ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 299

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 299 วิชาฝึกศพ
ตอนที่ 299 วิชาฝึกศพ
โดย
Ink Stone_Fantasy
ภายในห้องลับตรงถ้ำที่พักแห่งใหม่ หลิ่วหมิงกำลังนั่งหลับตาขัดสมาธิอยู่ ในทะเลจิตรับรู้มีคัมภีร์สีดำค่อยๆ พลิกอยู่ที่ละหน้า

ผ่านไปสักพัก เขาถึงลืมตาทั้งคู่ขึ้นมา สีหน้าเขาราวกับกำลังคิดอะไรอยู่

เขาทำความเข้าใจขั้นแรกของเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬแล้ว คงจะเริ่มฝึกฝนได้สักที

ด้วยการที่เขาเข้าใกล้ผู้ฝึกฝนระดับของเหลวขั้นต้น ขั้นแรกของเคล็ดวิชานี้คงฝึกฝนได้ไม่ยากนัก

ปัญหาเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ทุกระยะเวลาการฝึกฝนต้องสูดเอาไอหยินเข้าสู่ร่างกายจำนวนมาก

ไอหยินนั้นหาได้ง่าย นอกจากแดนปีศาจปรโลกแล้ว ในนิกายยังมีถ้ำหลายแห่งที่มีไอหยินอยู่ เพียงใช้แต้มคุณูปการจำนวนหนึ่งก็สามารถเข้าไปฝึกฝนได้แล้ว แต่เขาต้องระวังการสูดไอหยินมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เขากลายเป็นมนุษย์ครึ่งปีศาจได้

แต่ตามที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ มีของเหลวจิตวิญญาณที่เรียกว่า ‘วารีหยางบริสุทธิ์’ ซึ่งป้องกันภัยหยินได้อย่างง่ายดาย และการพบกันของหยินและหยางนั้น ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ได้

แต่เขาเคยถามเรื่องนี้มาแล้ว วารีหยางบริสุทธิ์เป็นของจิตวิญญาณฟ้าดินในตำนาน สำหรับผู้ฝึกฝนที่ฝึกเคล็ดวิชาพลังหยางแล้ว มันมีผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง

พันปีก่อนเคยมีวารีหยางบริสุทธิ์ปรากฏออกมาขวดหนึ่ง หลังจากก่อเกิดลมที่มีกลิ่นคาวเหม็นคลุ้งไปทั่ว มันก็หายสาบสูญไป

หลิ่วหมิงคิดจะหามัน คงเป็นเรื่องเพ้อฝันเท่านั้น

ดีที่นอกจากวารีหยางบริสุทธิ์แล้ว ยังมีโอสถกับยันต์ธาตุหยาง ที่สามารถยับยั้งและควบคุมภัยจากไอหยินได้ส่วนหนึ่ง

และเมื่อฝึกฝนเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬล้ำลึกขึ้น ร่างกายก็จะต้านทานไอหยินได้มากขึ้น

สรุปง่ายๆ ก็คือ เพียงแค่เขาผ่านด่านยากในช่วงแรกๆ ไปได้ ภัยจากไอหยินในตอนท้ายก็ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจมัน

แน่นอน หลิ่วหมิงลังเลอยู่นานสองนาน เหตุผลที่ตัดสินใจเสี่ยงฝึกฝนก็คือ เคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬมีอานุภาพแข็งแกร่งมาก ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่วิชาอื่นๆ ในนิกายจะสามารถเปรียบเทียบได้ ทำให้เขาไม่อาจละทิ้งมัน

หลิ่วหมิงคิดเงียบๆ อยู่นานสองนาน จากนั้นก็ทำท่ามือด้วยมือเดียว คัมภีร์สีดำในทะเลจิตรับรู้สลายตัวไปทันที

หลังจากเขาเงียบไปสักพัก ก็พลิกมือข้างหนึ่งขึ้นมา แผ่นหยกสีดำปรากฏขึ้นในมือ

มันคือแผ่นหยกบันทึกเคล็ดวิชาฝึกศพที่อาจารย์อาเยี่ยนมอบให้เขานั่นเอง

ตอนที่อยู่ในเมืองยักษ์ เขายุ่งจนไม่ได้ดูบันทึกในนั้นอย่างจริงจัง ตอนนี้เขามีเวลาศึกษาว่าเคล็ดวิชานี้มีความมหัศจรรย์อย่างไรบ้างแล้ว

หลิ่วหมิงนำแผ่นหยกมาวางบนหน้าผาก เขากระตุ้นพลังจิตให้จมดิ่งเข้าไปในนั้น

ในนิกายปีศาจนับว่าวิชาฝึกศพเป็นวิชาขั้นสูง แม้แต่ศิษย์สาขาฝึกศพเองก็ใช่ว่าจะมีคุณสมบัติฝึกวิชานี้ทุกคน

เคล็ดวิชาฝึกศพนี้ เป็นเคล็ดวิชาที่อาจารย์อาเยี่ยนรวบรวมมาจากเคล็ดวิชาฝึกศพต่างๆ บวกกับที่อาจารย์อาเยี่ยนได้ทดลองด้วยตนเองมาหลายปี ในที่สุดก็สรุปรวบยอดเป็นเคล็ดวิชาฝึกศพชุดนี้

ตามที่กล่าวไว้ในแผ่นหยก วิชาฝึกศพแบ่งเป็นศพกระดูก ศพโลหิต ศพเหล็ก ศพเงิน ศพทองคำเป็นต้น และนอกจากมีข้อยกเว้นโดยเฉพาะของแต่ละอย่างแล้ว วิชาฝึกศพทั้งหมดต้องค่อยๆ ฝึกทีละขั้น จากขั้นต่ำไปขั้นสูง

แน่นอนว่าศพแต่ละระดับ ใช้วิธีการบ่มเพาะแตกต่างกัน ทั้งยังแบ่งเป็นประเภทย่อยๆ ได้อีก

ยกตัวอย่างเช่น ศพกระดูกสามารถแบ่งเป็น ศพกระดูกดำ ศพกระดูกขาวศพกระดูกฟ้า เป็นต้น ศพโลหิตแบ่งเป็น ศพโลหิตพิษ ศพโลหิตเย็น ศพโลหิตดุเดือด เป็นต้น

และศพเหล็กแบ่งเป็นศพเหล็กขนเขียว ศพเหล็กเกราะยมบาล เป็นต้น

ศพกระดูกที่อ่อนแอที่สุด มีระดับการฝึกฝนแค่ศิษย์จิตวิญญาณทั่วไปเท่านั้น ส่วนศพเงิน และศพทองคำขั้นสูง ก็มีพลังน่าตกใจในระดับแก่นเสมือนไปจนถึงแก่นแท้เลยทีเดียว

ศพกระดูกที่หลิ่วหมิงเคยเห็นในแดนปรโลก มองในอีกแง่หนึ่งก็นับว่าเป็นศพกระดูกด้วยเช่นกัน

แต่จะแตกต่างจากศพกระดูกที่ใช้วิธีฝึกศพบ่มเพาะมา ศพกระดูกที่เกิดขึ้นเองนี้ เดิมทีเป็นแค่โครงกระดูกที่ผ่านการแช่ไอหยินมานานหลายปี จนก่อเกิดเป็นปีศาจระดับต่ำอย่างง่ายๆ ดังนั้นรูปร่างของมันจึงพิลึกกึกกือเป็นอย่างมาก

และศพกระดูกแท้จริงควรเป็นร่างมนุษย์ และถ้าจะให้ก่อตัวเป็นรูปร่าง จะต้องเลือกศพที่ใหม่ที่สุด จากนั้นแช่ในของเหลวจิตวิญญาณที่ผสมมาโดยเฉพาะ เป็นเวลานานสี่สิบเก้าวัน เพื่อให้เนื้อหนังมังสาภายนอกหลุดลอกออกมา

จากนั้นก็นำไปฝังใต้พื้นดินลึกที่มีไอหยิน แล้วค่อยขุดออกมา

ศพกระดูกที่เพิ่งกำเนิดขึ้นมาใหม่นี้ พริบตาที่มันก่อเกิดสติปัญญา จำเป็นต้องให้ผู้บ่มเพาะแสดงวิชาลบสติปัญญามันออกไป และประทับตราของตนเองไว้ในหัวของมัน ซึ่งทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือบริสุทธิ์ได้

หากว่าหลังจากศพกระดูกก่อกำเนิดแล้วใช้วิธีการอื่นๆ บ่มเพาะมันต่อ ร่างของมันก็อาจจะบังเกิดเนื้อหนังมังสาชั้นบางๆ ซึ่งมีโอกาสพัฒนากลายเป็นศพโลหิตที่สามารถต่อกรกับอาจารย์จิตวิญญาณได้

หากพลังแฝงของศพโลหิตมีมากพอ ก็ยังสามารถพัฒนากลายเป็นศพระดับสูง อย่างศพเหล็ก ศพเงินได้

มันแตกต่างจากภูตบ่มเพาะ ปีศาจกระดูกมนุษย์ และหุ่น

ศพเหล่านี้สามารถกลายเป็นร่างอวตารของผู้บ่มเพาะ และสามารถใช้เคล็ดวิชาเฉพาะบางอย่างที่ศพเหล่านี้แสดงออกมาได้ นี่ถึงเป็นแก่นแท้ของวิชาฝึกศพ

ตามที่กล่าวไว้ในเคล็ดวิชาฝึกศพ ศพกระดูกขั้นต่ำสุดมีเงื่อนไขเพียงแค่เป็นศพใหม่ๆ เท่านั้น โดยทั่วไปสามถึงสี่ศพก็สามารถฝึกสำเร็จได้หนึ่งศพ ซึ่งนับว่าก่อเกิดได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นศพโลหิต ถึงใช้ศพถึงสิบศพ ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีศพใดที่ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา