ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 144

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 144 ต่อสู้กับมังกร (3)
ตอนที่ 144 ต่อสู้กับมังกร (3)
โดย
Ink Stone_Fantasy
หัวมังกรขนาดใหญ่อ้าปากในทันที มันพ่นคลื่นเสียงไร้รูปเข้าใส่แมงป่องกระดูกขาวที่กำลังกระโจนเข้ามา

พอแมงป่องกระดูกขาวปะทะกับคลื่นเสียงนี้ ร่างของมันก็ค่อยๆ หยุดชะงักอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็ถูกพลังมหาศาลโจมตีจนเด็นถอยกลับไป

และโซ่ยาวสีเงินที่กำลังสะบัดล้อมตัวสัตว์ประหลาดอยู่นั้นก็พร่ามัวขึ้นมาในทันที เงาโซ่ตัดสลับกันจนกลายเป็นตาข่ายเงินขนาดใหญ่เพื่อรองรับจันทราสีเขียว

หลังจากที่จันทราสีเขียวอันดุดันจมเข้าไปในตาข่ายแล้ว มันก็หมุนในอยู่ในนั้นอย่างบ้าคลั่ง เสียงของโลหะเสียดสีกันดังออกมา

และในขณะนั้นเอง แสงสีฟ้าที่อยู่ไกลๆ ก็เปล่งประกายขึ้น แท่งวารียักษ์เองก็ได้มาถึงด้านหน้าของสัตว์ประหลาดแล้ว

หัวมังกรขนาดใหญ่ส่งเสียงคำรามออกมา และยังพ่นเปลวไฟสีแดงอันคุโชนไปปะทะกับแท่งวารียักษ์เข้าพอดี

พอเปลวไฟสีแดงกับแท่งวารีปะทะกัน ก็เกิดเสียงแหลมดังขึ้น แสงสีฟ้าผสมปนเปกับเปลวไฟสีแดงจนกลายเป็นพายุบ้าระห่ำพุ่งขึ้นฟ้าไป และขณะเดียวกันก็ปล่อยกลิ่นไอที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงตัดสลับกันออกมา

ขณะนี้ ตาข่ายเงินที่มีจันทราสีเขียวหมุนวนอยู่ในนั้นอย่างบ้าคลั่ง กลับแสดงท่าทีราวกับว่าไม่สามารถรับมือได้แล้ว เพียงแค่เห็นแสงเย็นสะท้านเปล่งประกายอยู่ในนั้น ตาข่ายเงินขนาดใหญ่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง บางแห่งก็ไม่มีแสงเปล่งประกายแล้ว

สัตว์ประหลาดครึ่งมังกรเห็นเช่นนี้ก็ค่อยๆ หรี่ตาลง และหัวมังกรตรงด้านหลังกลับแผดเสียงร้องยาวออกมา หลังจากที่ร่างของมันดูพร่ามัว คาดไม่ถึงว่ามันจะกลายเป็นสัตว์ขนาดใหญ่มหึมา หลังจากที่มันอ้าปากในฉับพลัน มันก็กลืนจันทราสีเขียวและตาข่ายเงินเข้าไปทั้งหมด

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ย่อมตกใจเป็นอย่างมาก แต่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาทำท่ามือและพ่นคำว่า “ระเบิด” ออกมา

เสียงดัง “ตู้ม!”

จันทราสีเขียวระเบิดตัวในปากของหัวมังกร ภายใต้แสงเย็นสะท้านที่เปล่งประกาย ปราณกระบี่สีเขียวเกือบร้อยสายก็ม้วนตัวออกมา

ตาข่ายเงินกับหัวมังกรต่างก็กะพริบแสงอยู่ไม่หยุด ครู่เดียวก็ถูกปราณกระบี่เหล่านี้โจมตีจนพังยับเยิน

ในบัดดลนั้น ปราณกระบี่ส่วนหนึ่งก็เปล่งแสงเย็นสะท้านออกมา แล้วฟันเข้าใส่สัตว์ประหลาดครึ่งมังกร

ในขณะนั้นเอง สัตว์ประหลาดที่อยู่ด้านล่างก็มีสีหน้าเดือดดาลขึ้นมา มันขยับแขนทั้งสองจนดูพร่ามัวในฉับพลัน จากนั้นก็กลายเป็นเงากรงเล็บจำนวนมากคว้าขึ้นไปเต็มฟ้า

ไม่คาดคิดว่ามันจะฟื้นฟูการเคลื่อนไหวได้แล้ว!

เสียงสะเทือนเลือนลั่นดังติดต่อกัน!

ปราณกระบี่จำนวนมากถูกกรงเล็บสีแดงโจมตีจนสลายไป ถึงแม้จะมีไม่กี่สายที่ตกลงบนร่างของสัตว์ประหลาดครึ่งมังกร แต่ก็มันก็ตั้งรับโดยไม่เป็นอะไรเลย

หลิ่วหมิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้สีหน้าเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

ตอนนี้สัตว์ประหลาดครึ่งมังกรถึงได้หันหน้ามามองหลิ่วหมิวพร้อมกับแสยะยิ้ม มันขยับขาทั้งสองราวกับว่าจะเดินเข้ามาหา

แต่เรื่องที่เหนือความคาดหมายก็ได้ปรากฏขี้น

สัตว์ประหลาดครึ่งมังกรเพิ่งจะเดินออกมาได้ก้าวเดียวก็ขาอ่อนล้มลงไป

ถ้าไม่ใช่ว่ามันมือตาไวใช้แขนค้ำยันพื้นไว้ได้ภายในพริบตาล่ะก็ เกรงว่าคงจะล้มลงไปบนพื้นแล้ว แต่ครู่เดียวก็มีไอสีดำจางๆ ปกคลุมหน้ามันไว้

และรูเล็กๆ บนต้นขาของสัตว์ประหลาดในตอนนี้ก็กลายเป็นสีดำม่วงขึ้นมา

ในที่สุดพิษอันรุนแรงจากหางตะขอของแมงป่องกระดูกขาว ก็ปรากฏผลลัพธ์ออกมา

นี่เป็นเพราะว่าร่างกายของสัตว์ประหลาดครึ่งมังกรสามารถต้านทานพิษได้สูงมาก ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่โดนพิษนี้ล่ะก็พิษมันคงแสดงผลตั้งนานแล้ว

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ย่อมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขาชี้มือข้างหนึ่งไปยังด้านหน้าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง จากนั้นก็ทำท่ามือด้วยมือเดียว

เสียงดัง “เพล้ง!”

พายุบ้าระห่ำสีขาวโพลนที่ควบทั้งลมร้อนและลมเย็น ทั้งยังมีแท่งวารียักษ์เหลืออยู่ในนั้นครึ่งหนึ่ง หลังจากที่มันระเบิดออกมา ไอเย็นสะท้านก็แผ่ออกมามากขึ้นกว่าเดิม แสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นในนั้น คาดไม่ถึงว่าแท่งวารีเล็กขนาดยาวครึ่งฉื่อจะพุ่งยิงออกมาราวกับสายฟ้าแลบ ครู่เดียวมันก็มาถึงด้านหน้าสัตว์ประหลาดครึ่งมังกร

เห็นได้ชัดว่าการโจมตีนี้เหนือความคาดหมายของสัตว์ประหลาดมาก แต่พอมันคำรามเสียงออกมา แขนอีกข้างที่เหลือที่พร่ามัวไปคว้าเอาแท่งวารีที่อยู่ห่างกันแค่ลัดนิ้วมือเดียวได้ จากนั้นเขาก็ออกแรงที่นิ้วทั้งห้าเพื่อบีบแท่งวารีให้แหลกละเอียด

แต่ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงดัง “ฟิ้ว!” ดังมาจากปลายด้านหน้าของแท่งวารี หนามสีเขียวหยกพุ่งยิงออกมาจากในนั้น มันเจาะทะลุใจกลางหน้าผากของสัตว์ประหลาด จากนั้นก็หมุนวนหนึ่งรอบก่อนที่จะเจาะเข้าที่หูข้างหนึ่ง และทะลุออกไปยังอีกข้างหนึ่ง

สัตว์ประหลาดครึ่งมังกรส่งเสียงร้องอย่างเวทนา สีหน้าดุร้ายก็ชะงักงันในชั่วพริบตา จากนั้นก็ตัวอ่อนยวบยาบล้มลงพื้นด้วยเสียงดัง “ตุ้บ!”

เลือดสีดำไหลพรั่งพรูออกมาจากหน้าผากและรูหูทั้งสองข้าง

พอเกิดเสียงดังหวึ่งๆ บนอากาศลำแสงสีเงินก็ดับไป จากนั้นมันก็กลายเป็นโซ่ปราบปีศาจก่อนที่จะร่วงลงมา

และหลังจากที่หัวมังกรส่งเสียงร้องเวทนาออกมาแล้ว มันก็กลายเป็นจุดสีแดงๆ ก่อนที่จะสลายไป

ส่วนกระบี่สั้นสีเขียวกลับถูกหลิ่วหมิงควบคุมอยู่ที่ไกลๆ ในบัดดลนั้นมันก็หมุนติ้วๆ กลายเป็นจันทราสีเขียวฟันลงมา

แสงเย็นสะท้านได้เปล่งประกายขึ้น ปีศาจอสูรครึ่งมังกรบนพื้นถูกแสงเย็นสะท้านฟันออกเป็นสองส่วน ดูท่าครั้งนี้คงจะตายอย่างแน่นอนแล้ว

หลิ่วหมิงพ่นหายใจออกมายาวๆ เขากวักมือข้างหนึ่งไปยังที่ไกลๆ จันทราสีเขียวกลายเป็นเป็นกระบี่สั้นสีเขียวพุ่งเข้ามาอีกครั้ง และบนอากาศอีกด้านหนึ่ง หนามหยกก็เปล่งประกายแสงออกมาก่อนที่จะพุ่งกลับมาเช่นกัน

มันคือเข็มเงาหยกเล่มนั้นนั่นเอง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา