ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 196

สรุปบท ตอนที่ 196: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 196 – ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา โดย Internet

บท ตอนที่ 196 ของ ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 196 กระบอกกำจัดปีศาจ
ตอนที่ 196 กระบอกกำจัดปีศาจ
โดย
Ink Stone_Fantasy
ขณะนี้ ไป๋ชิงไห่ที่ยืนอยู่มุมหนึ่งของแท่นประมูล ก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วยกมือปล่อยลูกเปลวไฟใส่ผู้อาวุโส

หลังจากเสียงดัง “ตู๊ม!” “ตู๊ม!” ลูกเปลวไฟสองลูกที่มีอานุภาพค่อนข้างรุนแรงก็ระเบิดออกมาพร้อมกัน แต่มันแค่ทำให้ม่านแสงบนตัวของผู้อาวุโสสั่นไหวเพียงเล็กน้อย จากนั้นมันก็กลับมาเป็นปกติ

ไม่เพียงแค่นี้ ไป๋ชิงไห่ยังชักกระบี่ยาวตรงหลังออกมา เขาสะบัดมันแค่ทีเดียว ปราณกระบี่อันน่าสะพรึงก็ฟาดฟันออกไป

“เพล้ง!”

ม่านแสงสีเงินเว้าเข้าไปเพียงเล็กน้อย แล้วมันก็ดีดปราณกระบี่ออกไป โดยที่ม่านแสงไม่เป็นอะไรเลย

ฉากนี้ทำให้ผู้ฝึกในที่ยู่ด้านล่างร้องออกมาด้วยความตกใจ

เมื่อไปชิงไห่เก็บกระบี่ยาวเข้าฝักแล้ว ก็กลับไปยืนที่เดิมด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นผู้อาวุโสเหมี่ยนก็ตบมือข้างหนึ่งไปที่เอว เสื้อเกราะตรงหลังก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นปีกไม้ไผ่สีเหลือง มันแค่กระพือเบาๆ ก็พุ่งขึ้นบนอากาศ และบินวนอยู่ในห้องโถงด้วยความเร็วอันน่าตกใจ

และในขณะเดียวกัน เสียงผู้อาวุโสก็ดังขึ้นในห้องโถง

“นี่คือการเพิ่มพลังของเกราะกลนักรบชุดนี้ ไม่เพียงแต่รวดเร็วกว่าวิชาทะยานเวหาหลายเท่า แต่ยังไม่ด้อยไปกว่าการเพิ่มพลังของยันต์เทพเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความปราดเปรียวในขณะทำการต่อสู้ มันเป็นสิ่งที่วิชาเสริมพลังทั่วไปไม่อาจเทียบได้ ต่อไปข้าจะแสดงพลังการโจมตีของมันให้ทุกท่านได้ชม”

หลังกล่าวจบ เงาร่างผู้อาวุโสเหมี่ยนก็หายไปจากอากาศแล้วมาปรากฏบนแท่นหินด้วยรอยยิ้ม ทำให้ผู้ฝึกฝนในห้องโถงรู้สึกตกตะลึงจนปากอ้าตาค้าง

ในขณะนั้นเอง ผู้อาวุโสก็ยกแขนทั้งสองขึ้น และเล็งไปยังเสาหินอ่อนที่อยู่ใกล้ๆ แท่นหิน พอแสงสีเงินเปล่งประกายตรงข้อมือ กระบอกสีเงินขนาดเท่าแขนก็ปรากฏขึ้นบนมือทั้งสองข้าง จากนั้นก็มีเสียงปะทุอยู่ภายในก่อนที่มันจะพ่นหนามสีเงินออกมา

ครู่ต่อมาก็มีเสียงดังราวกับสายฝนกระหน่ำ หลังจากที่ลำแสงสีเงินเปล่งประกายบนเสาหินอย่างบ้าคลั่งแล้ว รูเล็กๆ จำนวนมากก็ปรากฏอยู่เสาหิน

คนจำนวนไม่น้อยต้องจ้องมองอย่างละเอียด ถึงมองออกว่ารูเล็กๆ เหล่านี้ มีเข็มเงินเล็กๆ ราวกับขนวัวจมปลักอยู่ สิ่งนี้ทำให้ทุกคนเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริศออกมา

ด้วยระยะห่างเช่นนี้ อาศัยเพียงแค่พลังของเกราะกลก็ทำให้เข็มเงินสำแดงอานุภาพได้ถึงเพียงนี้ โดยไม่ต้องใช้พลังเวทย์เลย ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

“การโจมตีแบบนี้ เป็นแค่อานุภาพต่ำสุดของเกราะกลนักรบเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีการโจมตีอีกสองรูปแบบ เพื่อผลประโยชน์ของผู้ที่ประมูลได้ ข้าก็จะไม่แสดงให้ดูอีก แต่เชื่อว่ามันพอที่จะพิสูจน์มูลค่าของเกราะกลนักรบชุดนี้ได้แล้ว แม้ว่ามันไม่อาจเทียบได้กับเกราะนักรบจิตวิญญาณตามที่เล่าลือ แต่ด้วยเหตุที่มันใช้พลังเวทย์น้อยมาก จึงเหมาะสมกับศิษย์จิตวิญญาณอย่างพวกเรา” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสเหมี่ยนไปกดกลไกอะไรอีก หลังจากที่มีแตกหักดังออกมา เกราะนักรบก็กลายเป็นเกราะไม้สีเหลืองอ่อนท่ามกลางแสงสีเงิน แล้วเขาก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

“ผู้อาวุสเหมี่ยน เกราะกลนักรบชุดนี้น่าสนใจจริงๆ แต่ไม่ทราบว่าการกระตุ้นแต่ละครั้ง ต้องใช้ผลึกหินจิตวิญญาณเท่าไหร่” มีคนถามนี้มาจากด้านล่างของแท่นหิน

“สหายท่านนี้ถามได้ดีมาก ข้ากำลังจะพูดเรื่องนี้อยู่พอดี ชุดเกราะกลนักรบชุดนี้มันใช้งานได้ดี แต่ไม่สามารถใช้หินจิตวิญญาณทั่วไปทำการเปิดใช้งานในแต่ละครั้งได้ ต้องเป็นผลึกหินจิตวิญญาณธาตุลมเท่านั้น อีกอย่างต้องเป็นผลึกหินธาตุลมที่อยู่ระดับกลางขึ้นไป” ผู้อาวุโสเหมี่ยนกล่าวโดยไม่ต้องคิด

คำตอบนี้ทำให้ผู้คนด้านล่างแท่นหิน แสดงสีหน้าแตกต่างกันออกไป

“เอาล่ะ! ความสามารถของเกราะกลนักรบนี้ ข้าก็ได้แสดงมันออกมาให้เห็นแล้ว ตอนนี้เริ่มประมูลอย่างเป็นทางการได้ ราคาเริ่มต้นที่ห้าหมื่นหินจิตวิญญาณ เสนอราคาเพิ่มได้ครั้งละไม่ต่ำกว่าสองหมื่นหินจิตวิญญาณ!” ผู้อาวุโสเหมี่ยนถือโอกาสประกาศเริ่มต้นการประมูลของสิ่งนี้

แม้ว่าเกราะกลนักรบชุดนี้ จะทำให้คนจำนวนไม่น้อยตาร้อนเป็นผะผ่าว แต่ด้วยราคาที่สูงถึงห้าหมื่นหินจิตวิญญาณ คนส่วนมากจึงละทิ้งความคิดที่จะได้มันไป

ถึงแม้หลิ่วหมิงจะรู้สึกใจเต้นกับเกราะกลนักรบนี้เป็นอย่างมาก แต่ถ้าพูดถึงในแง่ของพลังป้องกันล่ะก็ เขามีเกราะหนังเกล็ดมังกรแดงแล้ว ถ้าพูดถึงในแง่ของการโจมตีล่ะก็ ของสิ่งนี้จะเทียบกับกระบี่จันทราหยกในมือเขาที่เป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับกลางได้อย่างไร ดังนั้นเขาย่อมไม่คิดที่จะเสนอราคาออกไป

“ห้าหมื่นหินจิตวิญญาณ!”

หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ก็มีคนเอ่ยปากออกมาในที่สุด เขาก็ผู้ฝึกฝนแซ่หนานที่จำเกราะกลนักรบนี้ได้ในตอนแรก

หลิ่วหมิงมองออกไปด้วยใจที่เต้นแรง

คนผู้นั้นนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโถง เขาสวมงอบขนาดใหญ่ปิดปังใบหน้าทั้งหมดไว้

แต่ดูจากการที่คนบริเวณนั้นพากันหลีกทางให้เขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่ผู้ฝึกฝนธรรมดา

“ห้าหมื่นสองพันหินจิตวิญญาณ!” มีเสียงราบเรียบของหญิงสาวดังขึ้นมา น้ำเสียงของนางเลือนลางเป็นอย่างมาก มันดังก้องไปทั่วทิศ จนไม่สามารถหาตำแหน่งของเสียงได้

“ห้าหมื่นสี่พัน!” น้ำเสียงของชายแซ่หนานดูเคร่งขรึมขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจมากนัก

“ห้าหมื่นหกพัน” หญิงสาวกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

“สหายหู เจ้าคิดว่าข้าจำเสียงของเจ้าไม่ได้หรือ เจ้าไม่ชำนาญทักษะกล เกราะกลนักรบนี้คงไม่ค่อยมีประโยชน์กับเจ้ามากนัก?” ชายแซ่หนานอดไม่ได้ที่จะถามออกไปด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“พี่หนาน ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง! ด้วยระดับทักษะกลของท่าน ข้าควรจะยอมอ่อนข้อให้ แต่ใครใช้ให้นายของข้าอยากได้ของชิ้นนี้เล่า ข้าคงต้องล่วงเกินท่านแล้ว!” หญิงสาวนางนั้นกล่าวด้วยเสียงหัวเราะดังกิ๊กกั๊ก

“ฮึ! นายเจ้าจะรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับทักษะกล ถ้าเกาะกลนักรบชิ้นนี้ตกอยู่ในมือข้าล่ะก็ ไม่แน่ว่าข้าอาจจะสร้างมันขึ้นมาได้ใหม่ภายในยี่สิบถึงสามสิบปี ข้าจะต้องประมูลเอาของชิ้นนี้มาให้ได้ ผู้อาวุโสเหมี่ยน ตอนนี้ข้ามีหินจิตวิญญาณไม่มาก ข้าสามารถใช้ของล้ำค่าอื่นๆ แลกหินจิตวิญญาณได้หรือไม่?” พอชายแซ่หนานได้ยินก็กล่าวด้วยความโมโห

แม้ว่าชายแซ่หนานจะนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน แต่ใครก็จินตนาการออกว่าตอนนี้เขารู้สึกเสียหน้ามากแค่ไหน

“อิอิ! พี่หนาน! แม้ว่ากระบอกกำจัดปีศาจจะไม่เลว แต่ก็มีหลายครั้งที่มันระเบิดตัวเองออกมา ตอนนี้ใครจะกล้าซื้อง่ายๆ ล่ะ!” หญิงสาวแซ่หูหัวเราะเบาๆ ก่อนกล่าวออกมา

“ฮึ! ระเบิดอะไรกัน! เห็นๆ อยู่ว่าคนผู้นั้นใช้เกินจำนวนครั้งไปแล้ว แต่ก็ยังละโมบใช้ต่อ จึงก่อให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” ชายแซ่หนานได้ยินก็กล่าวด้วยความโมโห

“ถึงแม้ข้าจะเชื่อคำพูดนี้ แต่คนอื่นๆ ก็ต้องเชื่อด้วยถึงจะได้ ยิ่งไปกว่านั้นข้าหูชุนเหนียงอยู่ที่นี่ด้วย ถ้าใครกล้าซื้ออาวุธของเจ้า ก็เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังข้า” หญิงแซ่หูตอบกลับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น

แต่ขณะนั้นเอง เสียงราบเรียบของชายผู้หนึ่งก็ดังขึ้น

“ห้าพันหินจิตวิญญาณ”

ผู้ที่เสนอราคาคือหลิ่วหมิงที่อยู่ตรงมุมห้อง

พอคำพูดนี้เปล่งออกมา ไม่เพียงแต่หูชุนเหนียงที่ต้องหยุดหัวเราะในฉับพลัน ผู้ฝึกฝนที่นั่งข้างหลิ่วหมิงต่างก็พากันมองหลิ่วหมิงด้วยความตกใจ

“สหายผู้นี้มีนามว่าอะไร หรือท่านคิดจะเป็นศัตรูกับข้า?” น้ำเสียงของหูชุนเหนียงดูเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก

“เป็นศัตรู? จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าเพียงแต่สนใจกระบอกกำจัดปีศาจเท่านั้น” หลิ่วหมิงตอบอย่างไม่แยแส

“ใช่หรือ? หวังว่าท่านจะไม่เสียใจภายหลังนะ” คำพูดของหูชุนเหนียงเต็มไปด้วยการข่มขู่

“พี่เหมี่ยน นี่เป็นงานประมูลใหญ่ของเรือนร้อยวิญญาณ เรื่องการใช้อำนาจคุกคามการเสนอราคาของคนอื่นนั้น เรือนของท่านจะไม่สนใจเลยหรือ?” ชายแซ่หนานเห็นเช่นนี้ ก็แหงนหน้าขึ้นมากล่าวด้วยความโมโห ทำให้เห็นว่าเขาเป็นชายวัยกลางคนที่ใบหน้าผอมซีดเซียว

“สหายหู ขอให้ท่านระมัดระวังสักหน่อย ถ้าเอ่ยคำพูดคุกคามคนอื่นอีกล่ะก็ ไม่แน่ข้าอาจจะยกเลิกสิทธิ์การประมูลของท่านก็ได้” แน่นอนว่าผู้อาวุโสเหมี่ยนได้ยินเสียงของหลิ่วหมิง เขารู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่พอได้ยินชายแซ่หนานกล่าวเช่นนี้ ก็ถือโอกาสกล่าวด้วยสีหน้าหนักอึ้ง

“ได้ ต่อให้พี่หนานได้หินจิตวิญญาณไปหลายพัน แต่จะทำอะไรได้” หูชุนเหนียงเงียบไปครู่หนึ่ง และหัวเราะก่อนกล่าวออกมา จากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาอีก

……………………………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา