ที่เขามาปรากฎตัวที่นี่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าสิ่งของที่เขาต้องการประมูล อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับคำสั่งจากเถ้าแก่เฉียนให้มาสังเกตการณ์อยู่ที่นี่ เผื่อมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น
เรื่องที่อาจจะมีคนมาก่อกวนนั้น ดูเหมือนจะเกิดขึ้นได้น้อยมาก
เพราะว่าห้องโถงใหญ่ถูกผู้เชี่ยวชาญค่ายกลของเรือนร้อยวิญญาณวางชั้นจำกัดตามที่ต่างๆ ไว้อย่างแน่นหนา ต่อให้อาจารย์จิตวิญญาณปรากฏออกมา ก็เกรงว่าไม่อาจทำลายชั้นจำกัดเหล่านี้ได้ง่าย
ยิ่งไปกว่านั้นเพื่องานประมูลในครั้งนี้ เถ้าแก่เฉียนไม่เพียงแต่ทำการโยกย้ายแขกจากที่ต่างๆ มากลุ่มหนึ่ง แต่ยังยืมศิษย์จิตวิญญาณจากจวนอ๋องสามมาสิบกว่าคน และหน่วยเงาปีศาจอีกสี่กอง
คนเหล่านั้นจำนวนไม่น้อยต่างก็ปะปนไปกับฝูงชนเช่นเดียวกับหลิ่วหมิง แต่ส่วนใหญ่ยังคงยืนอยู่รอบด้านห้องโถงด้วยสีหน้าเยือกเย็น เพื่อคอยจัดการผู้ที่ไม่ประสงค์ดี
เวลาค่อยๆ ผ่านพ้นไป เมื่อธูปหอมก้านยาวในกระถางธูปที่ตั้งอยู่แบนแท่นสูงด้านหน้าเผาไหม้ไปจนหมดสิ้น ก็มีคนออกคำสั่งขึ้นมา จากนั้นประตูทางออกหลายแห่งก็ค่อยๆ ถูกปิดอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ ผู้อาวุโสเหมี่ยนได้พาไป๋ชิงไห่และแขกคนอื่นๆ ออกมาด้วยรอยยิ้ม พวกเขาเดินออกจากประตูหินด้านหลัง มายังแท่นสูงด้านหน้าอย่างไม่รีบร้อน
เพียงแค่ผู้อาวุโสสะบัดแขนเสื้อ แสงสีขาวก็เปล่งประกายขึ้นมาในทันที แล้วกระถางธูปก็หายไป ขณะเดียวกันโต๊ะไม้ขนาดยาวหลายจั้ง ก็ปรากฏขึ้นบนแท่นหิน
พอได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้ฝึกฝนจำนวนหนึ่งก็เผลอร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่คนจำนวนมากก็ไม่รู้สึกหวั่นไหวใดๆ
แม้ว่าโดยปกติแล้ว จะมีแต่ระดับอาจารย์จิตวิญญาณขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถควบคุมยันต์เก็บของได้ แต่ก็มีสิ่งของย่อส่วนพิเศษบางอย่างที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องใช้พลังเวทย์มากนัก ซึ่งก็เหมือนกับสิ่งของที่มีข้อจำกัดเป็นจำนวนมากอย่างยันต์เก็บของดัดแปลง หรือผ้าย่อส่วนที่หลิ่วหมิงเคยใช้
ไป๋ชิงไห่และคนอื่นๆ อีกสามคนยืนอยู่บนมุมทั้งสี่ของแท่นหินด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดจะมาก่อกวน จะต้องผ่านพวกเขาทั้งสี่ให้ได้ก่อน
งานประมูลโดยทั่วไปจะต้องหาผู้ที่พูดจาฉะฉานคล่องแคล่วมาดำเนินการประมูล แต่งานประมูลใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้ฝึกฝนเหล่านี้ ผู้ดำเนินการยิ่งต้องมีพลังแข็งแกร่งด้วย เพราะเหตุนี้เถ้าแก่เฉียนถึงเลือกผู้อาวุโสเหมี่ยนมาดำเนินการ
เดิมทีเจ้าของเรือนร้อยวิญญาณก็คิดจะให้หลิ่วหมิงมารับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะตอนนี้เขากำลังมีชื่อเสียงในเสวียนจิง แต่ก็ถูกหลิ่วหมิงปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
“ข้าเชื่อว่าสหายจำนวนมากต่างก็รู้ว่าข้าคือใครแล้ว ถึงแม้จะไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร เรียกข้าว่าผู้อาวุโสเหมี่ยนก็พอ ข้าเป็นผู้ดำเนินการงานประมูลที่เรือนร้อยวิญญาณจัดขึ้นในครั้งนี้ แม้ว่าเรือนร้อยวิญญาณของเราจะจัดงานประมูลครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เชื่อว่าจะต้องทำให้ทุกท่านกลับบ้านด้วยความพึงพอใจ เอาล่ะ! คิดว่าทุกท่านคงจะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ข้าขอประกาศเปิดงานประมูลในครั้งนี้” ผู้อาวุโสพูดออกมาไม่กี่ประโยค จากนั้นก็กระแอมเบาๆ ก่อนประกาศเปิดงานประมูล
แม้ว่าเสียงเขาจะไม่ดัง แต่ภายใต้พลังเวทย์ที่แฝงอยู่ ทำให้ทุกคนในห้องโถงต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน
และในขณะเดียวกัน ประตูตรงด้านหลังแท่นหินก็เปิดออกมาอีกครั้ง หญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นสามคน ต่างก็ประคองถาดสีเงินที่ถูกแพรต่วนสีแดงปกคลุมไว้ แล้วเดินขึ้นบนแท่นสูง จากนั้นก็วางลงบนโต๊ะยาวอย่างนอบน้อม
ผู้อาวุโสเหมี่ยนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวอย่างไม่รีบร้อน และเปิดแพรต่วนบนถาดตรงหน้าสุดออกมา เผยให้เห็นธงเล็กๆ สีเหลืองอ่อนที่ทับซ้อนกันหนาๆ จำนวนหนึ่ง
“ของประมูลชิ้นแรกคือธงค่ายกลทองคำจุตรสัตว์หนึ่งชุด เฮ่อๆ! เชื่อว่าสหายหลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้าง ระหว่างที่แขกเรือนร้อยวิญญาณของพวกเราคุ้มกันนำส่งของประมูลมาเสวียนจิง ได้ถูกโจรดักซุ่มโจมตี สุดท้ายแขกเหล่านี้ ก็ใช้ธงค่ายกลชุดนี้ต้านทานการโจมตีของศัตรูไว้ได้ และยังยืนหยัดจนกองกำลังเสริมมาถึง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เป็นอะไรเลย ดังนั้นธงค่ายกลชุดนี้จึงมีคุณค่าเป็นอย่างมาก ข้าตั้งใจนำมันมาเป็นของประมูลชิ้นแรก” พอพูดมาถึงจุดนี้ ผู้อาวุโสเหมี่ยนก็หยุดไปครู่หนึ่ง และกวาดสายตามองไปยังผู้คนที่อยู่ในห้องโถง
พอคำพูดนี้เปล่งออกมา ก็ทำให้คนจำนวนหนึ่งแอบกระซิบกันเบาๆ คนจำนวนมากต่างก็แสดงท่าทีสนใจออกมา
เพราะธงค่ายกลชุดนี้ได้ผ่านการพิสูจน์จากการใช้งานจริงมาแล้ว ถึงแม้จะต้องใช้คนจำนวนมากในการควบคุม แต่ก็มีกลุ่มอิทธิพลจำนวนไม่น้อยที่สนใจมัน
ผู้อาวุโสเหมี่ยนเห็นเช่นนี้ก็เผยสีหน้าพอใจออกมา เขาเชื่อว่าของชิ้นนี้คงประมูลได้ราคาไม่เลว จากนั้นก็เอ่ยปากออกมาอีกครั้ง
“ธงค่ายกลทองคำจุตรสัตว์หนึ่งชุด ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งหมื่นหินจิตวิญญาณ การประมูลแต่ละครั้งจะต้องเสนอราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันหินจิตวิญญาณ เริ่มเสนอราคาได้!”
“หนึ่งหมื่นหินจิตวิญญาณ”
“หนึ่งหมื่นสองพันหินจิตวิญญาณ”
“หนึ่งหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณ”
…….
พอเสียงผู้อาวุโสสิ้นสุดลง คนจำนวนมากต่างก็รีบเสนอราคาออกมา
พริบตาเดียวธงค่ายกลชุดนี้ก็มีมูลค่าเกือบสองหมื่นหินจิตวิญญาณ
ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ยังเสนอราคาอยู่ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ยังมีแค่สี่ห้าคนเท่านั้นที่ยังแข่งกันเสนอราคาอยู่
“สองหมื่นห้าพันหินจิตวิญญาณ” ในที่สุดก็มีเสียงแหบแห้งของคนผู้หนึ่งดันราคาให้สูงขึ้นมาอีก
คนอื่นๆ ที่ยังแย่งชิงกันอยู่ก็รีบหุบปากในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา