ระยะห่างขนาดนี้ ดูเหมือนว่าปีศาจอสูรก็ยังรับรู้อะไรบางอย่างได้
“ลงมือ!”
หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ ก็ตะโกนกับชายหนุ่มทันที พอสะบัดแขนเสื้อกระบี่สั้นสีทองก็ปรากฏขึ้นในมือ
พอนิ้วมือนิ้วหนึ่งลูบผ่านตัวกระบี่ มันก็เปล่งแสงเย็นสะท้านออกมา
ในขณะเดียวกัน หานหลีก็หยิบดาบสั้นสีขาวและตวัดไปกลางอากาศ ทันใดนั้นพายุเย็นสะท้านก็ก่อตัวขึ้น วงแหวนแสงสีขาวปรากฏขึ้นตรงหน้าเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็พร่ามัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ครู่ต่อมา ปีศาจอสูรสีแดงที่ดูเหมือนจะรับรู้ถึงความผิดปกติ ก็คำรามเสียงออกมา จากนั้นก็ขยับขาทั้งสี่แล้วลุกขึ้นยืน
ในขณะนั้นเอง ไอเย็นสะท้านจากตัวมันก็ม้วนออกไปรอบด้าน วงแหวนแสงสีขาวปรากฏออกมาหลายวง และแสงแวววาวก็ถูกบังคับให้หมุนวนในฉับพลัน จากนั้นก็กลายเป็นวงแหวนน้ำแข็งแวววาวขนาดใหญ่
พยัคฆ์โลหิตที่เพิ่งลุกขึ้นมาไม่ทันได้ระวัง จึงกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง “ตุ๊บ!”
แต่มันก็แหงนหน้าคำรามด้วยความโมโห เปลวโลหิตพวยพุ่งออกจากตัวอย่างบ้าคลั่ง พอวงแหวนน้ำแข็งสัมผัสกับมัน ก็ค่อยๆ ละลายออกมา
แต่ขณะนั้นเอง กลิ่นไออันน่ากลัวก็ระเบิดออกจากร่างหลิ่วหมิง กระบี่สั้นสีทองพร่ามัวขยายยาวหลายฉื่อ หลังจากใช้เคล็ดวิชากระตุ้นมันอีกครั้ง ก็กลายเป็นสายรุ้งสีทองที่ยาวสองจั้ง และทะยานขึ้นฟ้า
พยัคฆ์โลหิตรู้สึกเพียงแค่ว่ามีแสงสีทองกระพริบอยู่ไกลๆ จากนั้นสายรุ้งอันน่าสะพรึงก็มาถึงเหนือหัวในพริบตา และกลายเป็นเงากระบี่อันครั่นคร้ามฟันลงด้านล่าง
ใจกลางเงากระบี่ที่ยาวหลายจั้ง มีกระบี่สั้นสีทองอยู่ในนั้น
ปีศาจอสูรที่ถูกวงแหวนน้ำแข็งผูกมัดอยู่ ไม่สามารถหลบหลีกได้ในขณะนี้ แต่พอรับรู้ได้ว่าไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ ก็ย่อมไม่อาจอยู่นิ่งๆ ให้สังหารได้
มันคำรามเสียงดังออกมา เลือดพุ่งกระจายออกจากตัว เปลวไฟโลหิตคุโชนกว่าเดิมเท่ากว่าๆ และกลายเป็นเงาร่างพยัคฆ์สีเลือดกระโจนใส่เงากระบี่
ขณะเดียวกัน กะโหลกศีรษะของปีศาจพยัคฆ์ก็เปิดออกมา ผลึกสีแดงเลือดขนาดเท่าไข่ไก่พุ่งออกจากในนั้น
ด้วยอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดอย่างกระบี่จันทราทองคำ ไหนเลยที่เงาร่างของปีศาจระดับของเหลวจะสามารถต้านทานได้
พอมีเสียงดัง “ฉับ!”
เงาร่างพยัคฆ์โลหิตก็โดนเงากระบี่สีทองทำลาย และฟันโดนผลึกหินสีแดงที่พุ่งออกมาอย่างรุนแรง
“ตู๊ม!”
ผลึกหินสีเลือดระเบิดตัวกลายเป็นแสงโลหิตอันเจิดจ้า เงากระบี่สีทองถูกลำแสงโลหิตจำนวนมากเจาะทะลุ พริบตาเดียวก็แตกกระจายไป
แต่ครู่ต่อมา ก็มีเสียงกระบี่ดังขึ้น!
เงากระบี่ที่แตกกระจายเปล่งประกายท่ามกลางแสงจิตวิญญาณ และฟันแสงโลหิตออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดาย และถือโอกาสลงไปรัดพันลำคอของปีศาจอสูร
สายโลหิตพุ่งออกจากผิวหนังตรงลำคอของปีศาจอสูรโดยไร้สุ้มเสียง!
หัวขนาดใหญ่ของพยัคฆ์โลหิตสั่นไหวสองสามที จากนั้นก็หมุนกลิ้งลงไปด้านล่าง
ไม่เพียงแต่แค่นี้ สายรุ้งยังพร่ามัวระเบิดเงากระบี่ออกมาเป็นจำนวนมาก มันม้วนตัวเข้าใส่ร่างไร้หัวของพยัคฆ์โลหิต และปั่นจนกลายเป็นเนื้อบด
แต่หลังจากที่หัวพยัคฆ์กลิ้งไปไกลหลายฉื่อแล้ว กลับพ่นไอสีเขียวออกจากจมูกในทันที มันห่อหุ้มหัวไว้และกะที่จะพุ่งขึ้นฟ้าเพื่อหลบหนี
เหมือนว่าหลิ่วหมิงจะคาดการณ์ไว้ก่อนแล้ว เขาเพียงแค่ขยับแขน ก็คว้าฝ่ามือไปยังอากาศที่อยู่ไกลๆ
“ฟู่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา