จากนั้นเขาก็อ้าปากพ่นแสงสีฟ้าใส่ใบหน้าซีดขาวของหญิงสาวงดงามที่อยู่ในมือ
ริมฝีปากเจียหลานสั่นระริก คำพูดที่อยากจะพูดยังไม่ทันได้ออกจากปาก นางก็สลบไปก่อนแล้ว
ขณะนี้ ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวถึงหิ้วเจียหลานไปตรงหน้าก้อนน้ำแข็ง เขายื่นมือข้างหนึ่งไปสัมผัสใบหน้าหญิงสาวในก้อนน้ำแข็งเบาๆ ด้วยท่าทีที่ดูนุ่มนวลราวกับกลัวว่าจะทำให้นางตื่น ขณะเดียวกันก็กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พี่หลิง ข้าให้ท่านรอมานานมากพอแล้ว อีกไม่นานพวกเราคงได้หวนกลับมาพบกัน”
พอกล่าวจบ ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย จากนั้นมีแสงเปล่งออกมาบนฝ่ามือของเขา มันแผ่ระลอกคลื่นสีฟ้าจางๆ ออกมา
ฉากอันน่าตกใจได้เกิดขึ้นแล้ว!
ท่ามกลางระลอกคลื่นสีฟ้าที่แผ่กระจายออกไป ทำให้ก้อนน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็ว
และชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวที่มีสีหน้าสงบมาโดยตลอด ก็มีเม็ดเหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วผุดขึ้นบนหน้าผาก
ชั่วเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป
มีหญิงสาวสองคนนอนอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่มชุดคลุมสีขาว
พวกนางก็คือหญิงสาวสวมชุดชาววังฝ่ายในที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งในก่อนหน้านั้นกับเจียหลานนั่นเอง
และด้านล่างของพวกนางมีค่ายกลขนาดเล็กที่เปล่งแสงสีเงินอยู่ลางๆ
ภายใต้การสะบัดแขนเสื้อของชายหนุ่มชุดคลุมสีขาว ม้วนภาพวาดที่เปล่งแสงสีเงินจางๆ ก็ปรากฏออกมา
เขาโยนมันไปยังด้านข้างหญิงสาวที่สวมชุดชาววังฝ่ายใน จากนั้นมันก็ลอยขึ้นมาอยู่เหนือร่างของนาง และคลี่ออกมาราวกับสายน้ำตก ภาพวาดของบุคคลที่อยู่ในนั้นเหมือนกับหญิงสาวด้านล่างไม่มีผิด เพียงแต่ว่ามันพร่ามัวขึ้นทุกวัน
ชายหนุ่มชี้มือข้างหนึ่งไปยังรูปภาพขณะเดียวกันก็เริ่มทำการร่ายคาถา แต่พอมีแสงเปล่งประกายบนรูปภาพ มันก็ระเบิดตัวออกมา ไอดำกลุ่มหนึ่งและกลิ่นไอที่ดูอ่อนแรงเป็นอย่างมากแผ่ออกมาจากในนั้น และกระพริบจมหายไปในร่างของหญิงสาวสวมชุดชาววังฝ่ายในที่อยู่ด้านล่าง
ขณะนั้นเอง จี้หยกที่ห้อยอยู่บนเอวก็ส่งเสียงดังหวึ่งๆ
ราชาปีศาจสมุทรเห็นเช่นนี้ ก็คว้ามันมาไว้ในมือ จากนั้นมีเสียงดังมาจากจี้หยกท่ามกลางแสงสีขาวที่เปล่งประกาย
“ราชาปีศาจสมุทร ท่านกลับมาแล้ว วิเศษไปเลย! กองกำลังเผ่าเจ้าสมุทรได้…….”
ยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็ออกแรงบีบจี้หยกจนแตกกระจาย
จากนั้นนิ้วทั้งสิบของเขา ก็ดีดไปยังหญิงสาวที่อยู่บนค่ายกลอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ร่ายคาถาออกมา
ค่ายกลส่งเสียงดังเบาๆ ทันใดนั้นแสงสีเงินก็เปล่งประกายออกมา มันห่อหุ้มหญิงสาวที่สวมชุดชาววังฝ่ายในไว้อย่างรวดเร็ว
ขณะนั้นเอง ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็ตะโกนคำว่า “ขึ้น!” ออกมา
แต่พอมีแสงสีทองเปล่งประกายบนร่างของหญิงสาวที่สวมชุดชาววังฝ่ายใน กลุ่มไอดำที่มีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ก็ค่อยๆ ลอยออกมาจากหน้าผากของนาง
กลุ่มไอดำปรากฏขาดๆ หายๆ และกลิ่นไอที่แผ่ออกมาก็ดูอ่อนแรงเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มยื่นนิ้วชี้ออกไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และค่อยๆ ย้ายมันไปเหนือร่างของเจียหลานอย่างระมัดระวัง
ขณะที่กลุ่มไอดำมาถึงบนหน้าผากของเจียหลานนั้น มืออีกข้างของชายหนุ่มก็ค่อยๆ ชี้ไปที่นาง
จากนั้นไอดำก็กระพริบหายเข้าไปในหน้าผากของเจียหลาน
ขณะนี้ ราชาปีศาจสมุทรร่ายคาถาออกมาทันที ยันต์สีทองผืนหนึ่งพุ่งออกมาจากตัว หลังจากที่มันกระพริบหายไปแล้ว มันก็ไปติดอยู่ที่ระหว่างคิ้วของเจียหลาน และเปล่งแสงสีทองจางๆ ออกมา
ร่างของเจียหลานค่อยๆ สั่นสะท้าน และลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิเอง ขณะเดียวกัน อักขระสีทองไม่ทราบชื่อจำนวนมากก็โผล่ออกมา พริบตาเดียวก็ปกคลุมไปทั่วร่าง
ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวตบฝ่ามือใส่ค่ายกลสีเงินด้านล่างอีกครั้ง
“ฟู่!” ค่ายกลสีเงินส่งเสียงดังกังวานออกมาทันที จากนั้นไหมแสงสีเงินจำนวนมากก็พุ่งออกมาพันตัวของเจียหลานไว้ พริบตาเดียวก็ห่อหุ้มร่างของนางจนกลายเป็นรังไหมสีเงินที่สูงจั้งกว่าๆ
เมื่อทำทุกอย่างนี้เสร็จสิ้นแล้ว ชายหนุ่มชุดคลุมสีขาวก็ดูเหมือนจะโล่งใจไปเปราะหนึ่ง จากนั้นก็พูดพึมพำออกมา
“เจ็ดจิตหกวิญญาณของนางผู้นี้ ได้ถูกยันต์ลึกลับกับค่ายกลกำราบไว้แล้ว! เช่นนี้แล้ว อีกไม่นานข้าก็จะได้พบกับพี่หลิงอีกครั้ง น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่อาจหาร่างที่สมบูรณ์แบบมาให้ท่านได้”
พอกล่าวจบ ชายหนุ่มก็ใช้สายตาอาลัยอาวรณ์มองไปทางเจียหลานทีหนึ่ง หลังจากสะบัดแขนเสื้อ ร่างของเขาก็พร่ามัวหายไป
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ ยุติการแปลเนื่องจากสิ้นสุดระยะสัญญา