พริบตาเดียว วิหคไม้ก็มีสภาพชำรุดไม่เหมือนเดิม
หลิ่วหมิงขมวดคิ้ว และสะบัดแขนเสื้อในฉับพลัน ลูกเปลวไฟลูกหนึ่งพุ่งยิงใส่วิหคไม้ด้วยเสียงดัง “ตู๊ม!”
เปลวไฟพวยพุ่งออกมา และม้วนเอามดบินสีชมพูทั้งหมดเข้าไปอยู่ในนั้น
มดบินส่วนใหญ่ถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้า แต่ยังคงมีสิบกว่าตัวที่บินออกจากเปลวไฟ และพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิง
ราวกับว่าการโจมตีของหลิ่วหมิงในครั้งนี้ จะเป็นการแหย่รังแตนเข้า ไอหมอกที่อยู่ไม่ไกลต่างก็ส่งเสียงดังหวึ่งๆ ขึ้นมาพร้อมกัน มดบินสีชมพูจำนวนมากบินพุ่งมาหาหลิ่วหมิงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปทันที เขาพลิกฝ่ามือโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ธงสีฟ้าสดใสโผล่ขึ้นบนมือ เพียงแค่โบกไปข้างหน้าเล็กน้อย น้ำทะเลก็ทะลักออกมา หลังจากที่มันหมุนติ้วๆ แล้ว ก็กลายเป็นคลื่นยักษ์ม้วนตัวไปด้านหน้า
มดบินจำนวนมากถูกม้วนเข้าไปในคลื่นยักษ์ พวกมันได้แต่ดิ้นรนอยู่ในน้ำทะเล โดยไม่อาจหลุดออกมาได้
แต่ก็ยังมีไม่น้อยที่หลบคลื่นยักษ์ได้ พวกมันกระพือปีกอย่างบ้าระห่ำเพื่อพุ่งเข้าหาหลิ่วหมิง
ขณะนั้นเอง มีคลื่นสั่นไหวตรงหน้าหลิ่วหมิง หัวผู้ชายหัวหนึ่งปรากฏออกมาโดยไร้สุ้มเสียง
มันคือหัวบินนั่นเอง!
หัวปีศาจตนนี้เพียงแค่สะบัดหัว ผมยาวบนหัวก็กลายเป็นไหมสีเขียวพุ่งยิงออกไปเป็นจำนวนมาก
มดบินจำนวนมากต้องร้องออกมาหลังจากโดนเจาะทะลุร่าง และค่อยๆ ตกลงจากฟ้า
หลิ่วหมิงควบคุมคลื่นยักษ์ที่อยู่ไกลๆ ด้วยธงเล็กสีฟ้า และม้วนเอามดบินจำนวนมากเข้าไปในนั้น
อีกด้านหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล ผมของหัวบินก็กลายเป็นตาข่าย เพื่อจัดการมดบินที่หลุดรอดออกมาได้โดยไม่ละเว้น
พริบตาเดียว ก็ไม่มีมดบินพุ่งมาหาหลิ่วหมิงเป็นจำนวนมากอีก
ในขณะที่มดบินบินออกมาจากไอหมอกพิษนั้น หลิ่วหมิงทำท่ามือร่ายคาถา แท่งวารีสีฟ้ารวมตัวตรงหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงิน และมีแสงแพราวพราวเปล่งประกายออกมา
พอเขาสะบัดข้อมือ แท่งวารีก็พร่ามัวหายไป
ครู่ต่อมา คลื่นทะเลที่อยู่ไกลๆ ก็ม้วนตัวกลายเป็นหยดน้ำขนาดใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศ
และหยดน้ำนี้ มีมดบินสีชมพูมากมายที่ถูกขังอยู่ในนั้น พวกมันพยายามดิ้นเอาตัวรอด
แสงสีฟ้าเปล่งประกายขึ้นตรงหน้า แท่งวารีพุ่งเข้าแทงหยดน้ำยักษ์
“เพล้ง!”
แท่งวารีจมเข้าไปในหยดน้ำยักษ์และระเบิดตัวภายในพริบตา ไอเย็นสะท้านสีฟ้าม้วนตัวออกไป น้ำทะเลกลายเป็นน้ำแข็งเย็นสะท้านในทันที
ทันใดนั้น ก้อนน้ำแข็งยักษ์ลูกกลมๆ สีฟ้าก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และร่วงหล่นลงมา
มีเสียงแตกหักดังออกมา!
ก้อนน้ำแข็งกลมๆ กลายเป็นเศษน้ำแข็งสีขาว มดบินทั้งหมดพลีชีพจนร่างแหลกละเอียด
หลิ่วหมิงเก็บธงเล็กเข้าไป พอสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง ลูกกลมๆ สีฟ้าอีกลูกก็พุ่งออกมา หลังจากมีเสียงดัง “แคร่กๆ!” มันก็กลายเป็นวิหคไม้ตัวหนึ่ง จากนั้นก็บินเข้าไปในไอหมอก
เขาทำท่ามือด้วยมือเดียว นิ้วชี้แตะบนหน้าผาก และหลับตาทั้งคู่ลง
ครั้งนี้วิหคไม้สีฟ้าหายเข้าไปในไอหมอกโดยไร้สุ้มเสียง และไม่มีเสียงผิดปกติใดๆ ออกมาอีก ดูท่าข้างในคงไม่มีมดบินแล้ว
ผ่านไปไม่นาน สีหน้าหลิ่วหมิงก็เปลี่ยนไป เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
เกือบจะในเวลาเดียวกัน ไอหมอกตรงหน้าก็พวยพุ่งขึ้นมา วิหคไม้บินออกมาจากในนั้น กรงเล็บทั้งคู่คว้าเอาโครงกระดูกที่มีเสื้อผ้าขาดๆ ห่อหุ้มอยู่
มีเสียงดังขึ้นมา!
วิหคไม้คลายกรงเล็บโยนโครงกระดูกไว้ตรงหน้าหลิ่วหมิง ส่วนตัวมันก็พร่ามัวกลายเป็นลูกกลมๆ สีฟ้าเหมือนเดิม และหายเข้าไปในแขนเสื้อหลิ่วหมิง
ตอนนี้หลิ่วหมิงถึงได้เอานิ้วออกจากหน้าผาก หลังจากสังเกตดูโครงกระดูกที่เต็มไปด้วยรอยกัดแทะแล้ว ก็คว้ามือไปในอากาศด้วยตาที่เป็นประกาย
“ฟู่!” หยกห้อยพุ่งออกจากเอวของโครงกระดูก และหล่นลงมือหลิ่วหมิง
หลิ่วหมิงก้มหน้ามองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าหยกชิ้นนี้มีคำว่า “ไป๋” สลักอยู่
โครงกระดูกชิ้นนี้เป็นลูกหลานตระกูลไป๋ที่มาหาหลุมปีศาจในสมัยก่อน แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาเสียชีวิตในที่แห่งนี้ ดูท่าสถานที่แห่งนี้คงจะเป็นหลุมปีศาจของไอปีศาจพลังน้ำเงินอันดับเจ็ดอย่างไม่ต้องสงสัย
หลิ่วหมิงคิดใคร่ครวญเช่นนี้อยู่ในใจ ทันใดนั้นก็โบกมือไปยังหัวบินที่อยู่ด้านข้างทันที
หัวปีศาจร้องออกมาอย่างแปลกประหลาด และสูดหายใจเข้าในฉับพลัน
หัวของมันขยายตัวท่ามกลามอักขระสีเขียวจำนวนมากอย่างบ้าคลั่ง พริบตาเดียวก็มีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า พอมันอ้าปาก พายุบ้าระห่ำก็พัดออกไปติดต่อกัน
ไอหมอกสีชมพูถูกพายุบ้าระห่ำซัดสาดจนสั่นไหวขึ้นมา
พวกมันแต่ละตัวมีขนาดใหญ่มาก ตรงหลังต่างก็มีปีกใสหนึ่งคู่ ขาสีดำขลับแหลมคมเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็มีเขี้ยวยื่นออกมาจากปาก กลิ่นไอบนตัวอยู่ในระดับศิษย์จิตวิญญาณขั้นกลาง พอมันลืมตาทั้งคู่ขึ้น ก็กระพือปีกเข้าหาหลิ่วหมิงอย่างรวดเร็ว
แม้หลิ่วหมิงจะรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอย่างละเอียดแล้ว เขาเพียงสะบัดกระบี่จันทราหยกในมือฟันเข้าใส่มดยักษ์ที่บินเข้ามา
บังเกิดเสียงดังขึ้นมาทันที ปราณกระบี่สีเขียวครั่นคร้ามทั้งสี่สายม้วนตัวออกไป
ขณะเดียวกันหัวบินก็ส่งเสียงร้องแหลมออกมา ผมยาวบนหัวเคลื่อนไหวกลายเป็นไหมสีเขียว และพุ่งยิงไปยังฝ่ายตรงข้าม
“ฟู่!” “ฟู่!”
มดยักษ์ทั้งสี่หยุดกระพือปีกในทันที ร่างของมันกลายเป็นสายลมเย็นก่อนที่จะหายไป
ปราณกระบี่ทั้งหมดล้วนปะทะกับความว่างเปล่า
“วิชาวายุหลบหลีก!”
พอหลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็หลุดปากพูดออกมา
ครูต่อมา มีลมเย็นพัดผ่านข้างกายเขาทั้งสองด้าน มดยักษ์สองตัวปรากฏออกมา ขาหน้าทั้งสี่เพียงแค่เคลื่อนไหว มันก็กลายเป็นเงาสีดำพุ่งไปยังหลิ่วหมิงด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ
ถ้าเป็นศิษย์จิตวิญญาณขั้นปลายทั่วไป ได้มาเจอกับการโจมตีที่คาดไม่ถึงเช่นนี้ อาจจะตายไปแล้วก็ได้
แต่หลิ่วหมิงเป็นคนระดับไหน? พลังจิตกับร่างของเขาแข็งแกร่งจนอาจารย์จิตวิญญาณทั่วไปต่างก็ไม่อาจเทียบได้
ปฏิกิริยาการตอบสนองก็รวดเร็วอย่างน่าตกใจ เขาเพียงแค่คำรามออกมา กระบี่สั้นสีเขียวก็ฟันออกไปทั้งสองด้าน
“เต๊ง!” “เต๊ง!”
ภายใต้การฟันปราณกระบี่ใส่เท้าหน้าของมันทั้งสอง ทำให้มันร้องออกมา และถอยออกไปหลายก้าว
แต่พอหลิ่วหมิงเขม้นตามองออกไป กลับพบว่าเท้าด้านหน้าของมันทั้งสองไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เลย สีหน้าเขาดูหนักอึ้งเป็นอย่างมาก เขาทำท่ามือด้วยมือเดียว ทันใดนั้นไอสีดำก็ม้วนตัวออกจากร่างของเขา หลังจากหมุนติ๊วๆ รวมตัวกันแล้ว มันก็กลายเป็นหนวดสัมผัสสีดำก่อนที่จะหวดเข้าใส่มดยักษ์ทั้งสอง
ขณะนั้นเอง มีลมพัดมาบนตัวมดยักษ์ทั้งสองอีกครั้ง และร่างก็มันก็ลางเลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
และในขณะเดียวกัน ทางด้านหัวบินกำลังใช้ตาข่ายที่เปลี่ยนแปลงมาจากเส้นผมยาวปกคลุมตนเองไว้ในนั้น บริเวณใกล้ๆ มีร่างมดยักษ์อีกสองตัวโผล่ๆ หายๆ พวกมันกำลังต่อสู้กับหัวบินอย่างดุเดือด
……………………………………….

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา