ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 224

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 224 กลิ่นไอกระบี่
ตอนที่ 224 กลิ่นไอกระบี่
โดย
Ink Stone_Fantasy
“ทราบ! ขอบคุณผู้อาวุโสที่เมตตา ใช่สิ! ที่ผู้อาวุโสให้ข้าพาศิษย์หลานไป๋มาหา ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุอันใด?” หลินไฉอวี่เผยสีหน้าดีใจออกมา แต่ก็ถามออกไปด้วยความแปลกใจ

“ไม่มีอะไร ชัยชนะในครั้งนี้ ศิษย์นิกายปีศาจของพวกเจ้าผู้นี้ได้สร้างผลงานไว้มาก นับว่ารักษาหน้าข้าไว้ได้ ข้าเลยถือโอกาสมอบสิ่งดีๆ ให้เขาหน่อย! มิเช่นนั้นต่อไปถ้าเจอหน้าเฒ่าประหลาดเยี่ยน ข้าคงถูกเหน็บแนมไม่ใช่น้อย” เย่เทียนเหมยกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ

“ขอบคุณผู้อาวุโส นับเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่หากศิษย์หลายไป๋ได้รับคำชี้แนะจากท่าน” ตอนแรกหลินไฉอวี่รู้สึกตกใจ แต่ก็รีบกล่าวออกมาด้วยความดีใจ ขณะเดียวกันก็กวักมือเรียกหลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ก็รีบก้าวไปกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ

หูชุนเหนียงกับจางซิ่วเหนียงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน

จางซิ่วเหนียงไม่เท่าไหร่ แต่สีหน้าหูชุนเหนียงเต็มไปด้วยความอิจฉา

“ที่แท้เจ้าก็ชื่อไป๋ชงเทียน จะว่าไปแล้ว นี่นับเป็นครั้งที่สองที่เราเจอกัน ดูท่าระหว่างเราคงมีวาสนาต่อกันไม่ใช่น้อย ตอนนี้เจ้าอยากได้อะไรจากข้า? พูดออกมาเลย แต่สิ่งที่เจ้าอยากได้ต้องสมเหตุสมผลกับผลงานของเจ้า ถ้าหากละโมบจนเกินไปข้าจะไม่รับปากเจ้า” เย่เทียนเหมยวางหมากในมือลง แล้วหันมาสังเกตหลิ่วหมิงอย่างละเอียดเป็นครั้งแรก

“ศิษย์หลานไป๋กับผู้อาวุโสเย่เคยเจอกันมาก่อนหรือ?” หลินไฉอวี่ได้ยินเช่นนี้ ย่อมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

โจวเทียนเหอ จางซิ่วเหนียง และคนอื่นๆ ได้ยิน ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา คิดไม่ออกว่าศิษย์ระดับนี้รู้จักกับผู้แข็งแกร่งระดับเย่เทียนเหมยได้อย่างไร

“ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับผู้อาวุโสที่นี่ เดิมทีคิดว่าผู้อาวุโสลืมข้าไปแล้วซะอีก! ไม่ทราบว่านอกจากความละโมบเกินตัวแล้ว ยังมีข้อจำกัดอื่นๆ หรือไม่?” หลิ่วหมิงคิดวกไปมาอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวออกมาตามตรง

“เพียงแค่ข้อเรียกร้องของเจ้าไม่ทำให้ข้ารู้สึกไม่พอใจ ก็ไม่มีปัญหาอะไร” เย่เทียนเหมยยิ้มเล็กน้อย แต่คำตอบของนางทำให้หลิ่วหมิงแอบแสยะปาก และตำหนิอยู่ในใจไม่หยุด

อะไรที่เรียกว่าไม่ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจ มันไม่คลุมเครือไปหน่อยหรือ!

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลิ่วหมิงก็คิดวกไปมาอยู่ไม่หยุด และเริ่มพิจารณาว่าต้องเรียกร้องอะไรถึงจะคุ้มค่าที่สุด และทำให้ผู้อาวุโสตรงหน้าไม่อาจปฏิเสธได้

เย่เทียนเหมยเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้เร่งรัดแต่อย่างใด นางเพียงแค่จ้องมองหลิ่วหมิงด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนยิ้ม

“ไม่ทราบว่าในมือของผู้อาวุโสมีไอปีศาจบริสุทธิ์ที่เหมาะสมกับข้าหรือไม่?” หลิ่วหมิงคิดอยู่พักใหญ่ๆ แล้วถามหยั่งเชิงออกไป

“ไอปีศาจบริสุทธิ์? ข้ามีอยู่ไม่กี่ชุด แต่ส่วนมากมีเจ้าของแล้ว ที่เหลือก็ธรรมดาไปหน่อย เจ้าอยากได้หรือไม่?” เย่เทียนเหมยไม่ได้รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด แต่ตอบกลับอย่างเนิบนาบ

“ไม่ทราบว่าไอปีศาจบริสุทธิ์ธรรมดาเหล่านี้ เป็นไอปีศาจบริสุทธิ์ชนิดเดียวกันหรือไม่?” หลิ่วหมิงฉุกคิดอย่างรวดเร็วแล้วถามออกไป

“มันไม่เป็นเช่นนั้น ไอปีศาจบริสุทธิ์เหล่านี้มีแค่อย่างละชุดเท่านั้น” เย่เทียนเหมยกล่าวอย่างไม่รีบร้อน

หลิ่วหมิงได้ยิน ก็แสดงสีหน้าผิดหวังออกมา แต่หลังจากฉุกคิดอย่างรวดเร็วก็เอ่ยปากถามออกไปอีกครั้ง

“ในเมื่อไอปีศาจบริสุทธิ์ในมือผู้อาวุโสไม่เหมาะสมกับข้า ถ้าอย่างนั้นผู้อาวุโสมีเหล็กทมิฬหรือไม่?”

“เหล็กทมิฬ! เจ้าได้ยินชื่อวัสดุชิ้นนี้มาจากที่ใด ของสิ่งนี้เป็นวัสดุชั้นสูงในการหลอมกระบี่บิน นอกจากผู้ฝึกฝนกระบี่แล้ว มีคนน้อยมากที่รู้เรื่องนี้? แต่ข้าไม่มีของสิ่งนี้หรอก ถึงจะมีเจ้าก็อย่าได้คิดฝันว่าจะได้มันไป ดูท่าเจ้าคงยังไม่ค่อยรู้จักวัสดุชิ้นนี้ ข้าจะอนุญาตให้เจ้าบอกสิ่งที่ต้องการอีกครั้ง แต่ถ้าไม่ได้อีกล่ะก็ คำรับปากข้าจะเป็นโมฆะทันที” คิ้วของเย่เทียนเหมยขมวดเข้าหากัน นางเผยสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาเป็นครั้งแรก

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ขอบคุณผู้อาวุโสที่เมตตา ถ้าเป็นเช่นนี้ล่ะก็ ศิษย์สามารถฝึกฝนเส้นทางสู่การฝนกระบี่ได้หรือไม่?” หลิ่วหมิงยิ้มอย่างขมขื่น ในที่สุดก็เสนอข้อเรียกร้องที่คิดว่าได้ผลออกมา

โจวเทียนเหอ หลินไฉอวี่ และคนอื่นๆ ที่ได้ยินต่างก็รู้สึกประหลาดใจมาก

“เส้นทางสู่การฝึกฝนกระบี่? หรือเจ้าอยากฝึกฝนสายกระบี่? ผู้ฝึกฝนที่มีความคิดเช่นนี้ ข้าก็เคยพบเห็นมาไม่น้อย แต่ส่วนมากก็ละทิ้งไประหว่างทาง มีส่วนน้อยที่ฝึกฝนได้สำเร็จ แต่เทียบกับการฝึกฝนกระบี่ที่แท้จริงแล้วมันต่างกันมาก เจ้าแน่ใจว่าจะมาเรียนกับข้า! ที่จริงแม้เจ้าไม่เรียนกับข้า ก็สามารถซื้อวิชาสู่เส้นทางการฝึกฝนจากตลาดได้ เจ้าคิดดีแล้วหรือที่จะใช้ข้อเรียกร้องนี้ไปกับของสิ่งนี้!” เย่เทียนเหมยได้ยินเช่นนี้ ดวงตาก็เปล่งประกายออกมา

“ความรู้เข้าสู่เส้นทางสายกระบี่ในตลาดเหล่านั้น ข้าก็เคยอ่านมาแล้ว แต่ข้าเชื่อว่าวิชาการฝึกฝนของผู้อาวุโสจะต้องแตกต่างจากในตลาดอย่างแน่นอน หวังว่าผู้อาวุโสจะส่งเสริมข้าเล็กน้อย!” ครั้งนี้หลิ่วหมิงกลับกล่าวออกมาอย่างไม่ลังเล

“ดีมาก! ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เรื่องนี้ข้าสามารถรับปากเจ้าได้ แต่ข้าชี้แนะได้แค่ความรู้การฝึกฝนเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้สอนการฝึกฝนที่เป็นรูปธรรม” เย่เทียนเหมยกล่าวอย่างราบเรียบ

“ไม่เป็นไร! แค่ความรู้การเข้าสู่เส้นทางการฝึกฝนกระบี่ก็พอแล้ว!” หลิ่วหมิงกล่าวโดยไม่ต้องคิด

“ดีมาก! เจ้ารอสักครู่!” เย่เทียนเหมยพยักหน้าแล้วหยิบแผ่นหยกออกมาจากอกแผ่นหนึ่ง เพียงแค่นำมันไปไว้บนหน้าผากซักพัก แล้วก็โยนไปให้หลิ่วหมิง

หลิ่วหมิงรับแผ่นหยกด้วยความดีใจ เย่เทียนเหมยกลับกล่าวด้วยสีหน้าเยือกเย็น

“ความรู้ที่ข้าได้รับตอนที่ยังอยู่ในเขตแดนศิษย์จิตวิญญาณ ล้วนบันทึกอยู่ในนั้นแล้ว แม้จะไม่มีวิธีการฝึกฝนที่เป็นรูปธรรม แต่อาศัยแค่ความรู้เหล่านี้ กับอุปนิสัยที่ไม่เลว และสามารถหาเคล็ดการฝึกฝนที่เป็นรูปธรรมได้ คงพอที่จะเข้าสู่เส้นทางสายนี้ได้ แต่จำไว้ให้ดี แผ่นหยกนี้ถูกข้าแสดงวิชาไว้ เจ้ามีเวลาท่องจำแค่หนึ่งคืน ผ่านไปหนึ่งคืนแล้วมันก็จะแตกสลายไป แม้ว่าความรู้ที่ข้าให้เจ้านี้จะไม่ใช่ของสำคัญอะไร แต่ก็ไม่อยากให้คนรู้มากนัก ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าถ่ายทอดให้คนอื่นๆ ล่ะก็ ข้าไม่เพียงแค่จะฆ่าเจ้าทิ้ง ถ้ามีคนที่เคยอ่านความรู้เหล่านี้หนึ่งคน ข้าจะฆ่าทิ้งหนึ่งคน มีสิบคนก็จะฆ่าทิ้งสิบคน มีร้อยคนก็จะฆ่าทิ้งร้อยคน” เย่เทียนเหมยกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน

“ข้าน้อยมิกล้า! ข้าจะไม่ถ่ายทอดความรู้นี้ให้คนอื่นอย่างเด็ดขาด” หลิ่วหมิงรู้สึกเย็นยะเยือกในใจ และกล่าวออกมาอย่างนอบน้อม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา