย่างรวดเร็วแล้ว ก็เอามาเทียบกับหญ้าสีเขียวหยกตรงมุมถ้ำ เมื่อเห็นมันเหมือนกันอย่างไม่มีผิด เขาก็รีบเดินเข้าไปอย่างไม่ลังเล และก้มลงไปพร้อมกับใช้นิ้วสัมผัสมันเบาๆ

ไอเย็นแผ่ขึ้นมาบนปลายนิ้ว!

เขาคว้ามือไปดูดไอหมอกบริเวณหญ้าต้นนั้นมาดมเบาๆ กลิ่นหอมจรุงใจโชยเข้าจมูกของเขา ขณะเกียวกันเขาก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา

“ไม่เลว เหมือนที่บรรยายไว้ไม่มีผิด มันจะต้องเป็นหญ้าลอยฟ้าอย่างแน่นอน! ของดีเช่นนี้ถึงแม้จะสามารถใช้ปรุงโอสถได้ แต่ก็ไม่อาจนำออกไปด้านนอกได้” หลิ่วหมิงกล่าวพึมพำแล้วก็ถอนหญ้าจิตวิญญาณขึ้นมาจากพื้นด้วยตาที่เป็นประกาย จากนั้นก็ใช้หยดน้ำกลมๆ ลูกหนึ่งทำความสะอาดมันเล็กน้อย แล้วใส่เข้าไปในปากทันที

หญ้าเล็กๆ สีเขียวหยกที่เดิมทีคิดว่าทานยาก แต่ทันทีที่มันสัมผัสโดนกับลิ้นก็กลายเป็นของเหลวที่มีรสหวานไหลผ่านคอไป

เขาอ้าปากค้าง ไม่คิดว่ามันจะมีรสชาติเอร็ดอร่อยติดปากขนาดนี้ แต่พอเขายืดแขนยืดขาและกระโดดไปมาสองสามทีแล้วไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดูผิดปกติแต่อย่างใด

ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงของหญ้าลอยฟ้าคงจะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ และคงไม่เห็นผลในฉับพลัน

ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ หลิ่วหมิงก็ค่อนข้างพอใจเป็นอย่างมาก

ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าหญ้าจิตวิญญาณแบบนี้จะขายได้เหรียญจิตวิญญาณจำนวนกี่ก้อน แต่ในเมื่อในคัมภีร์บอกว่าเป็นสิ่งที่พบเจอได้น้อยมาก แสดงว่ามันคงมีมูลค่ากว่าที่คิดไว้มาก

หลังจากที่เขานึกถึงรสหอมหวานในปากแล้วก็คิดที่จะสำรวจดูผลึกหินบนผนังรอบด้าน ทันใดนั้นแมงป่องกระดูกขาวก็ส่งเสียงร้องแปลกๆ ออกมา จากนั้นมันก็ชูก้ามทั้งสองไปยังผนังหินทำท่าทางราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ

หลิ่วหมิงรีบมองไปยังผนังหินฝั่งนั้นด้วยความตกใจ ตอนนี้เขาเพิ่งค้นพบว่าบนผนังหินมีร่องยาวหลายฉื่อ และมีไอหมอกสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากในนั้น

“นี่คือ…”

หลังจากที่เขาฉุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และยังไม่ทันเตรียมตัวรับมือใดๆ ก็พลันรู้สึกวิงเวียนศีรษะ และมีกลิ่นคาวจางๆ โชยมา

“มีพิษ”

หลิ่วหมิงหลุดปากพูดออกมา จากนั้นก็กลั้นลมหายใจไว้ก่อนที่จะถอยร่างออกมาในทันที ขณะเดียวกันก็หยิบขวดสีเขียวหยกเล็กๆ ออกมาจากอกหนึ่งขวด และเทโอสถสีแดงออกมาหนึ่งเม็ดใส่เข้าไปในปาก

ตอนนี้เขาถึงรู้สึกว่าอาการวิงเวียนศีรษะลดลงไปบ้างแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา