ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 253

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 253 กำลังสนับสนุน
ตอนที่ 253 กำลังสนับสนุน
โดย
Ink Stone_Fantasy
แต่พอหลิ่วหมิงสะบัดข้อมือเพื่อโยนมุกพลังวารีออกไปไกลๆ นั้น พลังเวทย์ภายในร่างพลันหยุดชะงักลง อยู่ๆ มุกพลังวารีก็หนักขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ จนทำให้แขนเขาสั่นสะท้านและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลยแม้แต่น้อย

แต่ดูเหมือนว่าหลิ่วหมิงได้คาดการณ์ไว้แต่แรกแล้ว หลังจากกล้ามเนื้อแขนขยายใหญ่ขึ้น พลังมหาศาลก็ทะลักออกมา

มุกกลมสีดำถูกโยนออกไปจนดูพร่ามัว มันปะทะใส่กองหินระเกะระกะที่อยู่ไกลออกไปสามสี่จั้ง

“ตู๊ม!” บังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

พอพื้นดินสั่นสะเทือน กองหินเหล่านั้นก็ระเบิดออกมา ก่อให้เกิดหลุมยักษ์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางสามสี่จั้ง ลึกครึ่งจั้ง ทุกสิ่งที่อยู่ข้างในล้วนกลายเป็นผุยผง ก้อนหินบริเวณรอบๆ ก็ถูกอานุภาพนี้สั่นสะเทือนจนแตกกระจาย

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็โบกมือไปทางหลุมยักษ์ทันที

“ฟู่!” มุกพลังวารีพุ่งขึ้นจากหลุม และค่อยๆ ลอยมาตกอยู่ในมือเขา ตอนนี้มันกลับมามีสภาพไร้น้ำหนักอีกครั้ง

หลิ่วหมิงตรวจสอบดูมุกกลมๆ อยู่ครู่หนึ่ง และแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา

หลังจากหยดพลังวารีถูกหลอมเป็นอาวุธจิตวิญญาณแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ผ่านการปรับแต่งหรือกระตุ้นชั้นจำกัดใดๆ มันก็ยังมีอานุภาพการทำลายล้างน่าตกใจเช่นนี้

ถ้าเขากลั่นหยดโลหิตและสามารถกระตุ้นชั้นจำกัดทั้งสิบแปดชั้นได้ เกรงว่าอานุภาพมันคงน่ากลัวจนยากที่จะรู้ได้

แน่นอนว่าเขาค้นพบเรื่องไม่ดีบางอย่างด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ควบคุมมุกพลังวารีเม็ดนี้ ต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้

การโจมตีเมื่อครู่ ต้องใช้พลังเจ็ดแปดส่วน ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเพิ่มพลังไปอีกส่วนหนึ่ง เกรงว่าคงไม่อาจกระตุ้นสมบัติชิ้นนี้ได้

ถ้าสมบัติชิ้นนี้ถูกปรับแต่ง และถูกกระตุ้นชั้นจำกัดล่ะก็ เกรงว่าคงต้องใช้พลังเยอะจนน่าตกใจ ซึ่งถ้าเปิดชั้นจำกัดทั้งหมดล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่ผู้ฝึกร่างโดยทั่วไปก็ไม่อาจควบคุมสมบัติชิ้นนี้ได้

แต่ดีที่การเพิ่มขึ้นของพลังเวทย์ในตอนนี้ ทำให้พลังเพิ่มมากขึ้นไปด้วย บวกกับต่อไปจะต้องฝึกเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นภายหน้าคงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

หลิ่วหมิงคิดได้เช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมามาก

แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ เขาไม่อาจสำแดงอานุภาพทั้งหมดของมุกพลังวารีได้ แต่การกระตุ้นสามชั้นจำกัดแรกคงไม่มีปัญหาใดๆ

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การโจมตีของมุกพลังวารีนับว่ารุนแรงเป็นอย่างมาก อาจารย์จิตวิญญาณโดยทั่วไปแปดถึงเก้าส่วน ไม่อาจรับมือกับการโจมตีนี้ได้

หลังจากคิดได้เช่นนี้ หลิ่วหมิงก็วางใจขึ้นมาเล็กน้อย

เวลาต่อมาเขาใช้มุกกลมๆ โจมตีอีกสองสามครั้ง หลังจากคุ้นเคยแล้วก็เตรียมที่จะไปจากหุบเขา

แต่ในขณะที่เขากำลังทำท่ามือเรียกเมฆนั้น ถุงหนังใบหนึ่งที่อยู่บนเอวก็ส่งเสียงดัง “หวึ่งๆ!” ออกมา และสั่นไหวอยู่ไม่หยุด

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อย แต่รีบดึงถุงหนังแล้วโยนไปในอากาศทันที

“ฟู่!”

ถุงหนังหมุนวนหนึ่งรอบ และแสงสีดำก็ม้วนตัวออกจากปากถุง แมงป่องกระดูกขาวยาวครึ่งจั้งปรากฏขึ้นบนพื้น

ตั้งแต่ปีศาจตนนี้กลืนกินปีศาจแมงป่องอีกตัวที่เทือกเขาหมื่นทมิฬแล้ว มันก็หลับสนิทอยู่ในถุงหนังตลอด ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงฟื้นขึ้นมา และหลังจากออกมาแล้ว มันก็บิดตัวดิ้นรนอยู่บนพื้น เปลวไฟสีม่วงคุโชนอยู่ไม่หยุด

ที่ทำให้น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ บนตัวของมันเต็มไปด้วยรอยแตกสีดำเป็นเส้นๆ

จากการสื่อสารกันทางจิต หลิ่วหมิงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของแมงป่องกระดูกขาวกับความคิดที่สับสนไปหมดได้อย่างชัดเจน

หลิ่วหมิงรีบทำท่ามือด้วยความรู้สึกเย็นสะท้านในใจ จากนั้นพลังเวทย์ก็พุ่งออกจากนิ้วทั้งสิบไปยังร่างของแมงป่องกระดูกขาวและจมหายเข้าไปในนั้น

แต่ปีศาจตนนี้ก็ยังคงดิ้นรนอยู่บนพื้นไม่หยุด ราวกับว่าไม่สามารถช่วยมันได้เลยแม้แต่น้อย

พอหลิ่วหมิงเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็มีสีหน้าหม่นหมองขึ้นมา หลังจากลังเลเล็กน้อยแล้ว ก็หยิบขวดเล็กๆ ออกจากอกมาหลายใบ และเทโอสถออกมาหลายเม็ดก่อนจะโยนไปให้แมงป่องกระดูกขาว

แมงป่องกระดูกขาวกระโดดงับโอสถทั้งหมดแล้วกลืนลงไป แต่ครู่ต่อมาก็ร่วงหล่นลงพื้นอย่างรุนแรง

ชั่วเวลาหนึ่งมื้อข้าวผ่านไป หลิ่วหมิงก็ดูหน้าเสียขึ้นมาเล็กน้อย

แมงป่องกระดูกขาวยังคงเจ็บปวดเช่นเดิม เห็นได้ชัดว่าโอสถเมื่อครู่ไม่มีผลเลยแม้แต่น้อย

ขณะที่เขาคิดไตร่ตรองอยู่ในใจว่าควรนำแมงป่องกระดูกขาวไปยังแดนปีศาจปรโลกหรือไม่นั้น แมงป่องกระดูกขาวก็เปล่งเสียงเสียงแหลมประหลาดออกมา จากนั้นก็พุ่งเข้าหาเขา

หลิ่วหมิงรู้สึกหวาดผวาทันที เขายกแขนขึ้นโดยไม่ต้องคิด นิ้วทั้งหน้าคว้าคอของแมงป่องกระดูกขาวไว้ราวกับเหล็ก ทำให้มันอยู่ห่างจากเขาฉื่อกว่าๆและไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้

แต่เท้าของมันก็ดิ้นไปมา และยังส่งเสียงร้องแหลมอยู่ไม่หยุด ราวกับจะพยายามเข้าใกล้หลิ่วหมิงให้ได้

จากความปรารถนาที่ส่งมาจากจิตของแมงป่องกระดูกขาว ดูเหมือนว่าจะรุนแรงกว่าตอนแรกหลายเท่า ท่าทีของมันดูวุ่นวายใจเป็นอย่างมาก

หลิ่วหมิงขมวดคิ้วเมื่อค้นพบว่าแมงป่องกระดูกขาวไม่ได้คิดจะโจมตีเขา มันเพียงแค่อยากเข้าใกล้เขาก็เท่านั้น

เขาคิดวกไปมาอย่างรวดเร็ว และค่อยๆ หดแขนเข้ามาเพื่อให้ร่างของแมงป่องกระดูกขาวเข้าใกล้ตนเอง

“ฟู่!”

ก้ามยักษ์ข้างหนึ่งของแมงป่องกระดูกขาวเคลื่อนไหวทันที มันฉีกชุดคลุมยาวตรงหน้าอกกับชุดที่อยู่ด้านในของหลิ่วหมิงจนขาด เผยให้เห็นเกราะหนังเกล็ดมังกรแดงที่สวมอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา