ราชาปีศาจสมุทรโบกมือไปทางด้านหลังแล้วกล่าวอย่างราบเรียบ
“วางใจเถอะ! หนึ่งฝ่ามือที่ข้าพูดถึงใช้พลังเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเจ้ายังรับฝ่ามือข้าไม่ได้ล่ะก็ ข้าจะเก็บพวกเจ้าไว้ทำไม”
พอคำพูดนี้ออกจากปาก ผู้แข็งแกร่งระดับผลึกส่วนมากต่างก็มีสีหน้าผ่อนคลายลง
และพออู่เหยียนได้ยินเช่น ก็หรี่ตาทั้งคู่แล้วกล่าวออกมาอย่างไม่ลังเล “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ข้าเป็นคนรับฝ่ามือของท่านก่อนเถอะ!”
กล่าวยังไม่ทันจบ อู่เหยียนก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมออกมา จากนั้นก็ทำท่ามือด้วยมือทั้งสอง และปล่อยอักขระสีดำออกมา มันกระพริบเข้าไปในร่างหุ่นวิหคยักษ์ที่อยู่ใต้เท้า
เมื่ออักขระทะลักเข้าไป กลิ่นไอก็ประทุออกจากร่างหุ่นวิหคยักษ์อย่างบ้าคลั่ง ซึ่งมันไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งระดับผลึกเลย
พอมันกระพือปีกทั้งสอง จะเห็นว่าขนที่อยู่บนนั้นแหลมคมราวกับลูกธนู และยังแผ่แสงทรงกลดออกมาจางๆ
เกิดเสียงดังขึ้นเบาๆ!
สายรุ้งยาวสีดำที่กลายร่างมาจากหุ่นวิหคยักษ์ พุ่งเข้าใส่ราชาปีศาจสมุทร
ราชาปีศาจสมุทรเห็นอู่เหยียนมีความเด็ดขาดเช่นนี้ ก็แสดงความชื่นชมออกมาทางแววตา ทันทีที่หุ่นวิหคยักษ์เข้าใกล้นั้น เขาก็โบกมือขวาไปทางอากาศ พริบตาเดียวปราณจิตวิญญาณก็ทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็ก่อตัวเป็นฝ่ามือยักษ์ร้อยจั้งคว้าไปทางหุ่นวิหคยักษ์
พอเห็นสถานการณ์เช่นนี้ แววตาของอู่เหยียนก็ดูเฉียบขาดขึ้นมา เขาเปลี่ยนท่ามือและตะโกนออกมาทันที “ระเบิด!”
พริบตาที่ฝ่ามือจั้งปะทะกับหุ่นวิหคยักษ์ คลื่นสั่นสะเทือนอันน่าหวาดกลัวก็พุ่งออกจากร่างของหุ่นวิหคยักษ์ มันระเบิดตัวกลางอากาศทันที ก่อให้เกิดคลื่นอากาศจำนวนมาก กดดันจนฝ่ามือยักษ์ค่อยๆ หยุดชะงักลง
พริบตาที่ฝ่ามือยักษ์หยุดชะงักกลางอากาศ ก็มีง่ามยักษ์ยาวหลายจั้งปรากฏขึ้นในมือของอู่เหยียน พอดวงตาทั้งคู่ของเขาเคร่งขรึมขึ้นมา พลังเวทย์ก็พุ่งใส่ง่ามยักษ์อย่างบ้าคลั่ง
ง่ามยักษ์แผ่ลำแสงสีทองออกมาเป็นวงๆ ท่ามกลางลำแสงมีอักขระจำนวนมากหมุนวนไม่หยุด
“สกัดกั้น!”
อู่เหยียนตะโกนออกมาด้วยความโมโห น้ำเสียงราวกับเสียงฟ้าร้อง ขณะเดียวกันก็โบกแขนทั้งสองไปยังด้านหน้า ปราณจิตวิญญาณกลางอากาศค่อยๆ ทะลักเข้าไปในง่ามยักษ์ และกลายเป็นระลอกคลื่นหมุนวนไปรอบๆ
ระลอกคลื่นหมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ลำแสงสีทองบนง่ามยักษ์สว่างขึ้นกว่าเดิม สุดท้ายก็ก่อตัวเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว พุ่งโจมตีฝ่ามือยักษ์ร้อยจั้ง
แสงโค้งๆ เปล่งประกายลำแสงแสบตาออกมา อากาศบริเวณที่มันเคลื่อนตัวผ่านมีเสียงระเบิดดังออกมา
และฝ่ามือยักษ์ไม่ได้หลบหลีกเลยแม้แต่น้อย มันหันเข้าหาแสงโค้งๆ โดยตรง เมื่อทั้งสองอยู่ห่างกันไม่กี่จั้ง นิ้วมือของมันที่ยาวเกินสองสามจั้ง ก็ค่อยๆ กำเข้าหากัน
“กรอบแกรบ!”
พอเกิดเสียงดังขึ้น ฝ่ามือยักษ์ก็แผ่ลำแสงสีฟ้าจางๆ ออกมา มันกำแสงโค้งๆ สีทองไว้แน่น ทันใดนั้นลำแสงสีทองและสีฟ้าแต่ละลำ ก็บดบังท้องฟ้าจนเป็นสีเดียวกัน
หลิ่วหมิงจ้องมองกลางอากาศด้วยสีหน้าเคร่งขรึม พอรับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่ง ก็รู้สึกหวาดผวาอย่างอดไม่ได้
ขณะนี้สีหน้าอู่เหยียนกลับค่อยๆ หน้าเสียขึ้นมา
เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า แสงสีทองที่แผ่ออกมาถูกฝ่ามือยักษ์ปกคลุมอย่างรวดเร็ว แต่ที่ทำให้เขาดีใจเล็กน้อยก็คือ กลิ่นไอที่ฝ่ามือยักษ์แผ่ออกมาอ่อนแอกว่าก่อนหน้านั้นมาก
ขณะที่แสงโค้งๆ กำลังจะถูกฝ่ามือยักษ์ขยี้จนแหลกละเอียดนั้น ดวงตาอู่เหยียนก็เปล่งประกายออกมาอย่างเยือกเย็น เขาอ้าปากพ่นลูกศรโลหิตออกมาภายในพริบตา จากนั้นมันก็ส่งเสียงดัง “โพล๊ะ!” แล้วกลายสภาพเป็นหมอกลอยอยู่บริเวณหน้าอกของเขา
เขาทำท่ามือด้วยมือทั้งสอง และปล่อยอักขระสีทองออกมา อักขระสีทองจมเข้าไปในหมอกโลหิต ทำให้หมอกโลหิตพวยพุ่งขึ้นมา พอเขาโบกแขนเสื้อ พายุบ้าระห่ำปะปนด้วยหมอกโลหิตก็ม้วนเข้าหาฝ่ามือยักษ์กลางอากาศ
“ระเบิด!”
อู่เหยียนที่มีสีหน้าซีดขาวเล็กน้อยยืนอยู่กลางอากาศ เสื้อผ้าโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง แม้จะรู้สึกโมโหแต่ใบหน้าก็ยังน่าเกรงขาม เขายกแขนขวาขึ้นมาแล้วชี้ไปทางฝ่ามือยักษ์เบาๆ
ทันใดนั้น หมอกโลหิตที่ตลบอวลอยู่ก็ก่อตัวขึ้นมา มันแผ่คลื่นสั่นสะเทือนปกคลุมลำแสงสีฟ้าไว้
ฝ่ามือยักษ์ถูกบีบด้วยพลังมหาศาลเช่นนี้ ในที่สุดก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ และกลายเป็นจุดแสงก่อนหายไปในอากาศ
พออู่เหยียนเห็นฝ่ามือยักษ์ถูกทำลาย จิตใจของเขาก็สงบขึ้นมามาก เขาสมกับเป็นผู้นำหนึ่งในสามกลุ่มอิทธิพลใหญ่จริงๆ
ขณะนี้นอกจากจะหายใจหอบเล็กน้อยแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลย
หลังจากเขากลืนโอสถลงไปหนึ่งเม็ด ก็ยิ่งดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย
เห็นอู่เหยียนไม่สะทกสะท้านเช่นนี้ ราชาปีศาจสมุทรก็ยิ่งแสดงแววตาชื่นชมมากกว่าเดิม
พอคนอื่นๆ เห็นอู่เหยียนทำลายฝ่ามือยักษ์ได้ ก็รู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
ต่อมาผู้แข็งแกร่งระดับผลึกต่างเผ่าคนหนึ่ง ก็หายวับมาปรากฏต่อหน้าผู้คน และเอ่ยปากกล่าวกับราชาปีศาจสมุทรอย่างนอบน้อม
“ข้าน้อยยินดีรับฝ่ามือของราชาปีศาจสมุทรผู้ยิ่งใหญ่ หวังว่าท่านจะเมตตา!”
ราชาปีศาจสมุทรเห็นเช่นนี้ก็ตาเป็นประกาย รอยยิ้มบนใบหน้าไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขาโบกแขนเสื้อไปทางอากาศอย่างรุนแรง
ทันใดนั้น ฝ่ามือยักษ์ร้อยจั้งที่มีแสงสีฟ้าเปล่งประกาย ก็ปรากฏเหนือศีรษะคนผู้นี้
พอเขารับรู้ถึงแรงบีบอัดที่ถาโถมมาจากรอบด้าน สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าราชาปีศาจสมุทรคิดจะลงมือก็ลงมือเลย ทำให้เขารับมือไม่ทัน!
ดวงตาของเขาฉายแววเด็ดเดี่ยว จากนั้นก็อ้าปากพ่นลำแสงสีเงินออกมา มันสั่นไหวตามแรงลมจนกลายเป็นล้อเงินขนาดใหญ่ที่สูงสิบกว่าจั้ง และหมุนขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ปะทะใส่ฝ่ามือยักษ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา