สรุปตอน ตอนที่ 179 – จากเรื่อง ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet
ตอน ตอนที่ 179 ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
คนผู้นี้ก็คือเฉียนเชาเจ้าของจวนเฉียนนั่นเอง
“คุณชายเฉียน ที่ข้ามาถึงที่นี่ความจริงต้องการมาบอกข่าวแก่ท่าน หญ้าน้ำแข็งเงินที่คุณชายต้องการ คนของข้าซื้อจากร้านค้าอื่นมาได้ต้นหนึ่ง แต่ต้องขอให้คุณชายตรวจสอบดูก่อนว่าใช้ได้หรือไม่?” เฉียนเชาลุกขึ้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เป็นเรื่องจริงหรือ! ขอข้าดูหน่อยเถอะ!” หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
เฉียนเชานำกล่องไม้ออกมาจากแขนเสื้อแล้วยื่นให้หลิ่วหมิงด้วยรอยยิ้ม
หลิ่วหมิงรับกล่องไม้มาเปิดออก เผยให้เห็นถึงหญ้าสีเงินจางๆ ที่มีใบสามใบต้นหนึ่ง ซึ่งมันแผ่ไอเย็นสะท้านออกมาเล็กน้อย
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ แววตาเคร่งขรึมก็เปล่งประกายออกมา มือเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดร็วก่อนที่จะหยิบเข็มเงินยาวหลายชุ่นออกมา
มือข้างหนึ่งประคองกล่องไม้ อีกข้างก็คีบเข็มเงินไว้แน่น จากนั้นก็แทงลงไปบนใบไม้…
เสียงดัง “ซี๊ดๆ!”
พริบตาที่เข็มเงินแทงลงบนใบไม้สีเงินนั้น ความรู้สึกเย็นสะท้านก็แผ่ผ่านเข็มเงิน และพุ่งตรงมายังนิ้วหลิ่วหมิง
นิ้วมือหลิ่วหมิงเคลื่อนไหวอย่างพร่ามัว เพื่อดึงเข็มเงินออกมา จากนั้นเขาก็มองไปที่เข็มเงิน
เข็มเงินครึ่งหนึ่งถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งบางๆ
“ไม่ผิด! สิ่งนี้คือหญ้าน้ำแข็งเงินที่มีอายุอย่างน้อยห้าสิบปี มันเพียงพอที่จะนำมารักษาอาการป่วยของหลานสาวข้าแล้ว ครั้งนี้คงลำบากเถ้าแก่เฉียนแล้ว ข้าน้อยขอรับไว้อย่างไม่เกรงใจล่ะนะ!” พอหลิ่วหมิงเห็นสภาพการณ์บนเข็มเงินอย่างชัดเจนแล้ว ก็กล่าวออกมาด้วยความโล่งใจ ขณะเดียวกันเข็มเงินบนมือก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ่อๆ! ขอเพียงแค่หญ้าน้ำแข็งเย็นต้นนี้ใช้ได้ผลก็พอแล้ว ของสิ่งนี้เดิมทีฮูหยินข้าได้รับปากหาให้ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ท่านได้ช่วยชีวิตไว้ ตอนนี้ข้าเพิ่งจะหามาได้ ควรเป็นข้าที่ต้องกล่าวขอโทษจึงจะถูก” เฉียนเชากล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เถ้าแก่เฉียนเกรงใจเกินไปแล้ว ตอนนั้นข้าสะดวกมือช่วยเท่านั้น” หลิ่วหมิงกล่าวอย่างถ่อมตัว จากนั้นก็ปิดฝากล่องแล้วนำหญ้าน้ำแข็งเงินนี้ไปเก็บอย่างระมัดระวัง
“ความจริงที่ข้ามาในครั้งนี้ยังมีเรื่องอื่นอีก แต่ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่?” เฉียนเชาเห็นหลิ่วหมิงรับกล่องไม้ไว้แล้ว ก็ทำให้เขายิ้มกว้างมากกว่าเดิม
“หืม! เถ้าแก่เฉียนมีอะไรก็พูดมาเถอะ!” หลิ่วหมิงได้ยินก็คิดวกไปมาอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวด้วยสีหน้าปกติ
“ข้าได้ยินฮูหยินบอกว่าคุณชายเฉียนพอจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเรือนร้อยวิญญาณมาบ้าง ไม่ทราบว่าคุณชายมีความคิดเห็นว่าอย่างไร?” เฉียนเชากล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
“ความหมายของเถ้าแก่เฉียนคือ…” หลิ่วหมิงหรี่ตาถามกลับไป
“คุณชายเฉียนมีเงื่อนไขอะไรพูดมาได้เลย” เฉียนเชาได้ยินก็รีบถามด้วยความดีใจ
“ข้อแรก ข้าเป็นแขกของเรือนร้อยวิญญาณในช่วงที่ข้าทำธุระอยู่ในเสวียนจิงเท่านั้น หากวันไหนข้าไปจากเสวียนจิงสถานะแขกของข้าก็กลายเป็นโมฆะ แต่เถ้าแก่เฉียนวางใจได้ ข้าอยู่ในเสวียนจิงอย่างน้อยสองสามปี มากสุดก็ห้าหกปี ข้อสองค่าตอบแทนที่ข้าเป็นแขกเรือนร้อยวิญญาณ นอกจากหินจิตวิญญาณที่ต้องได้รับในแต่ละเดือนแล้ว ข้ายังคิดที่จะเรียนวิชาการปรุงโอสถ ดังนั้นจึงหวังว่าทางเรือนร้อยวิญญาณจะแนะนำผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถบางท่านให้ข้าได้ แน่นอนข้ารู้ว่าโดยทั่วไปผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่เก่งกาจจะไม่รับศิษย์ แต่ข้าต้องการแค่จดหมายแนะนำของเรือนร้อยวิญญาณฉบับเดียวเท่านั้น แล้วข้าจะหาวิธีพูดจาเกลี้ยกล่อมเอง แต่ผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่ทางเรือนร้อยวิญญาณแนะนำให้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ค่อนข้างลึกซึ้ง จนถึงระดับที่สามารถปรุงโอสถที่อาจารย์จิตวิญญาณใช้ได้” หลิ่วหมิงค่อยๆ กล่าวออกมา
“อะไรนะ! คุณชายเฉียนต้องการเรียนวิชาการปรุงโอสถ?” เห็นได้ชัดว่าคำพูดหลิ่วหมิงทำให้เฉียนเชารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“ทำไมล่ะ! ข้าเรียนไม่ได้หรือ?” หลิ่วหมิงได้ยินหางคิ้วก็กระตุกขึ้นมา
“ย่อมไม่ใช่เช่นนั้น ถึงแม้ข้าไม่ใช่ศิษย์จิตวิญญาณ แต่ก็รู้ว่าวิชาการปรุงโอสถนั้นดูเหมือนจะเป็นทักษะที่ยากที่สุดของผู้ฝึกฝน ผู้ที่ยอมเสียเวลาฝึกฝนจริงๆ นั้นมีน้อยมาก แต่ถ้าคุณชายสนใจวิชาการปรุงโอสถล่ะก็ เรือนจิตวิญญาณของพวกเราเคยไปมาหาสู่กันกับผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถอยู่หลายท่าน พอจะช่วยแนะนำให้ท่านได้บ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถที่สามารถปรุงโอสถของอาจารย์จิตวิญญาณขึ้นไปได้นั้น แม้แต่ในนิกายใหญ่ๆ ยังหาได้ยากยิ่ง ถ้าในเสวียนจิงล่ะก็ เกรงว่าจะมีแค่คนเดียวที่มีความสามารถเช่นนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญการปรุงโอสถท่านนี้มีนิสัยค่อนข้างประหลาด ถึงแม้เรือนร้อยวิญญาณเราจะเคยติดต่อกับเขาอยู่หลายครั้ง ช่วยเขาประมูลโอสถอยู่หลายครา แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจมากนักว่าจะทำให้เขายอมชี้แนะวิชาการปรุงโอสถให้ท่านได้ไหม” เฉียนเชาลังเลเล็กน้อยแล้วกล่าวออกมา
“ไม่เป็นไร! ขอเพียงเถ้าแก่เฉียนยอมให้ข้าได้พบกับผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ก็พอแล้ว เรื่องเรียนวิชาการปรุงโอสถนี้มอบให้ข้าจัดการเอง” หลิ่วหมิงได้ยินก็ใจเต้นขึ้นมา
“ได้! ถ้าแค่นี้ล่ะก็ ข้าจะรับปากเงื่อนไขทั้งสองของคุณชายเอง” ครั้งนี้เฉียนเชาเพียงแค่ลังเลเล็กน้อย แล้วกัดฟันรับปากออกไป
“ถ้าเช่นนั้นข้าเฉียนหมิงก็ขอคารวะเถ้าแก่เฉียน” หลิ่วหมิงยิ้มเล็กน้อยแล้วค่อยๆ โค้งคำนับเฉียนเชา
……………………………………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา