เพราะเขาค้นพบว่า ข้างกายของเขานอกจากจะมีหัวหน้าผู้พิทักษ์ระดับของเหลวขั้นปลายที่เขาเห็นในก่อนหน้ากับผู้พิทักษ์อีกสองคนที่จับตัวเขาแล้ว ด้านหน้ายังมีผู้อาวุโสผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่คนหนึ่ง
ผมของผู้อาวุโสเป็นสีขาวเงิน สวมชุดคลุมค่อนข้างเก่า รอยย่นปรากฏเต็มใบหน้า มีรอยแผลเป็นตรงแก้มทั้งสองด้าน ดวงตาที่ดูขุ่นมัวค่อยๆ หรี่ลง เขาดูเหมือนวัยไม้ใกล้ฝั่ง แต่พลังชีวิตที่แผ่ออกมาแข็งแกร่งยิ่งนัก
ผู้อาวุโสยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาดูกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบด้าน และพลังจิตของหลิ่วหมิงไม่สามารถรับรู้ได้ว่าคนผู้นี้มีการฝึกฝนอยู่ระดับใด
ขณะที่หลิ่วหมิงมองคนผู้นี้อย่างละเอียดนั้น หัวหน้าผู้พิทักษ์ก็ค่อยๆ เดินไปข้างผู้อาวุโสอย่างนอบน้อม และค่อยๆ โน้มตัวพูดอะไรบางอย่างกับผู้อาวุโสเบาๆ
ผู้อาวุโสลืมตามองมาทางหลิ่วหมิงทันที ดวงตาของเขาเผยแววประหลาดใจออกมา และพยักหน้าเบาๆ จากนั้นผู้พิทักษ์ทั้งสามก็รีบจากไปอย่างนอบน้อม
ขณะนี้จึงเหลือแค่หลิ่วหมิงกับผู้อาวุโสเท่านั้น
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีที่มาที่ไปอย่างไร และทำไมราชาปีศาจสมุทรถึงส่งเจ้ามาที่นี่ แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว ชีวิตของเจ้าก็อยู่ในกำมือของข้า จุดนี้เจ้าเข้าใจใช่ไหม?”
เสียงของผู้อาวุโสไม่ดังมาก แต่กลับได้ยินอย่างชัดเจน
หลิ่วหมิงกลับแสดงสีหน้าเฉยๆ ออกมา แม้แต่ตาก็ไม่กระพริบ
ผู้อาวุโสเห็นเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา แต่ก็ไม่ได้โมโหอะไร และกล่าวต่อทันที
“เป็นทาสเหมืองแร่อยู่ที่นี่ มีกฎแค่สองข้อเท่านั้น หนึ่งอย่าได้คิดหนี มิเช่นนั้นถ้าถูกจับได้จะต้องตายทันที ไม่มีการโอบอ้อมอารีโดยเด็ดขาด สอง ทุกเดือนจะต้องส่งหินแร่ตามจำนวนที่กำหนด เพื่อนำมาแลกกับโอสถถอนพิษราชาปีศาจสมุทร มิเช่นนั้นพิษจะกำเริบจนเสียชีวิตภายในสามวัน”
พอหลิ่วหมิงได้ยินคำว่า ‘โอสถถอนพิษราชาปีศาจสมุทร’ สีหน้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ตอนนี้เขาถึงรู้ชื่อของโอสถสีดำ ฟังจากคำพูดของผู้อาวุโส โอสถถอนพิษที่พูดถึง มันแค่ช่วยระงับอาการไว้เท่านั้น
พอผู้อาวุโสกล่าวจบ และเห็นหลิ่วหมิงมีสีหน้าครุ่นคิด จึงถามออกมาทันที “มีตรงไหนที่เจ้าไม่เข้าใจหรือไม่?”
หลิ่วหมิงกล่าวออกมาอย่างราบเรียบ
“หากข้าสามารถหาหินแร่มาได้มากกว่าที่กำหนด จะเป็นอย่างไร?”
ผู้อาวุโสได้ยินก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“หากเจ้าหาหินแร่มาได้มากกว่าที่กำหนด ก็สามารถนำมาแลกของดีที่ข้าได้ แม้ว่าจะเป็นทาส ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างสบายได้ แต่ก่อนอื่นเจ้าหาวิธีอยู่ให้พ้นเดือนแรกก่อนเถอะ!”
พอผู้อาวุโสกล่าวจบก็ไม่รอความคิดเห็นจากหลิ่วหมิง เขาหยิบแผ่นค่ายกลที่มีแสงสีเงินออกมาจากอก มันมีขนาดเท่าสองฝ่ามือ มีอักขระจำนวนมากสลักอยู่บนนั้น
ผู้อาวุโสตบลงบนแผ่นค่ายกล และร่ายคาถาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน มือขวาก็ยกแผ่นค่ายกลขึ้นมา และส่งพลังเวทย์เข้าไปในนั้น
แผ่นกลมๆ เปล่งประกายแสงแสบตาออกมา
มีเสียงสะเทือนเลือนลั่นดังมาจากม่านแสงสีฟ้าครึ่งวงกลมที่ปกคลุมปากถ้ำ
พื้นดินบริเวณนั้นเริ่มสั่นไหว แสงสีเงินระยิบระยับ จากนั้นค่ายกลอักขระก็หมุนวนออกมาท่ามกลางแสงสีฟ้า
“เปิด!”
ผู้อาวุโสตะคอกเบาๆ และยกแขนปล่อยวิชาใส่ค่ายกลอักขระ
ระลอกคลื่นสีเงินจางๆ ที่ปรากฏออกมานอกค่ายกล เริ่มมีรอยร้าวปรากฏออกมา
พอผู้อาวุโสสะบัดแขนเสื้อพลังอันมหาศาลก็ถูกปล่อยออกมา
หลิ่วหมิงรู้สึกว่าร่างกายสั่นสะท้านจากนั้นก็ถูกพลังมหาศาลผลักไปในค่ายกล
พอดวงตาของเขามืดลง ร่างของเขาก็ตกลงไปด้านล่างอยู่ไม่หยุด
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา