จากข้อมูลที่ได้รับในก่อนหน้านั้น สถานการณ์ภายในถ้ำเหมืองแร่ไม่ค่อยดีมากนัก ไม่ว่าจะเป็นหินจิตวิญญาณหรืออาหารล้วนขาดแคลนเป็นอย่างมาก
แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ผู้ที่มีกายเนื้อแข็งแกร่งกลับได้เปรียบอย่างชัดเจน
ด้วยกายเนื้อที่แข็งแกร่งระดับเขา ดูเหมือนจะไม่ต้องหวาดกลัวผู้ใดในถ้ำเหมืองแร่
แผนของหลิ่วหมิงก็คือ อยากถือโอกาสในตอนที่ยังมีพลังเวทย์ไปตรวจสอบส่วนลึกของสายแร่ก่อน และถือโอกาสไปดูว่าอสูรโฉดมีรูปร่างอย่างไรกันแน่
เพราะหากไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมแห่งนี้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ได้ เมื่อพลังเวทย์ถูกใช้จนหมดสิ้น เขาก็จะเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แม้จะบอกว่าเขายังมีหินจิตวิญญาณระดับสูงกับโอสถอยู่ในหอยสังข์ย่อส่วนจำนวนหนึ่ง แต่สถานที่แห่งนี้ทำให้พลังหมดไปอย่างรวดเร็ว ย่อมไม่สามารถยืนหยัดได้นาน
ทางที่ดีก่อนพลังเวทย์จะหมดสิ้น เขาต้องหาวิธีไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้
หลิ่วหมิงจ้องมองสถานที่บางแห่งบนหนังอสูรด้วยแววตาเคร่งขรึม
ตามที่บันทึกไว้บนแผนที่ ทิศทางบางแห่งของทางสามแยกนี้มุ่งไปยังสายแร่ที่อยู่ลึกเข้าไป และยังผ่านเขตแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วย
สำหรับสถานที่ที่ดูคล้ายตลาดในการแลกเปลี่ยนสิ่งของและทรัพยากรของผู้ฝึกฝนระดับนี้ หลิ่วหมิงย่อมไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าถ้ำเหมืองแร่ใต้ดินแห่งนี้จะมีสถานที่แบบนี้ด้วย
พอหลิ่วหมิงคิดมาถึงจุดนี้ ก็ขยับตัวติดต่อกันอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็จมหายเข้าไปในทางเดินทางด้านซ้าย
สองชั่วยามผ่านไป หลิ่วหมิงเดินตามแผนที่เข้าไปยังทางเดินหลายแห่ง ในที่สุดก็มองเห็นแสงสีขาวจางๆ เปล่งประกายอยู่ไม่ไกลจากตรงหน้า ดูราวกับว่ามีอุโมงค์ขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกล เขาจึงก้าวยาวๆ ไปด้านหน้าด้วยความดีใจ
ประจักษ์ชัดว่าที่นี่คือ ‘เขตแลกเปลี่ยน’ ที่พูดถึง
สถานที่กว้างโล่งที่มีเสาหินสิบกว่าต้นตั้งตระหง่านอยู่ได้ปรากฏต่อสายตาของเขา
เสาแต่ละต้นมีขนาดเท่าอ่างน้ำ มีหินแร่ฝังอยู่เป็นจำนวนมาก มันส่องแสงจนในอุโมงค์สว่างกว่าปกติ
หลิ่วหมิงกวาดสายตามองผ่านไป
พื้นที่กว้างราวๆ สองสามร้อยจั้งแห่งนี้ นอกจากทางเดินในตอนที่เข้ามาแล้ว ยังมีทางเดินอีกหลายแห่งที่ไม่รู้ว่ามุ่งไปยังสถานที่แห่งใด แต่ตามที่บอกไว้บนแผนที่ มันมีทางเดินหนึ่งในนั้นมุ่งไปยังส่วนลึกของสายแร่
ดูท่าสถานที่แห่งนี้ คงจะมีทางเดินเชื่อมไปทุกหนทุกแห่ง
ดูจากผนังถ้ำที่มีหลุมขนาดต่างๆ และรอยสึกหรอเป็นจำนวนมาก ทำให้รู้ว่าแต่ก่อนสถานที่แห่งนี้ ก็เป็นแหล่งแร่เช่นกัน แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นที่รวมตัวของทาสเหมืองแร่มาระยะหนึ่งแล้ว
ตอนนี้มีทาสเหมืองแร่มารวมตัวกันสี่ห้าสิบคน จึงไม่ดูเงียบเงาเหงามากนัก
ทาสเหมืองแร่ส่วนมากเป็นเผ่าเจ้าสมุทร และก็มีมนุษย์และเผ่าอื่นๆ อยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนเผ่าปีศาจนั้นมีน้อยมาก
และทาสเหมืองแร่เหล่านี้ ต่างก็มีผิวขาวซีด ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าบนตัวขาดรุ่งริ่ง สีหน้าดูเหมือนไม่สนใจใยดีกับเหตุการณ์ภายนอก มีแค่ไม่กี่คนที่มีสีหน้าไม่สะทกสะท้าน และใบหน้าดูโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก
คนเหล่านี้วางสิ่งของจำนวนหนึ่งไว้กลางลานกว้าง และทำการแลกเปลี่ยนวัสดุและอาหารจำนวนหนึ่ง พวกเขาหลายคนมีดาบกระดูกอยู่บนเอวเหมือนกับหลิ่วหมิง แต่อาวุธจิตวิญญาณกลับมีไม่กี่ชิ้น
พอพวกเขาเห็นหลิ่วหมิงเข้ามา นอกจากมีสองสามคนที่หันมามองทีหนึ่งแล้ว คนส่วนมากก็ดูจะเหมือนจะไม่สนใจเลย ยังคงนั่งยังคงนั่งขัดสมาธิสนทนาต่อ
และผนังรอบด้านก็ถูกใช้ประโยชน์ ถ้ำหินบางแห่งที่สร้างขึ้นอย่างง่ายๆ ล้วนว่างเปล่า ถ้ำที่ถูกครอบครองบางแห่ง คนที่อยู่ในนั้นล้วนมีกลิ่นไอและสีหน้าดูดีกว่าพวกที่อยู่บนลาน และสิ่งของที่วางอยู่บนแท่นหินตรงหน้าของพวกเขา ก็มีคุณสมบัติดีกว่ามาก ดูท่าคงเป็นยอดฝีมือที่มีพลังแข็งแกร่งของกลุ่มอิทธิพลที่อยู่ในนี้
จะว่าไปแล้ว ทาสเหมืองแร่ที่อยู่ในเขตแลกเปลี่ยนเหล่านี้ ส่วนมากเป็นคนของกลุ่มอิทธิพลที่อ่อนแอที่สุด มีจำนวนหนึ่งเป็นแค่ศิษย์จิตวิญญาณเท่านั้น เกรงว่าผู้มีพลังแข็งแกร่งที่แท้จริง คงจะเข้าไปในส่วนลึกของสายแร่แล้ว
หลิ่วหมิงเดินเข้าไปในถ้ำด้วยสีหน้าสงบ หลังจากนั่งลงไปในที่ที่ไม่ค่อยสะดุดตาคนแล้ว ก็เริ่มทำการสังเกตอย่างเงียบๆ
สถานที่แห่งนี้คล้ายกับที่เขาคิดไว้ในก่อนหน้านั้น ซึ่งเป็นตลาดแบบดั้งเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา