ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 375

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 375 โจมตีทะลุฟ้า
ตอนที่ 375 โจมตีทะลุฟ้า
โดย
Ink Stone_Fantasy
แต่พอเย่เทียนเหมยได้ยิน สีหน้าของนางก็ค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้นมา พอนางโบกแขนเสื้อ กระบี่สีเงินก็พุ่งออกมาลอยอยู่บริเวณหน้าอก และส่งเสียงสั่นสะเทือนเบาๆ

“หากเจ้ารับการโจมตีข้าได้หนึ่งกระบี่โดยที่ไม่เป็นอะไร ค่อยมาพูดเรื่องนี้ก็ยังไม่สาย!”

“เยี่ยมไปเลย! คู่ชีวิตที่ข้าถูกใจไม่ธรรมดาเลยจริงๆ! ดี! ข้าจะยืนรอรับกระบี่ของเจ้าโดยไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย!” ราชาปีศาจสมุทรได้ยินก็ตบมือหัวเราะใหญ่

เย่เทียนเหมยทำเสียงฮึดฮัด จากนั้นกระบี่ตรงบริเวณหน้าอก ก็เปล่งแสงสีขาวเงินออกมา และกลายเป็นแสงสีเงินพุ่งขึ้นฟ้า

นางหายเข้าไปในแสงสีเงิน

ครู่ต่อมา แสงสีเงินส่งเสียงดังกังวาน สายรุ้งสีเงินสิบกว่าจั้งก่อตัวขึ้นมา และกระโจนไปยังฝ่ายตรงข้ามราวกับมังกรเงินที่พุ่งออกจากทะเล

พอเห็นการโจมตีที่มีอานุภาพเช่นนี้ อุ้งมือหลิ่วหมิงก็มีเหงื่อเย็นไหลออกมา

ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวจ้องมองแสงกระบี่ที่พุ่งเข้ามา แต่ดวงตาทั้งคู่กลับเป็นประกาย เขายืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนจริงๆ ชุดคลุมสีขาวโบกสะบัดตามแรงลม

“ฟัน!”

หลังจากมีเสียงตะคอกเบาๆ สายรุ้งสีเงินก็มาถึงด้านหน้าชายหนุ่มชุดคลุมสีขาว สามารถมองเห็นเงากระบี่ยักษ์อยู่ในนั้นรำไร และมันกำลังมุ่งหน้าฟันเข้ามา

แต่ยังไม่ทันได้ฟันลงมาจริงๆ กลิ่นไออันแหลมคมก็ม้วนตัวมาถึงก่อน แสงสีฟ้าจางๆ เปล่งประกายบนร่างชายหนุ่มชุดคลุมสีขาว จากนั้นมันก็กดดันจนไอเย็นสะท้านกระจายหายไป

ขณะเดียวกัน เขาก็ยกแขนขึ้น หลังจากกางนิ้วทั้งห้าออก แสงทรงกรดสีฟ้าจางๆ ก็ กระเพื่อมออกไป

ดูจากสภาพการณ์แล้ว เขาคิดจะรับการโจมตีด้วยมือเปล่า!

“ฟิ้ว!” กระบี่ยักษ์ฟันลงมาอย่างรุนแรง คมกระบี่ปะทุลำแสงแสบตาออกมา แต่กลังจากพร่ามัวแล้ว ก็ไม่รู้ว่าฟันลงบนฝ่ามือของชายหนุ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนั้นก็ไม่อาจบุกรุดไปข้างหน้าได้เลยแม้แต่น้อย

พอมีเสียงดังกังวานออกมา สายรุ้งสีเงินก็ม้วนกลับมาทันที

แสงสีเงินเปล่งประกาย หญิงสาวใบหน้างดงามสวมชุดสีขาว ถือกระบี่ด้วยมือข้างหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนอีกครั้ง และจ้องมองชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวตรงหน้าด้วยแววตาเยือกเย็น

ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวหดแขนกลับมา เขาแสดงสีหน้าเหมือนยิ้มแต่ไม่ใช่ยิ้ม จากนั้นก็กล่าวออกมา

“เป็นอย่างไรบ้าง ข้าน้อยเข้าตาท่านเซียนหรือไม่ ตอนนี้ยอมตอบตกลงเป็นคู่รักฝึกฝนของข้าหรือยัง?”

เย่เทียนเหมยไม่ได้ตอบเขาในทันที หลังจากเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก็ชี้นิ้วไปที่หลิ่วหมิงแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

“ให้ข้าตอบตกลงน่ะได้ แต่ต้องปล่อยเขาไปก่อน”

นางกล่าวยังไม่ทันจบ ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็เผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็หายไปภายในพริบตา ตอนนี้สีหน้าของเขาอึมครึมจนถึงขีดสุด หลังจากมองหลิ่วหมิงทีหนึ่งแล้ว ก็กล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น

“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังมีสิทธิ์อะไรมาเสนอเงื่อนไขกับข้า ส่วนศิษย์หลานของเจ้า ก็ต้องรับฝ่ามือของข้าเหมือนคนอื่นๆ ถึงมีสิทธิ์มีชีวิตรอด!”

“ถ้าเช่นนั้นก็อย่าหวังว่าข้าจะเป็นคู่รักฝึกฝนของเจ้า! เจ้าลงมือเถอะ!” เย่เทียนเหมยยืนเงียบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากกระตุกกระบี่เงินในมือแล้ว ก็กล่าวออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน

พอคำพูดนี้ออกจากปาก ผู้คนต่างก็รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที

คนจำนวนไม่น้อยมองไปทางหลิ่วหมิง

มาถึงเวลานี้ เกรงว่าใครก็มองออกว่าความสัมพันธ์ของนางกับหลิ่วหมิงคงไม่ธรรมดา

เจียหลานเบิกตากว้างด้วยสีหน้าประหลาดใจ

ขณะนี้ แม้หลิ่วหมิงจะมีสีหน้าสงบเป็นปกติ แต่รู้สึกราวกับมีคลื่นโหมซัดสาดอยู่ในใจ ความรู้สึกแปลกๆ ทะลักไปยังหัวใจ ทันใดนั้น เขาก็พุ่งไปอยู่ด้านข้างเย่เทียนเหมยอย่างรวดเร็ว

เย่เทียนเหมยรู้สึกตกใจมาก นางคิดจะพูดอะไรกับหลิ่วหมิง แต่หลิ่วหมิวกลับโบกมือห้ามนางด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ค่อยๆ หันไปมองราชาปีศาจสมุทร และกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ

“ข้าน้อยไร้ความสามารถ แต่ขอราชาปีศาจสมุทรจงมอบฝ่ามือให้กับข้า!”

พอคำพูดนี้ออกจากปาก สีหน้าผู้คนในนั้นก็ดูมีสีสันขึ้นมาทันที บ้างก็ตกตะลึง บ้างก็เหยียดหยาม ส่วนมากแสดงสีหน้าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

ฝ่ามือของระดับแก่นแท้ที่แม้แต่ผู้ฝึกฝนระดับผลึกยังต้านทานได้ยาก แม้จะบอกว่ามีพลังแค่เพียงหนึ่งส่วน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนระดับของเหลวอย่างหลิ่วหมิงจะสามารถรับได้ไหว

พอชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวเห็นหลิ่วหมิงเดินมาขอฝ่ามือโดยไม่คาดคิด เขาก็ไม่ได้รีบพูดอะไรออกมา แต่กลับหรี่ตาสังเกตชายหนุ่มระดับของเหลวขั้นกลางตรงหน้าหนึ่งรอบ แล้วทำเป็นมองเย่เทียนเหมยอย่างไม่ใส่ใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา