ดูเหมือนนางจะมีอายุไม่เกินยี่สิบเอ็ดถึงยี่สิบสองปี ดวงตาสุกใสเป็นประกาย ระหว่างคิ้วมีกลิ่นไอบางอย่างที่บอกไม่ถูก ราวกับว่าไม่ใช่คนในโลกมนุษย์ แก้มทั้งสองข้างมีอักขระสีทองจางๆ ติดอยู่ ทำให้นางดูลึกลับมากขึ้น
ประจักษ์ชัดว่าวงแหวนสีฟ้าเมื่อครู่คือสิ่งของของนางนั่นเอง นางลงมือโจมตีจางซิ่วเหนียงกับชายหนุ่มแซ่อวิ๋นพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าพลังของนางล้ำลึกจนยากจะคาดเดาได้
พอได้เห็นฉากนี้ แม้แต่หลิ่วหมิงก็แสดงสีหน้าผิดปกติออกมา
ขณะนี้ จางซิ่วเหนียงก็สลัดตัวออกจากอ้อมกอดของหลิ่วหมิงด้วยสีหน้าแดงก่ำ หลังจากกล่าวขอบคุณแล้ว ก็จ้องมองหญิงชุดคลุมหลากสีด้วยแววตาเยือกเย็น ขณะเดียวกันก็ชักกระบี่ยาวหิมะขาวออกมาอีกครั้ง
“ท่านคือใครกัน? คิดไม่ถึงว่าจะแอบซ่อนตัวอยู่ในอาวุธจิตวิญญาณเพื่อโจมตีพวกเรา นี่นับว่าเป็นความสามารถอย่างนั้นหรือ?” จางซิ่วเหนียงตะโกนถามออกไป
แต่หญิงสาวชุดหลากสีกลับกวาดตามองพวกหลิ่วหมิงอย่างไม่สะทกสะท้าน พอนางโบกมือกลางอากาศ วงแหวนสีฟ้าก็พุ่งกลับมา และค่อยๆ ตกลงบนมือนางอย่างมั่นคง จากนั้นนางก็กล่าวออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ซุ่มโจมตีผู้น้อยอย่างพวกเจ้าน่ะหรือ! ช่างน่าขันเสียจริง ข้าแค่พักผ่อนอยู่ในนั้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น แต่ว่าเผ่าเจ้าสมุทรทั้งสามของอวิ๋นชวนช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ บาตรพลิกสมุทรแค่ใบเดียวก็ไม่อาจคุ้มครองไว้ได้ ดูท่า! ถ้าข้าไม่ลงมือเองคงจะไม่ได้”
พอกล่าวจบ ร่างของนางก็ลอยขึ้น และเดินมาทางหลิ่วหมิงกับจางซิ่วเหนียงอย่างไม่สะทกสะท้าน
ส่วนวานรสามตาที่ชายหนุ่มแซ่อวิ๋นควบคุมอยู่นั้น แม้จะยังดิ้นสลัดให้หลุดพ้นจากพันธนาการอยู่ แต่ร่างของมันกลับอ่อนยวบยาบ กระดูกแต่ละชิ้นถูกโจมตีจนแตกละเอียด จนไม่สามารถลุกขึ้นมารับมือกับศัตรูได้
“ศิษย์น้องหลิ่ว เจ้ามีท่าไม้ตายอะไรรีบงัดออกมาให้หมด ถ้าพวกเราไม่สามารถโจมตีฝ่ายตรงข้ามให้ถอยไปได้ล่ะก็ เกรงว่าสถานที่แห่งนี้คงเป็นที่ฝั่งร่างของพวกเราแล้ว” จางซิ่วเหนียงเลิกคิ้วกล่าวกับหลิ่วหมิง จากนั้นก็อ้าปากพ่นโลหิตบริสุทธิ์ใส่กระบี่ยาวในมือ หลังจากกวัดแกว่งเล็กน้อย กระบี่ยาวหิมะขาวก็กลายเป็นสีเลือด ขณะเดียวกันกลิ่นไอบนร่างก็เพิ่มขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด ราวกับว่านางเข้าใกล้ระดับผลึกแล้ว
พอหลิ่วหมิงได้ยินเช่นนี้ ก็รีบปล่อยพลังเวทย์ใส่ป้ายกระดูกขาวอย่างไม่รอรี จากนั้นก็สะบัดไปด้านหลังทันที
แผ่นป้ายพร่ามัวหายวับเข้าไปในร่างของปีศาจมนุษย์หมื่นกระดูก
ครู่ต่อมา ปีศาจมนุษย์ก็เงยหน้าคำรามเสียงออกมา ไอดำบนร่างพวยพุ่งรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็กลายเป็นเปลวเพลิงสีดำที่สูงหลายจั้ง
มือทั้งสองของปีศาจมนุษย์หมื่นกระดูกคว้าไปกลางอากาศ “ฟู่!” “ฟู่!” กระบี่ยักษ์สีดำยาวสิบกว่าจั้งก่อตัวขึ้นมา
พอหลิ่วหมิงใช้เคล็ดวิชากระดูกดำกระตุ้น ปีศาจมนุษย์หมื่นกระดูกก็พุ่งเข้าหาหญิงสาวชุดคลุมหลากสีตรงหน้าทันที ขณะเดียวกันกระบี่ยักษ์ในมือทั้งสอง ต่างก็ฟันปราณกระบี่อันน่ากลัวออกไป
แต่พริบตาที่ปราณกระบี่สีดำม้วนตัวออกไป ก็มีเปลวเพลิงสีดำจำนวนมากพุ่งออกจากในนั้น หลังจากที่มันหมุนติ้วๆ รวมตัวกันแล้ว ก็พุ่งโจมตีหญิงสาวชุดคลุมหลากสี
ขณะนี้ จางซิ่วเหนียงก็ตะโกนเสียงต่ำออกมา พริบตานั้นนางกับกระบี่ยาวในมือก็กลายร่างเป็นสายรุ้งสีเลือดอันน่าตกใจ และม้วนตัวเข้าหาหญิงสาวตรงหน้า
มันคือวิชาขี่กระบี่ ที่ต้องฝึกฝนถึงระดับขั้นกลางจึงจะผสานร่างกับกระบี่ได้
สำหรับกระบี่นี้ จางซิ่วเหนียงแทบจะปล่อยพลังออกไปทั้งหมด และภายใต้การเสริมแรงของโลหิตบริสุทธิ์ อานุภาพของมันก็ใกล้เคียงกับผู้ฝึกฝนระดับผลึกทั่วไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน วานรสามตาที่เหมือนว่าไม่สามารถกระดิกตัวได้ ก็พยายามสะบัดหัว ทันใดนั้นดวงตาโลหิตที่อยู่ระหว่างคิ้วก็ลืมขึ้นมา
บังเกิดเสียงดังขึ้น!
ลำแสงสีเลือดพุ่งออกจากดวงตาไปยังด้านหน้าหญิงสาวชุดคลุมหลากสีทันที และก็ไปถึงก่อนเปลวเพลิงสีดำกับสายรุ้งสีเลือดก้าวหนึ่ง
หญิงสาวที่เผชิญหน้ากับการรวมพลังโจมตีของทั้งสาม กลับไม่ท่าทีรีบร้อนเลยแม้แต่น้อย แต่นางกลับทำเสียงฮึดฮัดออกมา จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองหนีบวงแหวนสีฟ้าไว้ ขณะเดียวกันก็ร่ายคาถาออกมา
วงแหวนสีฟ้าขนาดใหญ่กระเพื่อมออกจากร่างของนาง ทุกที่วงแหวนพุ่งผ่านล้วนหยุดชะงักในฉับพลัน
ไม่ว่าจะเป็นลำแสงหรือเปลวเพลิงปีศาจ ล้วนถูกแสงสีฟ้ากวาดล้างจนค่อยๆ ดับไป
เปลวเพลิงสีดำที่ออกปากปีศาจมนุษย์หมื่นกระดูกฟันลงบนวงแหวน แต่พอแสงสีฟ้าม้วนตัวกลับ เปลวไฟสีดำบนร่างก็ดับไป ทำให้มันกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็ก ที่มีสีฟ้าแวววาว
โครงกระดูกยักษ์ที่อยู่ในน้ำแข็งไม่อาจกระดิกตัวได้อีก
และหลิ่วหมิงก็ขาดการติดต่อกับมันในพริบตา
พอสายรุ้งสีฟ้าที่กลายร่างมาจากจางซิ่วเหนียงสัมผัสโดนวงแหวนแสง มันก็จมเข้าไปในวงแหวนแสงครึ่งหนึ่งท่ามกลางเสียงดังเปรี๊ยะๆ จากนั้นก็หยุดค้างอยู่อย่างนั้น โดยไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีก
แต่จางซิ่วเหนียงยังคงพยายามกระตุ้นกระบี่ยาวในมืออย่างสุดชีวิต ทันใดนั้นกลิ่นไอกระบี่อันน่าตกใจก็พุ่งออกจากร่างของนาง พอแสงสีเลือดเปล่งประกายออกมาอย่างบ้าคลั่งก็มีเสียงดัง “เปรี๊ยะๆ!” แสงสีฟ้าแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ
สายรุ้งสีเลือดกระพริบแสงทีเดียว ก็สามารถทะลวงแสงสีฟ้าที่ต้านทานไว้ได้ จากนั้นก็ม้วนตัวพุ่งไปยังหญิงสาวชุดคลุมหลากสีตรงหน้าอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ
ดวงตาของหญิงสาวชุดคลุมหลากสีเปล่งประกายเล็กน้อย นางเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาเป็นครั้งแรก จากนั้นนางก็สะบัดแขนเสื้อ ง้าวสั้นสามง่ามสีทองอร่ามปรากฏออกมา มันพร่ามัวไปฟันสายรุ้งอันน่าตกใจที่อยู่ตรงหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา