‘ตันกาน’ จ้องมองอสรพิษดำตรงหน้าที่ปรากฏออกมาฉับพลัน พอเขายกมือลูบหน้าผาก ก็สัมผัสกับโลหิตสีดำและมันสมองที่ไหลออกมา สีหน้าเขาดูเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก หลังจากพูดพึมพำไปไม่กี่ประโยค ร่างของเขาก็ไร้เรี่ยวแรง และล้มลงไป ขณะเดียวกันโล่แสงสีขาวตรงหน้า ก็กลายเป็นจุดแสง และสลายไป
แต่ศพยังล้มไม่ทันถึงพื้น ศีรษะก็ระเบิดออกมา ไอดำห่อหุ้มอะไรบางอย่างแล้วพุ่งขึ้นฟ้าหลบหนีไป
เส้นขนแข็งๆ ตรงบาทายักษ์กลายเป็นอสรพิษดำกว่าครึ่งหนึ่ง และพุ่งยิงออกไป แต่ส่วนล่างของมันยังติดอยู่กับบาทายักษ์
เสียงร้องดังออกมาอย่างเวทนา สิ่งที่อยู่ในไอดำถูกอสรพิษดำเหล่านี้งับไว้
พอไอดำสลายไป หน้ากากสีเขียวขนาดเท่าลูกกำปั้นก็โผล่ออกมา มันมีสีหน้าหวาดผวาราวกับสิ่งมีชีวิต แต่พริบตาเดียวก็ถูกอสรพิษดำฉีกทึ้งจนเละ และกลืนกินลงไป แม้แต่ศพบนพื้นก็ไม่เหลือ
ผ่านไปไม่นาน คราบเลือดบนพื้นก็ถูกอสรพิษดำกวาดกินจนหมดสิ้น จากนั้นมันก็หดตัวกลับไปเป็นขนแข็งๆ เช่นเดิม
อสรพิษดำที่เจาะทะลุศีรษะ ‘ตันกาน’ กลับบินวนอยู่บริเวณบาทายักษ์ ราวกับว่าอยากเข้าใกล้ แต่ก็ไม่กล้า
พอกลิ่นไอของอสรพิษดำตนนี้อ่อนแอลงเรื่อยๆ มันก็พุ่งเข้าหาบาทายักษ์ทันที
และพริบตาที่อสรพิษดำสัมผัสกับบาทายักษ์ เงาร่างอสรพิษยักษ์ก็ลอยออกจากตัวของมัน พอมีเสียงดัง “เพล้ง!” ผลึกสีดำก็ถูกอสรพิษยักษ์พ่นออกมา
อสรพิษดำพร่ามัวกลายเป็นขนแข็งยาวๆ และไปติดอยู่ใต้บาทายักษ์ มันดูเหมือนขนแข็งเส้นอื่นๆ ไม่มีผิด ราวกับว่ามันเป็นหนึ่งในนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
……
ในขณะที่หน้ากากสีเขียวถูกฉีกทึ้งจนแตกกระจายนั้น ในวิหารสีดำตรงไหล่เขาปีศาจยักษ์ พลันมีเสียงร้องออกจากโลงไม้สีดำอย่างน่าเวทนา “ไม่!”
จากนั้นฝาโลงก็พุ่งขึ้นฟ้า เงาร่างสีดำลุกขึ้นมา แต่มือทั้งสองคว้าไปข้างหน้าอย่างสะเปะสะปะ จากนั้นศีรษะก็ระเบิดออกมาเอง
ไอดำพุ่งออกจากร่างไร้ศีรษะ และกลายเป็นพายุบ้าระห่ำพุ่งขึ้นฟ้าไป
พอไอดำพุ่งขึ้นไปส่วนบนของวิหารสีดำ ก็สัมผัสโดนชั้นจำกัดในวิหาร ทันใดนั้น ม่านแสงหลากสีก็เปล่งประกายขึ้นมา บังเกิดเสียงดังโครมครามดังก้องอยู่บริเวณไหล่เขา…
นอกวิหารที่ใช้หารือเรื่องต่างๆ บนยอดเขาปีศาจยักษ์ มีเงาร่างผู้คนเคลื่อนไหวอยู่ไม่หยุด ทันใดนั้น ผู้ฝึกฝนชายหญิงระดับของเหลวที่สวมชุดแตกต่างกันเจ็ดแปดคน ก็มารวมตัวกันหน้าประตูใหญ่ และถือแผ่นค่ายกลเพื่อตรวจสอบรอบด้านอยู่ไม่หยุด
ผ่านไปมานาน หญิงชุดเขียวใบหน้างดงามผู้หนึ่ง ก็หลุดปากออกมา
“เป็นไปได้อย่างไร! มีคลื่นสั่นสะเทือนมาจากวิหารปีศาจดำ!”
“เป็นวิหารปีศาจดำไม่มีผิด! หรือว่า…” ชายผอมแห้งใบหน้าสีเหลืองกล่าวด้วยความตกตะลึง
คนอื่นๆ ก็สบตากันครู่หนึ่ง จากนั้นก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมา
ในขณะนั้นเอง ลำแสงสีดำอีกลำก็พุ่งจากออกจากด้านหลังของวิหาร มันเปล่งประกายไม่กี่ที ก็มาถึงอากาศบริเวณนั้น พอลำแสงดับลง ก็ปรากฏร่างชายหนุ่มสวมชุดผ้าดิ้น ที่มีอายุราวๆ ยี่สิบกว่าปี พอเขาเห็นผู้คนที่อยู่ด้านล่าง ก็รีบกล่าวด้วยสีหน้าซีดเผือด
“ศิษย์พี่ที่ลาดตระเวนทั้งหลาย ป้ายชีวิตของอาจารย์ลุงซินแตกกระจายไปแล้ว”
พอคำพูดนี้เปล่งออกมา สีหน้าของผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็เปลี่ยนไป และเงียบเป็นเป่าสากไปชั่วขณะหนึ่ง
……
นอกเจดีย์กักปีศาจ ประมุขนิกายหยวนหมัวนั่งขัดสมาธิอยู่เงียบๆ พอมีเสียงดังหวึ่งๆ ออกจากแขนเสื้อ เขาก็สะบัดมันด้วยความตกตะลึง แผ่นกลมๆ สีขาวลอยออกมา หลังจากหมุนวนไปหนึ่งรอบ ก็ลอยอยู่ด้านหน้าอย่างเงียบๆ
แสงสีขาวเปล่งประกายบนแผ่นค่ายกล อักขระสีเงินแถวหนึ่งปรากฏออกมา
ประมุขนิกายหยวนหมัวกวาดสายตามองดูแค่ทีเดียวก็ลุกขึ้นมา สีหน้าเขาดูไม่ได้เป็นอย่างมาก!
“ศิษย์พี่ท่านประมุข เกิดอะไรขึ้น?” เซียวเยวี่ยไป๋ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นเห็นเช่นนี้ ก็ถามด้วยความประหลาดใจ
“อาจารย์ท่านเสียชีวิตแล้ว!” หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ประมุขนิกายหยวนหมัวก็กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บปวด
พอกล่าวจบ ก็กวาดสายตามองดูหญิงสาวผมยาวที่ชื่อ ‘โหรวเอ๋อร์’ อย่างอดไม่ได้
ตอนนี้หญิงสาวกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้น และกำลังอ่านคัมภีร์สีเงินจางๆ เล่มหนึ่งอย่างออกอรรถรส ประจักษ์ชัดว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย
“อะไรนะ! เป็นไปไม่ได้! แม้อาจารย์ท่านจะถูกพลังปีศาจสะท้อนกลับ แต่จะเสียชีวิตไปง่ายๆ ได้อย่างไร” เซียวเยวี่ยไป๋รู้สึกอึ้งไปทันที แต่ก็หลุดปากกล่าวออกมา
แต่เขาไม่ได้ใช้วิชากระซิบเสียง
พอได้ยินคำพูดนี้ ไม่ว่าหญิงสาวผมยาว หรือว่าอาจารย์จิตวิญญาณนิกายหยวนหมัวที่นั่งขัดสมาธิอยู่บริเวณนั้น ต่างก็ตัวสั่นขึ้นมา และมองไปยังชายฉกรรจ์พร้อมกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา