นอกจากนี้ ในหอยสังข์ย่อส่วนยังมีหินจิตวิญญาณระดับสูงเพิ่มขึ้นมาสองหมื่นกว่าหินจิตวิญญาณ
เมื่อหลิ่วหมิงได้รับสิ่งของที่ใช้ยืนยันและหินจิตวิญญาณแล้ว เขาก็ไปซื้อวัสดุหลอมอาวุธที่คิดว่าตนเองต้องใช้จากร้านอื่นๆ มาจำนวนหนึ่ง
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ วัสดุระดับสูงที่เขาต้องใช้ในการสร้างกระบี่บินกลับไม่มีเลย
แม้แต่ในหุบเขาเหล็กอัคคี วัสดุหลักที่ใช้สร้างกระบี่บินที่แท้จริง ยังเป็นสิ่งที่ขาดแคลนเป็นอย่างมาก ไม่สามารถหาได้โดยง่าย
ครึ่งวันต่อมา หลิ่วหมิงกลับที่พักของตนเอง และเริ่มทำการฝึกฝนโดยไม่ออกไปข้างนอกอีก
แต่ขณะที่งานประมูลใหญ่ของเหยียนเจวี๋ยใกล้จะมาถึงนั้น ผู้ฝึกฝนจากภายนอกก็เข้ามาในหุบเขาเหล็กอัคคีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาคนเดียว หรือมาเป็นกลุ่มสามถึงห้าคน ล้วนดูลึกลับเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนจะไม่ต้องการให้คนนอกรู้สถานะของตนเอง
แต่สำหรับผู้พิทักษ์ของหุบเขาเหล็กอัคคีแล้ว ขอเพียงแค่คนเหล่านี้ไม่หาเรื่องในหุบเขา พวกเขาย่อมไม่ค่อยสนใจมากนัก
ในขณะนั้นเอง ไม่รู้ว่าเรื่องเล่าลือเกี่ยวกับอาวุธจิตวิญญาณที่เหยียนจวี๋ยสร้างขึ้นมาในครั้งนี้ ถูกใครแพร่งพรายออกไป และกระจายไปทั่วหุบเขาอย่างรวดเร็ว
ว่ากันว่าครั้งนี้เหยียนเจวี๋ยสร้างอาวุธจิตวิญญาณทั้งหมดห้าชิ้น โดยเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับกลางหนึ่งชิ้น ระดับสูงสามชิ้น และระดับสุดยอดหนึ่งชิ้น!
โซ่ตรวนสะกดวิญญาณยังไม่ต้องพูดถึง แม้จะเป็นแค่อาวุธจิตวิญญาณระดับกลาง แต่ด้วยที่มันมีน้อย และมีพลังป้องกันการโจมตีจากเคล็ดวิชาที่ใช้พลังจิต ทั้งยังสามารถควบคุมการถูกชิงร่างได้ ย่อมมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก
และอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงสามชิ้น ล้วนมีอานุภาพอันน่าตกใจ และมีชั้นจำกัดแฝงอยู่เป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าจะอยู่ในระดับสูงสุดของอาวุธจิตวิญญาณระดับสูง
ส่วนอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอด แม้จะไม่ได้บอกว่าเป็นของล้ำค่าระดับใด แต่ทองคำคลื่นทะเลที่ใช้เป็นวัสดุในการสร้างนั้นหาได้ยากยิ่ง มันช่วยเพิ่มพลังให้กับผู้ฝึกฝนพลังธาตุน้ำ หรือปีศาจอสูรในทะเลเป็นอย่างมาก สำหรับพวกเขาแล้ว ดูเหมือนจะมีพลังยั่วยวนจนไม่อาจต้านทานได้ และครั้งนี้ยังเป็นฝีมือของเหยียนเจวี๋ย ที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสามผู้เชี่ยวชาญการหลอมอาวุธของเขตทะเลชังไห่ ดังนั้นมูลค่ามันจึงสูงจนยากที่จะรับรู้ได้
แต่แน่นอนว่า สำหรับผู้ฝึกฝนคนอื่นหรือกลุ่มอิทธิพลอื่นๆ แล้ว แม้อาวุธจิตวิญญาณหนึ่งชิ้นเพียงพอที่ทำจะให้หมดเนื้อหมดตัวได้ แต่ก็ยังประมูลเพื่อให้ได้มันมาอย่างไม่เสียดาย
ในห้องรับรองที่ตกแต่งอย่างหรูหราแห่งหนึ่ง เผ่าเจ้าสมุทรที่มีรูปร่างแตกต่างกันจำนวนมาก กำลังรวมตัวกันฟังชายรูปร่างกำยำเล่าอะไรบางอย่างอยู่
“อะไรนะ! ครั้งนี้คนของราชาปีศาจสมุทรก็มาถึงหุบเขาแล้ว และเป้าหมายของพวกเขาก็ดูเหมือนจะเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดชิ้นนี้?” พอชายผู้นี้เล่าจบ ผู้อาวุโสร่างผอมแห้งที่อยู่ตรงหน้าก็กล่าวออกมาด้วยประกายตาที่ดุร้าย
หากหลิ่วหมิงอยู่ที่นี่ด้วย ก็จะจำได้ว่าผู้อาวุโสตรงหน้าก็คือ ‘ลี่คุน’ ผู้แข็งแกร่งระดับผลึกที่ตามล่าเขาพันลี้ในวันนั้นนั่นเอง
เพียงแต่ตอนนี้ เขาดูแก่กว่าตอนนั้นมาก เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะจิตที่แบ่งไปให้นักรบยันต์เกราะทองคำถูกทำลาย ส่งผลให้สูญเสียอายุขัยไปจำนวนมาก
“ใช่แล้วผู้อาวุโส ข้าดูไม่ผิดอย่างแน่นอน สองคนที่ข้าพบในก่อนหน้าราชาปีศาจเจ้าสมุทร หากข้าไหวตัวหลบไม่ทัน เกรงว่าคงถูกพวกเขาค้นพบแล้ว” ชายรูปร่างกำยำกล่าวอย่างนอบน้อม
“ฮึ! ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเขาจะต้องมาเพื่ออาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดชิ้นนี้ ได้ยินมาตั้งนานแล้วว่า แม้ราชาปีศาจสมุทรผู้นั้นจะเข้าสู่ระดับแก่นแท้แล้ว แต่อาวุธจิตวิญญาณที่ปรับแต่งในก่อนหน้านั้น ถูกทำลายในขณะที่ใช้ต้านทานด่านเคราะห์สวรรค์ ช่วงนี้กำลังตามหาอาวุธจิตวิญญาณที่เหมาะสมอยู่ ในเมื่อเขามาปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ จะต้องมาเพื่ออาวุธจิตวิญญาณระดับสุดยอดที่สร้างมาจากทองคำคลื่นทะเลอย่างแน่นอน เพราะเดิมทีราชาปีศาจสมุทรก็เป็นอสูรจิตวิญญาณธาตุน้ำ อาวุธจิตวิญญาณชิ้นนี้มีประโยชน์ต่อเขาเป็นอย่างมาก” หญิงเผ่าเจ้าสมุทรที่มีคิ้วหนาสีดำกล่าวด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ของมันแน่อยู่แล้ว ที่พวกเรามาในครั้งนี้ ก็ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอกหรือ ครั้งนี้นับว่าทั้งสามเผ่าในอวิ๋นชวนของเรา ต่างก็ทำเพื่อราชวงศ์ จะต้องสำเร็จอย่างเดียวไม่อาจพ่ายแพ้ได้” ลี่คุนได้ยินก็กล่าวด้วยสีหน้าดุร้าย
“ผู้อาวุโสลี่วางใจเถอะ! ครั้งนี้นายท่านเปิดคลังสมบัติให้พวกข้านำวัสดุล้ำค่ามาจำนวนไม่น้อย มันเพียงพอที่จะแลกอาวุธระดับสุดยอดได้ชิ้นหนึ่ง” พอหญิงเผ่าเจ้าสมุทรได้ยินเช่นนี้ ก็หัวเราะแล้วกล่าวออกมา
“ฮูหยินหลานอย่าได้ดูถูกชิงฉินผู้นี้โดยเด็ดขาด ด้วยสถานะผู้ฝึกฝนระดับผลึกของเขา ในเมื่อมาที่นี่ด้วยตนเอง จะต้องเอาอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงชิ้นนี้ไปให้ได้ พวกเราก็อย่าได้ชะล่าใจไป” ลี่คุนส่ายหน้าแล้วกล่าวออกมา
“อันนี้ข้าน้อยย่อมรู้ดี แต่ถ้าอยากได้อาวุธจิตวิญญาณในหุบเขาเหล็กอัคคี ยังต้องอาศัยวงศ์ตระกูลกับกำลังทรัพย์ด้วย ฮึ! เจ้าชิงฉินเดิมทีก็เป็นแค่ปีศาจในทะเลเท่านั้น ไหนเลยจะนำกำลังทรัพย์มาเทียบกับพวกเราได้” หญิงผู้นี้เบะปากกล่าวด้วยความไม่พอใจ
แม้ดูเหมือนการฝึกฝนของนางจะไม่เกินไปกว่าระดับของเหลวขั้นกลาง แต่เหมือนนางจะมีสถานะพิเศษ จึงดูไม่เกรงกลัวผู้แข็งแกร่งระดับผลึกอย่างลี่คุนเลย
ลี่คุนได้ยินเช่นนี้ ก็เพียงแค่พยักหน้าโดยไม่กล่าวอะไรออกมา
“เจียหลาน ตามที่ข้าทราบมา แม้ระดับของโซ่ตรวนสะกดวิญญาณชิ้นนั้นจะไม่สูง แต่คงจะคู่ควรกับร่างละเมอฝันของเจ้าเป็นอย่างมาก หากเป็นไปได้ล่ะก็ ประมูลมันมาด้วยเถอะ!” หญิงเผ่าเจ้าสมุทรหันมากล่าวกับหญิงสาวชุดสีฟ้าอย่างเป็นกันเอง
“ขอบคุณป้าอวี๋มาก หากได้อาวุธจิตวิญญาณชิ้นนี้มาล่ะก็ ย่อมเพิ่มอานุภาพของพลังที่ข้าฝึกฝนได้ถึงสามส่วนอย่างแน่นอน” หญิงสาวชุดฟ้าเงยหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้ม
นางดูมีอายุไม่เกินยี่สิบปี คิ้วดำจมูกสวยราวกับหยก ผิวหนังอ่อนนุ่ม ดวงตาเปล่งประกายแวววาว ริมฝีปากแดง เส้นผมสีดำยาวจรดบ่า พอยิ้มออกมาแลดูน่าหลงใหลยิ่งนัก
นางคือเจียหลานที่เคยเป็นไส้ศึกของเผ่าเจ้าสมุทรในปีนั้น!
……
อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องหินที่ค่อนข้างเย็น ชายฉกรรจ์ชุดคลุมสีดำกับหญิงกระโปรงแดง กำลังนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหากัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา