ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา นิยาย บท 379

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 379 พระราชวังใต้ทะเล
ตอนที่ 379 พระราชวังใต้ทะเล
โดย
Ink Stone_Fantasy
หลังจากหลิ่วหมิงใช้พลังจิตตรวจสอบไปหลายรอบ ก็ค้นพบว่าไอหมอกสีดำเหล่านี้จะไม่ดูดกลืนพลังเวทย์เอง มีเพียงแค่ตอนที่เขากระตุ้นพลังเวทย์สลายมัน มันถึงทำเช่นนี้

ทุกครั้งที่ไอหมอกสีดำกลกลืนกินพลังเวทย์ สีของมันก็จะเข้มกว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย และการกัดเซาะอวัยวะของเขาก็เร็วขึ้นด้วย

เพียงแต่กายเนื้อของหลิ่วหมิงแข็งแกร่งมาก พลังในการฟื้นฟูก็น่าตกใจ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องกลัวผลกระทบของการกัดเซาะนี้

แต่หากเป็นผู้ฝึกฝนระดับผลึกคนอื่นๆ ล่ะก็ แม้ว่าในระยะเวลาสั้นๆ อาจจะไม่เป็นอะไร แต่พอนานเข้ากลับมีผลกระทบต่อร่างกายไม่น้อย

“โอสถสีดำนี้มีผลอย่างไรกันแน่……”

หลิ่วหมิงขมวดคิ้วแล้วพูดพึมพำออกมา ชั่วขณะนี้เขายังคิดหาวิธีจัดการมันไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีทางเลี่ยง เขาทำได้แต่เก็บเรื่องไอหมอกสีดำไว้ก่อน จากนั้นก็พาจิตเคลื่อนย้ายไปยังทะเลจิตวิญญาณ

พอจิตของเขากวาดผ่านไป ก็ค้นพบว่ามีกลุ่มแสงสีเลือดขนาดเท่าเม็ดถั่วลอยอยู่บริเวณทะเลจิตวิญญาณ และค่อยๆ หมุนวนอย่างช้าๆ กลุ่มแสงหดตัวและกระพริบราวกับมีชีวิต

สิ่งนี้คือแสงโลหิตที่ลอยออกมาจากป้ายลึกลับในก่อนหน้านั้น และหายเข้าไปในร่างของเขาครึ่งหนึ่ง

กลุ่มแสงสีเลือดนี้เหมือนกับไอหมอกสีดำ ขณะที่เขาลองให้พลังเวทย์บีบมันออกไป ไม่เพียงแต่จะไม่ได้ผลเท่านั้น แต่กลับถูกมันดูดกลืนอย่างง่ายดาย

ขณะนี้ พวกมันทั้งสองต่างก็เกาะแน่นอยู่ที่เดิมราวกับจะฝังรากไว้ พลังเวทย์ไม่อาจขับมันออกไปได้

“ดูท่าชั้นจำกัดของราชาปีศาจสมุทรคงจะแปลกประหลาดมาก ต้องรอหาวิธีจัดการในภายหลังแล้ว”

หลิ่วหมิงคิดใคร่ครวญอยู่รอบหนึ่ง จากนั้นก็เก็บเรื่องไอหมอกดำกับกลุ่มแสงโลหิตเอาไว้ก่อน และหยิบยันต์ฟื้นฟูพลังเวทย์ออกจากยันต์เก็บของมาทานหลายเม็ด และนั่งขัดสมาธิต่อ

พริบตาที่โอสถละลายเป็นพลังบริสุทธิ์ มันค่อยๆ ไหลผ่านลำคอไปสู่เส้นชีพจรต่างๆ จากนั้นพลังเวทย์ที่เหลืออยู่น้อยนิด ก็ค่อยๆ ฟื้นฟูเส้นชีพจรที่ได้รับบาดเจ็บ

หลิ่วหมิงรู้ดีว่า อีกไม่นานก็จะถูกส่งไปยังถ้ำเหมืองแร่ในทะเลลึกแล้ว แม้เขาจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้นเลย แต่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันไม่ใช่สถานที่ที่ดีอย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่สนว่าต่อไปจะมีแผนอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือรีบฟื้นฟูพลังเวทย์ให้เร็วที่สุด เช่นนี้แล้วเวลาเผชิญหน้ากับอันตรายถึงมีพลังคุ้มครองตนเองได้

หากไม่มีชีวิตล่ะก็ ทุกอย่างก็จะเสียแรงเปล่า! ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ได้แต่ดูตามสถานการณ์ก็เท่านั้น

หลิ่วหมิงคิดไตร่ตรองอยู่เช่นนี้ และค่อยๆ รู้สึกสงบขึ้นมา เขาไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกอีก

เวลาที่เหลือหลิ่วหมิงรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในห้องบนเรืออย่างเงียบๆ จนเวลาผ่านไปสองเดือน

ภายในระยะเวลาสองเดือนนี้ นอกจากเขาจะเข้าฌาน และตื่นขึ้นมาทานโอสถทิพย์กับโอสถฟื้นฟูพลังเวทย์แล้ว เขายังเคยพยายามปล่อยพลังจิตสำรวจการเคลื่อนไหวบริเวนรอบๆ ห้อง แต่นอกจากจะรับรู้ได้ว่า เรือเหาะยังคงมุ่งหน้าไปยังทิศทางบางแห่งอยู่ตลอดเวลาแล้ว ก็ไม่ค้นพบสิ่งใดอีก

ชิงฉินและคนอื่นๆ ก็ไม่เคยออกมาทำให้เขาลำบากใจอีกเลย

ด้วยเหตุนี้ หลิ่วหมิงจึงค่อยๆ ควบคุมอาการบาดเจ็บไว้ได้ และพลังเวทย์ก็ฟื้นฟูมากว่าครึ่งหนึ่ง

วันนี้ เขายังคงเป็นเหมือนที่ผ่านมา ดวงตาทั้งคู่หลับสนิทเพื่อโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บ ร่างของเขาแผ่คลื่นสั่นสะเทือนออกมา

ทั่วทั้งห้องสั่นสะท้านในทันที แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ

หลิ่วหมิงลืมตาทั้งสองทันที แววตาเขาดูระแวดระวัง หลังจากมองดูแสงจางๆ ที่กระพริบอยู่ตามผนังรอบด้านแล้ว ก็พูดพึมพำออกมา

“ถึงแล้วหรือ……”

ขณะที่เขาเตรียมจะลุกขึ้นนั้น เรือเหาะยักษ์ก็สั่นไหวอีกครั้ง จากนั้นก็รับรู้ได้ว่ามันค่อยๆ จมลงไป

ขณะเดียวกัน ชั้นจำกัดบนผนังรอบด้านก็พุ่งยิงออกมา ก่อให้เกิดแสงแวววาวส่องสะท้อนจนห้องสว่าง

พอมีแสงสว่างตรงหน้า หลิ่วหมิงก็รู้สึกว่าร่างของเขาสั่นไหว จึงรีบทำท่ามือด้วยความตกใจ ทันใดนั้นพลังเวทย์ก็พุ่งทะลักออกมาจนทำให้ร่างของเขามั่นคงขึ้น

ชั่วเวลาหนึ่งมือข้าวผ่านไป หลังจากได้ยินเสียงร่วงหล่นลง สีหน้าหลิ่วหมิงก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“ออกมาให้หมด!”

มีเสียงดังราวกับเสียงฟ้าร้องดังมาจากในห้อง จนทำให้หลิ่วหมิงรู้สึกแสบแก้วหู มันเต็มไปด้วยอานุภาพบางอย่างที่บอกไม่ถูก

ชั้นจำกัดบนประตูสลายไป จากนั้นมันก็เปิดออกมาเอง

หลิ่วหมิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกนอกประตู ขณะนี้มีทหารชุดเกราะสีฟ้าสองคนยืนอยู่ด้านนอก ใบหน้าของพวกเขาถูกหน้ากากปิดบังไว้ พอเห็นหลิ่วหมิง พวกเขาก็ขนาบหน้าหลังแล้วพาเดินไปด้านหน้า

เมื่อหลิ่วหมิงมาถึงดาดฟ้าเรือ ชิงฉินที่สวมชุดดำก็ยืนอยู่ที่นั่นแล้ว ข้างๆ มีชายฉกรรจ์ชุดดำยืนอยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา