ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 301

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 301 ปีศาจสมุทรแปดขา
ตอนที่ 301 ปีศาจสมุทรแปดขา
โดย
Ink Stone_Fantasy
“เจ้านี่ผ่านด่านเคราะห์ครั้งหนึ่ง ต้องใช้เวลานานถึงขนาดนี้! ถ้าไม่กลับมาล่ะก็ ข้าเกือบจะไปหาด้วยตนเองแล้ว!” แม้หลิ่วหมิงจะรู้สึกตกใจที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของแมงป่องกระดูก แต่พอลูบหลังของมันแล้ว ก็แสดงสีหน้าดีใจออกมาอย่างอดไม่ได้

แมงป่องกระดูกขาวอยู่กับเขามาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และยังผ่านอันตรายมาด้วยกันไม่ใช่น้อย ย่อมมีความผูกพันธ์กันเป็นธรรมดา

ขณะนั้นเอง มีเงาร่างเคลื่อนไหวจากอีกด้านหนึ่งของป่า ศีรษะผู้ชายลอยเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง มันคือหัวบินตนนั้นนั่นเอง

หัวบินลอยมาตรงหน้าหลิ่วหมิง และหยุดอยู่บริเวณนั้นด้วยสีหน้านอบน้อม

“ข้าดูหน่อยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมพวกเจ้าถึงอยู่ข้างนอกนานขนาดนี้” หลิ่วหมิงวางแมงป่องกระดูกลงบนบ่า นิ้วมือทั้งห้าแยกออกจากนั้น และกดลงบนหัวของหัวบิน

เขาหลับตาทั้งคู่ลง ไอดำม้วนตัวออกจากร่าง พลังจิตซึมเข้าไปในทะเลจิตรับรู้ ทำให้เขารับรู้เรื่องราวทุกอย่างที่หัวปีศาจตนนี้เผชิญมา

“อะไรนะ! การกลายพันธุ์ของแมงป่องกระดูกใช้เวลานานหนึ่งปี และขณะที่ผ่านด่านเคราะห์นั้น มีสายฟ้าสีดำฟาดลงมา และถูกเจ้านี่ดูดเข้าไปในร่างจำนวนมาก”

หลิ่วหมิงดูต่ออีกครู่หนึ่ง เขาแสดงสีหน้าตกใจออกมา พอลืมตาทั้งสองขึ้น ก็จ้องมองแมงป่องกระดูกขาวด้วยความประทับใจ

ดูเหมือนว่าปีศาจตนนี้ จะมองท่าทีสงสัยของหลิ่วหมิงออก มันสะบัดหางในทันที อสรพิษอัปลักษณ์สีดำอ้าปากพ่นสายฟ้าออกมา เป้าหมายคือป่าดงดิบที่อยู่ไม่ไกล

พอแสงสายฟ้าเปล่งประกายออกมา สายฟ้าสีดำก็ปะทะกับต้นไม้ใหญ่ และกระพริบผ่านไป!

ไร้ซึ่งสุ้มเสียงใดๆ ต้นไม้ใหญ่ยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเสียหายเลยแม้แต่น้อย

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ขมวดคิ้ว และคิดจะไปตรวจสอบดูให้ละเอียด แต่ต้นไม้ใหญ่กลับส่งสียงดัง “โครม!” จากนั้นก็กลายเป็นควันสีดำก่อนหายไป เหลือไว้เพียงหลุมขนาดใหญ่

ฉากอันน่าประหลาดใจนี้ ทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อย

เขารีบทำท่ามือด้วยมือเดียว และส่งพลังจิตไปยังระหว่างคิ้ว และปล่อยออกไปสำรวจดูหลุมขนาดใหญ่ทันที

“เอ๊ะ! นี่คือพลังอะไรกัน ดูเหมือนกับว่าจะเป็นพลังสายฟ้า แต่ก็ไม่ค่อยเหมือน เหมือนจะมีพลังอื่นๆ ปะปนอยู่เล็กน้อย แย่แล้ว! พลังนี้สามารถกลืนกินพลังจิตได้ และไม่อาจแยกออกมาได้”

ตอนแรกหลิ่วหมิงพูดพึมพำกับตนเอง แต่พอพลังจิตค่อยๆ ตรวจสอบพลังที่เหลืออยู่ในหลุม เขาก็ต้องดึงพลังจิตกลับมาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก และหลุดปากกล่าวออกมาราวกับเจอผี

เขารับรู้ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ดึงพลังจิตกลับมาเมื่อครู่นั้น มีพลังประหลาดบางอย่างปะปนมาด้วย และพอพลังจิตส่วนที่เหลือในทะเลจิตรับรู้ได้สัมผัสกับมัน ก็ดูเซื่องซึมขึ้นมา

แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาหน้าเปลี่ยนสีได้อย่างไร

แต่ขณะนั้นเอง แมงป่องกระดูกบนไหล่กลับขยับหัวอสรพิษตรงหลัง พริบตาเดียวก็กัดไปยังต้นคอหลิ่วหมิง ขณะเดียวกันพลังแปลกประหลาดบางอย่างก็ทะลักออกมา และซึมเข้าไปในทะเลจิตรับรู้ของหลิ่วหมิง

ตอนแรกหลิ่วหมิงรู้สึกตกตะลึง แต่ทันทีที่รับรู้ได้ถึงพลังสองสายที่ปะทะกันในหัว มันก็สลายไปพร้อมกันอย่างน่าประหลาดใจ

ขณะนี้แมงป่องกระดูกส่งเสียงออกมาด้วยความพอใจ และคลายปากออกจากต้นคอหลิ่วหมิง

“ทำได้ไม่เลว! อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่ความสามารถนี้ของเจ้า ก็สมกับที่เข้าสู่ระดับของเหลวแล้ว” หลิ่วหมิงเห็นเช่น ก็รู้สึกดีใจมาก เขาใช้มือลูบหัวแมงป่องกระดูก และกล่าวด้วยความดีใจ

เวลาต่อมา หลิ่วหมิงก็ทดสอบการโจมตีอื่นๆ ของแมงป่องกระดูกด้วยความประหลาดใจ

สุดท้ายก็ค้นพบว่า นอกจากจะปล่อยสายฟ้าสีดำในเมื่อครู่ได้แล้ว การโจมตีอื่นๆ ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนมากนัก เพียงแต่ว่าความเร็วในการโจมตีกับความแข็งแกร่งของร่างกาย แตกต่างจากแต่ก่อนราวฟ้ากับดิน

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ลำพังแค่เกล็ดสีแดงบนตัวแมงป่องกระดูก ก็เห็นได้ชัดว่ามีความเกี่ยวข้องกับเกล็ด และหนังมังกรที่มันกลืนกินไปในก่อนหน้านั้น

แม้จะเทียบไม่ได้กับเกล็ดมังกรที่ร่างหลิ่วหมิงสามารถปล่อยออกมาภายนอกได้ แต่ก็เกินกว่าที่อาวุธจิตวิญญาณจะสามารถทำลายได้ แน่นอน! ส่วนที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ หางตะขอที่เป็น ‘หัวอสรพิษ’ นั่นเอง

ขณะนี้ หัวอสรพิษตรงหลังแมงป่องกระดูกหวดลงพื้นอย่างเต็มแรง แม้แต่ระดับการฝึกฝนของหลิ่วหมิงในตอนนี้ ก็ไม่อาจมองเห็นการโจมตีของมันได้อย่างชัดเจน เขาเพียงแค่ได้ยินเสียงระเบิดดังออกมา จากนั้นก็ปรากฏร่องยาวๆ บนพื้นอย่างชัดเจน

สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้หลิ่วหมิงดีใจมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากทดสอบเสร็จแล้ว ก็ทำท่ามือชี้ไปบนตัวแมงป่องกระดูก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา