ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 355

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 355 การต่อสู้หมู่ในหุบเขา (2)
ตอนที่ 355 การต่อสู้หมู่ในหุบเขา (2)
โดย
Ink Stone_Fantasy
พอกล่าวจบ ผู้ฝึกฝนเผ่าเจ้าสมุทรสี่คนที่อยู่ด้านหลังเซียนเซิ่งจี ก็เคลื่อนไหวอย่างพร่ามัวมาปรากฏอยู่ข้างเซียนเซิ่งจีอย่างรวดเร็ว

เมื่อเท้าของทั้งสี่ยืนนิ่งแล้ว ก็จัดวางกำลังพร้อมต่อสู้

แต่ละคนต่างมีอาวุธจิตวิญญาณคนละหนึ่งชิ้น ดูจากภายนอกแล้ว ดูเหมือนจะสร้างมาจากหยกบางชนิด อาวุธจิตวิญญาณแต่ละชนิดได้แก่ ขลุ่ยหยก กลองหยกแดง ฆ้องหยกดำ และผีผาหยก

“ลงมือ!”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียนเซิ่งจีหายไป ภายใต้เสียงตะคอกเบาๆ กู่ฉินหยกขาวที่เปล่งแสงสีเงินจางๆ ก็ปรากฏอยู่บริเวณหน้าอก นิ้วทั้งสิบดีดและลูบกู่ฉินเบาๆ เงานิ้วไหวพลิ้วไปมาอย่างรวดเร็ว จนดูตาลายไปหมด แต่มันกลับแฝงไปด้วยท่วงทำนองแปลกๆ

เสียงเพลงบางครั้งก็แผ่วโผย บางครั้งก็กระชั้นถี่!

ผู้ฝึกฝนทั้งสี่โยนอาวุธจิตวิญญาณขึ้นบนอากาศ ขณะเดียวกันก็เริ่มร่ายคาถาออกมา และต่างก็ทำท่ามือที่ซับซ้อน เพื่อกระตุ้นพลังเวทย์ภายในร่าง

อักขระหลากสีพุ่งยิงออกจากมือของพวกเขาทั้งสี่ และจมหายเข้าไปอาวุธจิตวิญญาณที่ลอยอยู่ตรงหน้า

อาวุธจิตวิญญาณทั้งสี่ชิ้นเปล่งประกายขึ้นมาทันที อักขระสีขาวไม่ทราบชื่อลอยขึ้นมาจากพื้นที่บริเวณนั้น และสั่นไหวตามท่วงทำนองที่แตกต่างกัน ดูเหมือนเสียงขลุ่ย เสียงกลอง เสียงฆ้อง และเสียงผีผาที่ดังออกมา จะขับรับกับท่วงทำนองของกู่ฉิน

เสียงดนตรีทั้งห้าชนิดประสานเข้าด้วยกัน ฟังดูไพเราะราวกับเสียงที่มาจากสรวงสวรรค์ ทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกหลงใหลราวดับอยู่ในดินแดนของเซียน

ลำแสงพุ่งออกจากอาวุธจิตวิญญาณ และจมหายไปในกู่ฉินหยกขาวตรงหน้าเซียนเซิ่งจี

อาวุธจิตวิญญาณทั้งสี่ที่อยู่รอบๆ กู่ฉิน เริ่มเปล่งประกาย และหดขยายอยู่ไม่หยุด ท่วงทำนองเริ่มดูสับสนเล็กน้อย จากนั้นแสงสว่างก็เปล่งประกายตามท่วงทำนองของกู่ฉิน ขณะเดียวกันก็หดตัวราวกับเป็นร่างเดียวกัน

“น่าสนใจ! ผู้น้อยเผ่าเจ้าสมุทรทั้งห้าที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย วันนี้ข้าจะดูว่าพวกเจ้าจะเล่นไม้ไหนกัน” ชื่อลี่มองภาพแปลกประหลาดตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่นางยังคงไม่ลงมือ

แต่พริบตาต่อมา รอยยิ้มบนใบหน้าของชื่อลี่ต้องหยุดชะงักลง จากนั้นก็ดูจริงจังขึ้นมามาก

ตอนนี้เขาค้นพบว่ากลิ่นไอบนตัวของเซียนเซิ่งจีเพิ่มขึ้นตามเสียงเพลงอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุดก็ทะลวงจากระดับของเหลวขั้นปลายเข้าสู่ระดับผลึก!

ชื่อลี่รู้ตัวว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้ว ดังนั้นจึงไม่กล้าหน่วงเหนี่ยวอีกต่อไป นางรีบทำท่ามือด้วยสีหน้าดุร้าย และใช้มือซ้ายตบไปทางเซียนเซิ่งจีอย่างรุนแรง

หลังจากที่นางตบออกไป ก็มีเสียงดังมาจากอากาศ ลูกแสงสีแดงเจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์ก่อตัวขึ้นมา มันหมุนติ้วๆ เหนือศีรษะเซียนเซิ่งจีไม่หยุด และระเบิดคลื่นสั่นสะเทือนอันรุนแรงออกมา

ขณะที่มันใกล้จะหล่นลงมานั้น แสงเย็นสะท้านก็เปล่งประกายในแววตาของเซียนเซิ่งจี มือของนางไม่ได้ลดการเคลื่อนไหวลงเลยแม้แต่น้อย นิ้วทั้งสิบพลิ้วไหวอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวอักขระหลากสีก็พุ่งออกจากกู่ฉินที่อยู่ตรงหน้า และจมเข้าไปในลูกแสงที่ใกล้จะตกลงมา ทำให้ความสว่างของมันลดลงไปมาก

……

เจียหลานอยู่ในห้องข้างห้องโถงใหญ่ เนื่องจากใกล้จะครบกำหนดหนึ่งเดือนแล้ว นางจึงขมวดคิ้ว และเดินวนไปมาอยู่ไม่หยุด

พอนางได้ยินเสียงต่อสู้กันอย่างรุนแรงดังมาจากภายนอก ก็สั่งให้ลูกน้องสองสามดูแลลี่คุนกับป้าอวี๋ให้ดี จากนั้นก็ออกไปจากประตูอย่างรวดเร็ว

แต่ครู่ต่อมา สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปทันที และบิดตัวหลบห่างออกไป

“เพล้ง!”

หลังจากเจียหลานหลบไปแล้ว ดาบเล่มหนึ่งก็ฟาดผ่านอากาศที่ร่างของนางเคยยืนอยู่ กลิ่นไอบนดาบดุเดือดรุนแรงจนอากาศสั่นไหว และไอเย็นสะท้านก็พุ่งออกมา

หากนางไหวตัวไม่ทัน เกรงว่าคงถูกดาบเล่มนี้ฟันออกเป็นสองส่วนแล้ว!

พอมองออกไป จะเห็นว่ามีชายฉกรรจ์แปดคนยืนอยู่ตรงหน้าเจียหลาน และล้อมตัวนางไว้

พวกเขามีใบหน้าอัปลักษณ์ ดูจากกลิ่นไอแล้ว เหมือนจะมีการฝึกฝนอยู่ที่ระดับของเหลวขั้นต้นถึงของเหลวขั้นกลาง และยังสวมชุดแบบเดียวกันด้วย ตรงหน้าอกมีตรารูปเกล็ดหิมะปักอยู่

เจียหลานรู้ว่านี่คือสัญลักษณ์ของเผ่าปีศาจสมุทร

แม้ว่าหลายวันนี้ชื่อลี่จะไม่ปรากฏกาย แต่ก็แอบดูอยู่ไม่ห่าง นางเดินเที่ยวในหุบเขาเหล็กอัคคีอยู่ตลอด เพื่อจ้องหาโอกาสสยบปีศาจจำนวนหนึ่งให้อยู่ใต้คำสั่งของตน

ชายฉกรรจ์ทั้งแปดตรงหน้าเจียหลาน คือผู้ที่ชื่อสยบมาได้ในช่วงนี้

“คุณหนูเจียหลาน พวกเรามาช่วยท่านอีกแรง”

พอกล่าวจบ อาจารย์จิตวิญญาณระดับกลางอีกสองคนที่มาจากทางด้านเซิ่งจี ก็พุ่งมาทางเจียหลาน

ชายฉกรรจ์เผ่าปีศาจสมุทรที่อยู่ตรงหน้าแสดงแววาตาดุร้ายออกมา หลังจากสบตาเป็นนัยกับชายกรรจ์ที่อยู่ด้านข้างแล้ว ชายฉกรรจ์สี่คนก็ไปขัดขวางเผ่าเจ้าสมุทรทั้งสอง

พริบตานั้นเอง อาจารย์จิตวิญญาณเผ่าเจ้าสมุทรทั้งสอง ก็ต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามแบบหนึ่งต่อสอง

เจียหลานเห็นเช่นนี้ ก็แอบโล่งใจไปเปราะหนึ่ง นางจ้องมองชายฉกรรจ์ทั้งสี่อย่างไม่สะทกสะท้าน ใบหน้ายิ่งดูเยือกเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ มือเรียวเล็กยกขึ้นมาวางอยู่บริเวณหน้าอก ภายใต้การเคลื่อนไหวของนิ้วทั้งสิบ เคล็ดวิชาก็พุ่งยิงติดต่อกันเป็นลูกโซ่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา